May 04, 2018 23:19
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
การตอบสนองต่อยาของแต่ละคนอาจต่างกัน ทำให้แม้จะใช้ยาคุมยี่ห้อเดียวกันแต่ก็เกิดผลข้างเคียงมากหรือน้อยแตกต่างกันได้ อีกทั้งไม่มียาคุมกำเนิดตัวใดหรือชนิดใดที่จะไม่มีข้อเสียค่ะ ดังนั้น การลดหรือเลี่ยงผลข้างเคียงบางอย่าง อาจทำให้เสี่ยงต่อผลข้างเคียงอีกอย่างแทนได้
ยาคุมสำหรับหญิงให้นมบุตร ก็คือยาคุมชนิดฮอร์โมนโปรเจสตินเดี่ยวค่ะ ซึ่งผลข้างเคียงที่เด่น ๆ ก็คือมีเลือดกะปริบกะปรอย, ประจำเดือนไม่ปกติ หรือไม่มีประจำเดือน รวมถึงอาจทำให้เกิดสิวและหน้ามันได้ถ้าใช้ยี่ห้อที่เป็นฮอร์โมนโปรเจสตินรุ่นเก่า
หากต้องการให้มีประจำเดือนสม่ำเสมอตามรอบ จะต้องเปลี่ยนจากยาคุมชนิดฮอร์โมนโปรเจสตินเดี่ยวที่ใช้อยู่ มาเป็นยาคุมชนิดฮอร์โมนรวมซึ่งมีทั้งเอสโตรเจนและโปรเจสตินค่ะ แต่ก็อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงจากเอสโตรเจนตามมา เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ ปวดคัดตึงเต้านม เป็นฝ้า บวมน้ำ รวมถึงความเสี่ยงที่รุนแรงเช่น การเกิดลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำ
การใช้ยาคุมชนิดฮอร์โมนรวมให้ปลอดภัย จึงต้องมีการประเมินก่อนว่าผู้ใช้มีสภาวะทางสุขภาพที่ถือเป็นข้อจำกัดการใช้ฮอร์โมนเอสโตรเจนหรือไม่ ดังนั้น หากสนใจจะเปลี่ยนชนิดของยาคุมกำเนิด แนะนำให้ไปพบสูตินรีแพทย์ที่โรงพยาบาลหรือคลินิกสูตินรีเวชใกล้บ้าน เพื่อตรวจและประเมินความเสี่ยง เพื่อที่จะแนะนำชนิดของยาคุมกำเนิดหรือวิธีคุมกำเนิดที่เหมาะสมให้ค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ขอถามหน่อยค่ะคือดิฉันมีบุตรมา4คนและหลังจากทีคลอดบุตรมาก็กินยาคุมทีเป็นยาสำหรับแม่ทัให้นมบุตรกินแบบนี้มาตลอดทีไม่เปลี่ยนเพาะกลัวว่าถ้าเปลี่ยนยาคุมจะทำให้อ้วนขึ้นเนื่องจากกินตีวนี้แล้วไม่อ้วนแต่ก้ทำให้ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอบางเดือนมาบางเดือนไม่มาจรึงอยากทราบว่ามันเกี่ยวกันไมค่ะและถ้ายังกินต่อจะเป็นอันตรายไมแต่ตอนนี้ลูกชายคนที4อายุ3ขวบครึ่งแล้วค่ะหรือคุณหมอมียาคุมตัวไหนทีจะแนะนำให้รับประทานค่ะขอทีกินแล้วไม่อ้วนนะค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)