สวัสดีครับ ผมอยากปรึกษา และขอคำแนะนำหน่อยครับ คือแฟนผมปจด.ไม่มี 2 เดือนแล้วครับ คือผมกับแฟนมีอะไรกันล่าสุดวันที่ 19 ก.พ. (ใส่ถุงและส่วนใหญ่ก็ปล่อยนอกครับ) ถัดจากวันที่ 19 ไป 3-4 วัน ปจด.แฟนก็มาครับ แต่มาเป็นสีดำประมาณ 7-8 วันครับ และเมื่อเข้าเดือนมี.ค. ประมาณวันที่ 20กว่าๆ ปจด.แฟนก็มา สีของปจด.เป็นสีแดงปกติมาประมาณ 6-7 วันครับ แต่หลังจากนั้นปจด.แฟนก็ไม่มาอีกเลยจนถึงวันนี้ครับ ซึ่งปกติแล้วปจด.เค้าเคลื่อนตลอดครับวันที่ที่ปจด.มาแต่ละเดือนไม่เคยตรงกัน แต่ก็ไม่เคยขาด แฟนเคยทานยาสตรีเบนโลเมื่อช่วงเดือนพ.ค. ประมาณ 2 สัปดาห์ได้ครับ แต่ก็ยังไม่มา คือผมเข้าใจว่าเธอท้อง แต่เธอบอกว่า เธอไม่มีอาการใดๆเลยครับ แต่เธอมีอาการตกขาวมากกว่าปกติครับ อยากทราบว่าเป็นไปได้ไหมครับที่แฟนผมจะท้อง หรืออาจเสี่ยงต่อการเป็นโรคหรือติดเชื้ออื่นๆ แล้วถ้าหากไม่ได้เป็นอะไร ต้องทำยังไงครับปจด.แฟนผมจะมาปกติ ปล.ใส่ถุงถูกต้องตามขั้นตอน ตอนถอดน้ำอสุจิก็มีอยู่ในถุง

สวัสดีค่ะ
ประจำเดือนที่มาปกติ คือ จำนวน 3-7 วัน ปริมาณปกติคือใช้ผ้าอนามัย 1-3 แผ่นต่อวัน รอบเดือนปกติของสตรีวัยเจริญพันธุ์นั้น อยู่ที่ 28-35 วัน ก็จะแสดงว่าไม่ตั้งครรภ์ค่ะ
ดังนั้น การมีเพศสัมพันธ์ก่อนวันที่ 20กว่าๆ มีนาคมนั้น ไม่ได้ตั้งครรภ์ค่ะ
สำหรับการสวมถุงยางอนามัย อย่างถูกต้อง ไม่รั่วซึม มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 2-15 % ค่ะ

ประจำเดือนขาด เป็นสัญญาณหนึ่งของการตั้งครรภ์ได้ค่ะ
จึงแนะนำตรวจการตั้งครรภ์ด้วยปัสสาวะค่ะ
หากพบการตั้งครรภ์ แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อฝากครรภ์ ณ รพ ที่มีสิทธิ์การรักษาค่ะ
แต่หากไม่พบการตั้งครรภ์ อาจเกิดจากประจำเดือนคลาดเคลื่อนได้ ซึ่งการที่ประจำเดือนคลาดเคลื่อนไปไม่กี่วันนั้นมีปัจจัยได้หลายอย่างค่ะ ทั้งจากตัวผู้ป่วยเอง การพักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียด ความกังวล การตกไข่ไม่สม่ำเสมอ ผลข้างเคียงจากการรับประทานยาอื่น น้ำหนักตัวมากหรือน้อยเกินไป ฮอร์โมนในเลือดผิดปกติ การออกกำลังอย่างหนัก ล้วนแต่ทำให้ประจำเดือนคลาดเคลื่อนได้
กรณีนี้ แนะนำพักผ่อนให้เพียงพอ ทำจิตใจให้สบาย เพื่อให้วงจรฮอร์โมนในร่างกายกลับมาปกติ
และควรไปพบสูติแพทย์หากประจำเดือนขาดมากกว่า 3 เดือนติดต่อกัน หรือ 3 รอบเดือนตลอด 1 ปีค่ะ

หากไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ (ไม่ได้สอดใส่ใดๆเลย) หลังประจำเดือนมานั้น แสดงว่าไม่ได้ตั้งครรภ์ค่ะ ทั้งนี้ ต้องแน่ใจจริงๆว่า เลือดที่ออกมานั้น เป็นประจำเดือน ไม่ใช่เลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดค่ะ (ลักษาณะของประจำเดือนดังที่กล่าวไว้ข้างต้นนะคะ)
หากไม่เกิดจากการตั้งครรภ์จริง สาเหตุที่ทำให้เกิดประจำเดือนมาผิดปกติ หรือไม่มานั้น มีหลายปัจจัยมากค่ะ ยกตัวอย่าง เช่น ปัญหาเกี่ยวกับรังไข่ (ถุงน้ำรังไข่หลายใบ ;PCOS ซึ่งเป็นโรคที่พบได้บ่อยในสตรีที่ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ น้ำหนักมาก สิวขึ้น) มดลูก ปากมดลูก ช่องคลอด หรือศูนย์ควบคุมการหลั่งฮอร์โมนในสมอง ไทรอยด์เป็นพิษ เป็นต้น
สาเหตุแต่ละอย่าง ต้องอาศัยการซักประวัติอย่างละเอียด ร่วมกับการตรวจทางห้องปฏิบัติการต่างๆ
ควรไปพบสูติแพทย์หากประจำเดือนขาดมากกว่า 3 เดือนติดต่อกัน หรือ 3 รอบเดือนตลอด 1 ปีค่ะ