- ปวดท้อง (คาดว่าจะเป็นกระเพาะ) เรื้อรังมาประมาณ 1-2 ปีที่ผ่านมา - ระยะหลังเป็นค่อนข้างถี่ อาทิตย์เว้นอาทิตย์ - เท่าที่สังเกตจะเป็นตอนหลังรับประทานอาหาร - ปกติ สังสรรค์ ดื่มเบียร์ อาทิตย์ละครั้ง แต่ก็ไม่มีอาการชี้ชัดอะไรเมื่อดื่ม อยากรบกวนขอคำแนะนำว่าต้องทำอย่างไรถึงจะหายครับ หรือหากต้องไปตรวจด้วยตัวเอง แนะนำต้องไปที่ใด (ทำงานอยู่แถวปิ่นเกล้า-อรุณอมรินทร์ ไม่ไกลศิริราช)

สวัสดีครับ เนื่องจากคำว่าปวดท้องเป็นคำที่ค่อนข้างกว้าง ต้อง ถามว่า อายุเท่าไร มีโรคประจำตัวไหม ปวดตรงไหน ปวดอย่างไร ทำอะไรแล้วปวดมากขึ้น หรือทำอะไรแล้วปวดลดลง มีอาการ อื่นๆร่วมด้วยไหม ซึ่งข้อมูลไม่มี แต่จะตอบในส่วนที่ คิดว่า น่าจะเป็นโรคกระเพาะ นะครับ ซึ่ง ถ้าปวดบริเวณใต้ลิ้นปี่ ปวดจุกๆ เป็นๆหายๆ ปวดไม่นานเกินชั่วโมง แล้วไม่มีอาการอื่นๆ ร่วมเช่น ไม่คลื่นไส้ ไม่อาเจียน ไม่ท้องเสีย ซึ่งอาจจะเป็นโรคกระเพาะ ได้ครับ ซึ่งสาเหตุหนึ่งเกิดจากการ ดื่มสุราครับ เพราะการดื่มสุราทำให้เกิดกระเพาะอักเสบ ได้ แนะนำว่า ควรงดดื่มสุราไปก่อนครับ จนกว่าอาการจะดีขึ้นครับ ถ้าไม่หายควรไปตรวจเพิ่มเติมที่โรงพยาบาลใกล้เคียงครับ

สวัสดีครับ เนื่องจากคำว่าปวดท้องเป็นคำที่ค่อนข้างกว้าง ต้อง ถามว่า อายุเท่าไร มีโรคประจำตัวไหม ปวดตรงไหน ปวดอย่างไร ทำอะไรแล้วปวดมากขึ้น หรือทำอะไรแล้วปวดลดลง มีอาการ อื่นๆร่วมด้วยไหม ซึ่งข้อมูลไม่มี แต่จะตอบในส่วนที่ คิดว่า น่าจะเป็นโรคกระเพาะ นะครับ ซึ่ง ถ้าปวดบริเวณใต้ลิ้นปี่ ปวดจุกๆ เป็นๆหายๆ ปวดไม่นานเกินชั่วโมง แล้วไม่มีอาการอื่นๆ ร่วมเช่น ไม่คลื่นไส้ ไม่อาเจียน ไม่ท้องเสีย ซึ่งอาจจะเป็นโรคกระเพาะ ได้ครับ ซึ่งสาเหตุหนึ่งเกิดจากการ ดื่มสุราครับ เพราะการดื่มสุราทำให้เกิดกระเพาะอักเสบ ได้ แนะนำว่า ควรงดดื่มสุราไปก่อนครับ จนกว่าอาการจะดีขึ้นครับ ถ้าไม่หายควรไปตรวจเพิ่มเติมที่โรงพยาบาลใกล้เคียงครับ

สวัสดีครับ
อาการของโรคกระเพาะนั้นจะมีลักษณะคือจะทำให้มีอาการปวดจุกแน่นที่บริเวณใต้ลิ้นปี่ โดยอาการมักเป็นมากขึ้นถ้าหากมีการรับประทานอาการที่ไม่เป็นเวลาหรือรับประทานอาหารที่มีรสเผ็ดจัด เปรี้ยวจัด น้ำอัดลม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์

อย่างไรก็ตามอาการปวดจุกแน่นท้องในลักษณะนี้ก็ยังอาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆได้อีก เช่น การมีนิ่วในถุงน้ำดี ซึ่งจะทำให้มีอาการปวดจุกบริเวณใต้ชายโครงขวา โดยอาการมักจะเป็นมากในช่วงหลังรับประทานอาหารอิ่มใหม่ๆ รับประทานของมันของทอด

อย่างไรก็ตามเนื่องจากอาการที่เกิดขึ้นนั้นเป็นมานานถึง 2 ปีแล้ว หมอก็แนะนำว่าควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการให้ชัดเคก่อนก็จะดีกว่าครับ โดยแนะนำให้ไปตรวจได้ที่แผนกอายุรกรรม โดยเฉพาะถ้าหากมีอาการดังต่อไปนี้ร่วมด้วย คือ มีน้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ กลืนติดกลืนลำบาก อาเจียนเป็นเลือด ถ่ายอุจจาระเป็นสีดำหรือเป็นเลือด เพราะอาจมีสาเหตุที่เป็นอันตรายซ่อนอยู่ได้ครับ

