เรียน ท่านอาจารย์หมอ และคุณหมอที่เคารพ ขอความอนุเคราะห์ให้คำแนะนำในการรักษาอาการป่วยซึ่งมีหลายอาการในคนๆเดียว ทั้งโรคหัวใจที่ส่งผลให้มีอาการเลือดซึมในสมองจากการทานยาละลายลิ่มเลือด อาการปวดศรีษะที่เกิดจากภาวะเลือดซึมในสมองและหมอวินิจฉัยว่ากระดูกหูหลุด อาการปวดอัณฑะ อาการเพลียเหนื่อยง่ายอ่อนแรง โดยมีประวัติการป่วยและการรักษาดังนี้ค่ะ ผู้ป่วยปัจจุบันอายุ 51 ปี เพศชาย อาชีพรับราชการ อาศัยอยู่ที่จังหวัดอุบลราชธานี 1. เมื่อวันที่ 13 ก.ค. 57. มีอาการวูบ หมดสติ จนต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลสรรรพสิทธิ์ จังหวัดอุบลราชธานี หมอแจ้งว่าเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ มีการเหนื่อยมากนอนรักษาตัวอยู่ที่บ้านก็ไม่หาย เมื่อไปตรวจอีกครั้งหมอแจ้งว่าเป็นเบาหวาน รักษาตัวที่บ้านอีกระยะอาการไม่ดีขึ้น จึงไปหาหมอ ได้รับยาความดันมาเพิ่ม แต่อาการก็ไม่ดีขึ้น 2. เดือนกันยายน 2557 จึงไปเข้ารับการรักษาตัวที่ศูนย์หัวใจขอนแก่นเมื่อทดสอบ เดินสายพานไม่ผ่าน จึงเข้าตรวจพบเป็นเส้นเลือดหัวใจตีบ 2 เส้น หมอได้ทำบอลลูนใส่ขดลวด 1 เส้น เส้นเลือดที่ตีบเส้นที่ 2 อยู่บริเวณขั้วหัวใจ ทำบอลลูนอย่างเดียวไม่ใส่ขดลวด ต่อมากลับมารักษาตัวที่จังหวัดอุบลราชธานี 3. เดือนธันวาคม 2557 มีอาการปวดอัณฑะ เข้าพบหมอหมอแจ้งว่าเป็นท่อน้ำเชื้ออักเสบ อันตราซาวด์ไม่พบการติดเชื้อ แต่อาการเจ็บยังคงเป็นต่อเนื่องถึงทุกวันนี้ หากคลำดูจะมีก้อนเล็กๆ หยุ่นๆ ข้างลูกอัณฑะด้านซ้าย ถ้าจับจะมีอาการเจ็บ 4. เดือนเมษายน 2558 มีอาการเวียนศรีษะรุนแรง เมื่อเข้าตรวจหมอแจ้งว่ากระดูกหูหลุด เวลานอนตะแคงขวาจะมีอาการเวียนศรีษะมาโดยตลอดจนถึงปัจจุบัน 5. เดือนพฤศจิกายน 2560 มีอาการปวดศรีษะมาก จนต้องเข้าโรงพยาบาล หมอแจ้งว่า เลือดซึมในสมอง แต่เป็นจุดที่พบจะพบทั่วไปกับคนที่กินยาละลายลิ่มเลือด. อาการเวียนศรีษะ ยังคงเป็นจนทุกวันนี้ เป็นปัญหาในการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก จึงขอความอนุเคราะห์ให้คุณหมอให้คำแนะนำในการตรวจรักษาด้วยค่ะ ข้อสงสัยที่ต้องการรบกวนถามเพิ่มเติม *** หากลดยาละลายลิ่มเลือดหมอบอกว่าจะมีผลให้ลิ่มเลือดเกาะที่ขดลวดซึ่งส่งผลให้มีการอุดตันของเส้นเลือดเพิ่มขึ้น แต่ผู้ป่วยรับการรักษาทานยาตามที่หมอสั่งมาตลอดเป็นเวลากว่า 3 ปี ทานอาหารสุขภาพ ที่ช่วยลดไขมันอุดตันในเส้นเลือดเป็นประจำ ทั้งผัก ผลไม้ สมุนไพร มีความเป็นไปได้หรือไม่ว่าผู้ป่วยจะขอตรวจความอุดตันของเส้นเลือดอีกครั้งเพื่อให้ทราบว่า เส้นเลือดยังมีอาการอุดตันอยู่หรือไม่ หากพบว่าการอุดตันลดลงจนกระทั้งมีภาวะที่ดีแล้ว สามารถนำเอาขดลวดออกได้หรือไม่ เพื่อให้ไม่จำเป็นต้องทานยาละลายลิ่มเลือดซึ่งส่งผลให้มีอาการเลือดซึมในสมองจนปวดศรีษะ ซึ่งอาการปวดศรีษะมีผลต่อการทำงานและการดำเนินชีวิตเป็นอย่างมาก ยาที่กินในปัจจุบัน 1. ยาละลายลิ่ม 1. หลังอาหารเช้า 2. ยาสมอง 2. เม็ด หลังอาหารเช้ากลางวันเย็น 3. ลดไขมันในเลือด ก่อนนอน2. เม็ด ยาที่สั่งงด 1 เดือน ตั้งแต่วันที่ 13 1. ยาเบาหวาน 2. ยาความดัน 3. ยาขยายหลอดเลือด สามารถส่งฟิล์มเอกซ์เรย์สมองให้คุณหมอทราบประกอบการพิจารณาได้ค่ะ [email protected] ชื่นดวงใจ คงบาล