เช้าวันที่ 7 ก.ค. 62 ผมมีอาการคั่นเื้อคั่นตัว ปวดหัวเหมือนมีไข้ครับผม วันที่ 8 อาการก็มาเพิ่มอีกคือ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดตามข้อ ปวดหัวตรงบริเวณหลังหูครับ พอวันที่ 9 อาการดีขึ้นมานิดนึงในตอนเช้าแต่พอตอนดึกก็รู้สึกเหมือนวันที่ 8 เป๊ะเลยครับ พอวันที่ 10 รู้สึกว่าอาการไข้เริ่มหายไป เหลือเเต่อาการปวดกล้ามเนื้อ ปวดข้อ แต่มีตุ่มแดงขึ้นที่แขนครับทั้งสองข้าง วันที่ 11 วันนี้เลยครับตอนเช้าผมได้ลองไปตรวจดูหมอแถวบ้านบอกว่าไม่ใช่ไข้เลือดออกเพราะถ้าไข้เลือดออกไข้จะไม่ลด พอผมกลับมาบ้านได้สักเดี๋ยวผมก็สังเกตเท้าของผมมันมีตุ่มแดงๆเหมือนแขนครับขึ้นมาที่เท้าผมอยากทราบว่าผมเป็นอะไรครับหมอ? *ที่ รพ.ที่ผมไปเมื่อเช้า หมอเขาได้จ่ายยาAMOXYCILLIN แค็ปซูลมาให้ครับ *ผมเพศชาย อายุ 20ปี สูง 159 ซม. หนัก 51 กก.

สวัสดีครับ สำหรับไข้เลือดออกจะมีอาการคือ  1.ไข้สูงลอย  2.เบื่ออาหาร  3.คลื่นไส้  4.ไม่ไอ ไม่มีน้ำมูก  5.มีจุดแดงขึ้นตามตัว แขน ขา เป็นต้นครับ และการจะบอกว่าเป็นไข้เลือดออกควรได้รับการเจาะเลือดดู เกล็ดเลือด หรือ หาภูมิต้านทานต่อไข้เลือดออกอีกทีครับ การเป็นไข้จะแบ่งได้ 3 แบบครับ คือ  1. ไข้เฉียบพลัน คือ จะมีไข้ ช่วงไม่เกิน 7 วัน จะไข้สูงหรือต่ำก็ได้ จะรับรู้ได้ว่ามีไข้ มันจะเกิดขึ้นไว เช่น ไข้หวัด ปอดติดเชื้อ ไข้เลือดออก ติดเชื้อในกระแสเลือดเป็นต้นครับ  2.ไข้กึ่งเรื้อรัง คือ การการเป็นไข้นานกว่า 7วัน ถึง 14 วันครับ จะมีอาการถึงไข้ได้ อาจจะเป็นพวก เช่นไข้มาลาเรีย เป็นต้นครับ  3.ไข้เรื้อรัง คือเป็นไข้นานกว่า 2 สัปดาห์ครับ อาจจะพบได้ในโรค วัณโรค มะเร็ง แพ้ภูมิคุ้มกันต้นเอง เป็นต้นครับ เพราะฉะนั้นถ้าเป็นไข้แนะนำว่าควรไปพบแพทย์ครับ จะได้ทำการตรวจเลือดเพิ่มเติมครับ