ในระหว่างนี้สิ่งที่สามารถทำเพื่อดูแลตนเองเมื่อสงสัยว่าจะเป็นโรคกระเพาะได้ คือ ให้พยายามรับประทานอาหารให้ตรงเวลา หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารรสเผ็ดจัด เปรี้ยวจัด หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำอัดลม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และให้รับประทานผักผลไม้ให้มากขึ้นครับ

ในเบื้องต้นนั้นแนะนำให้เริ่มจากการพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการในเบื้องต้นก่อน เพื่อให้พอที่จะบอกความรุนแรงของโรคและสาเหตุได้ก่อนในเบื้องต้น

ถ้าหากสาเหตุเกิดจากโรคกระเพาะจริงและยังไม่เคยได้รับการรักษามาก่อน การรักษาในเบื้องต้นก็อาจเริ่มจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารร่วมกับการรับประทานยาลดกรดนาน 1-2 เดือนก่อน ถ้าหากไม่ดีขึ้นจึงพิจารณาเรื่องการส่องกล้องต่อไป

หรือในอีกกรณีหนึ่งคือถ้าหากมีอาการที่บ่งบอกถึงสาเหตุที่อาจเป็นอันตรายได้ แพทย์ก็อาจพิจารณาส่องกล้องตรวจให้เลยเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีสาเหตุที่เป็นอันตรายซ่อนอยู่ครับ

โดยในการส่องกล้องนั้นจะเป็นการส่องกล้องเพื่อดูหลอดอาหาร กระเพาะอาหาร และลำไส้เล็กส่วนต้นเป็นหลักครับ

สวัสดีครับ สำหรับ ถ้าอยากจะส่องกล้องดูในกระเพาะ นะครับ ต้องขึ้นอยู่การการวินิจฉัยของแพทย์ครับ ว่าเป็นโรคอะไร หลังจากที่ไปตรวจนะครับ เช่น ถ้าถูกวินิฉัย เป็นโรคกระเพาะ โดยส่วนมากจะ ได้รับยามากินก่อนครับ เป็นเวลาอย่างน้อย สองเดือน ถ้าอาการไม่ดีขึ้น แพทย์ผู้ทำการรักษา ก็อาจจะพิจารณาสำหรับการส่องกล้องให้ครับ แต่ถ้าถูกวินิจฉัยเป็นโรคอื่นๆเช่น มีอาการ อาเจียนเป็นเลือดดำ หรือ สด หรือ มีอาการถ่ายดำหรือ ถ่ายเป็นเลือด ก็จะถูกวินิฉัยว่าเป็น โรคเลือดออกจากทางเดินอาหาร ส่วนต่างๆ ก็จะได้รับ การส่องกล้อง ตรวจเร็วขึ้น เป็นต้นครับ แต่ถ้าอยากได้รับการส่องหล้องที่เร็วมากขึ้น และมีกำลังทรัพย์แนะนำให้ลองติดต่อกับทางโรงพยาบาลเอกชนครับ จะสามารถส่องกล้องได้เร็วขึ้นครับ

สวัสดีครับ สำหรับ ถ้าอยากจะส่องกล้องดูในกระเพาะ นะครับ ต้องขึ้นอยู่การการวินิจฉัยของแพทย์ครับ ว่าเป็นโรคอะไร หลังจากที่ไปตรวจนะครับ เช่น ถ้าถูกวินิฉัย เป็นโรคกระเพาะ โดยส่วนมากจะ ได้รับยามากินก่อนครับ เป็นเวลาอย่างน้อย สองเดือน ถ้าอาการไม่ดีขึ้น แพทย์ผู้ทำการรักษา ก็อาจจะพิจารณาสำหรับการส่องกล้องให้ครับ แต่ถ้าถูกวินิจฉัยเป็นโรคอื่นๆเช่น มีอาการ อาเจียนเป็นเลือดดำ หรือ สด หรือ มีอาการถ่ายดำหรือ ถ่ายเป็นเลือด ก็จะถูกวินิฉัยว่าเป็น โรคเลือดออกจากทางเดินอาหาร ส่วนต่างๆ ก็จะได้รับ การส่องกล้อง ตรวจเร็วขึ้น เป็นต้นครับ แต่ถ้าอยากได้รับการส่องหล้องที่เร็วมากขึ้น และมีกำลังทรัพย์แนะนำให้ลองติดต่อกับทางโรงพยาบาลเอกชนครับ จะสามารถส่องกล้องได้เร็วขึ้นครับ

จากอาการข้างต้นนั้นมีโอกาสเป็นได้ทั้งอาการจากการเป็นโรคกระเพาะและการเป็นนิ่วในถุงน้ำดีครับ เพราะอาการของ 2 โรคนี้มีความใกล้เคียงกันมากจึงทำให้แยกจากันได้ยาก

ดังนั้นถ้าหากได้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมในเบื้องต้นก่อนก็จะช่วยบอกสาเหตุได้ชัดเจนมากขึ้นครับ และถ้าหากอาการไม่ชัดเจนจริงๆการอัลตราซาวด์หน้าท้องเพื่อดูว่ามีนิ่วในถุงน้ำดีหรือไม่ก็จะช่วยในการวินิจฉัยได้ครับ

และถ้าหากสุดท้ายสาเหตุเกิดจากการเป็นโรคกระเพาะจริงก็ควรรับประทานยาต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเวลานาน 1-2 เดือนควบคู่กับการเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารครับ