August 24, 2019 11:56
ตอบโดย
Shintai Thavonlun (นพ.)
ถ้าเป็นยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ส่วนใหญ่มีประสิทธิภาพประมาณเกือบ 90% หากทานถูกวิธีภายในวันแรกครับ ประสิทธิภาพจะลดลงเรื่อยๆตามเวลาที่ทานครับ (ทานอย่างช้าไม่ควรเกิน72ชั่วโมง ช้าสุด120ชั่วโมงครับ)
อย่างไรก็ตาม แนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์หลังมีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุด 2 สัปดาห์ และ ให้ตรวจซ้ำอีกครั้งใน 1 สัปดาห์ต่อมาแม้ผลปกติครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
หมอรบกวนขอทราบข้อมูลเพิ่มเติมดังนี้ก่อนนะครับ
- ยาคุมที่รับประทานเป็นยาคุมแบบรายเดือนหรือยาคุมฉุกเฉิน
- มีเพศสัมพันธ์วันที่เท่าไหร่
- เริ่มรับประทานยาคุมวันที่เท่าไหร่
- ประจำเดือนครั้งสุดท้ายมาในช่วงวันที่เท่าไหร่
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
-ยาคุมฉุกเฉินค่ะ
-ครั้งแรกวันที่20คะแต่ทานยาไปแล้วค่ะมีอีกครั้งที่2วันที่22ค่ะแต่หลั่งในค่ะ
-ไม่ได้ทายรายเดือนค่ะแต่ถามยาคุมฉุกเฉินค่ะวันที่20คะอีก12ชั่วโมงทานอีก1เม็ดค่ะ
-เดือนนี้ค่ะวันที่ 7-8-9ค่ะ
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ถ้า "ยาคุม" ที่ผู้ถามใช้ คือ "ยาคุมฉุกเฉิน" อาจช่วยลดความเสี่ยงจากการมีเพศสัมพันธ์ก่อนที่้รับประทานยาคุมได้ค่ะ โดยถ้าใช้ถูกต้อง, ครบขนาด และทันเวลา ก็จะช่วยลดความเสี่ยงลงมาเป็น 15 - 25%
แต่ "ยาคุมฉุกเฉิน" ไม่มีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องหลังรับประทานนะคะ หากมีเพศสัมพันธ์ซ้ำอีกโดยไม่ป้องกันใด ๆ ก็มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 85% ตามปกติค่ะ
ซึ่งหากผู้ถามต้องการลดความเสี่ยงดังกล่าวให้น้อยลง ก็จะต้องรับประทาน "ยาคุมฉุกเฉิน" แผงใหม่ทันที หรือเร็วที่สุดที่ทำได้ ไม่ให้เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์นะคะ
และถ้าจะมีเพศสัมพันธ์ครั้งต่อไป หากไม่ได้คุมกำเนิดด้วยวิธีใด ๆ อยู่ และยังไม่พร้อมจะมีบุตร ก็ควรใช้ถุงยางอนามัยป้องกันทุกครั้ง เพราะถ้าใช้ถูกต้องและไม่รั่วซึมหรือฉีกขาด จะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียง 2% ซึ่งถือว่าน้อยมากจนไม่น่าจะกังวล อีกทั้งยังช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้อีกด้วยค่ะ
..
..
..
แต่ถ้า "ยาคุม" ที่ผู้ถามใช้ คือ "ยาคุมรายเดือน" ต้องขอทราบข้อมูลเพิ่มเติมดังนี้ค่ะ
1. ใช้ยาคุมยี่ห้ออะไรคะ
2. เริ่มรับประทานเม็ดแรกของแผงนี้ในวันที่เท่าไหร่
3. รับประทานเม็ดสุดท้ายของแผงเดิมในวันที่เท่าไหร่ (ถ้าใช้แผงแรก ขอทราบวิธีคุมกำเนิดเดิมที่ใช้ และใช้มาจนถึงเมื่อไหร่)
4. ประจำเดือนรอบล่าสุดมาตั้งแต่วันที่เท่าไหร่ถึงเท่าไหร่คะ
5. นับจากวันแรกที่มีประจำเดือนมาในรอบล่าสุด มาจนถึงปัจจุบัน มีเพศสัมพันธ์ในวันที่เท่าไหร่บ้างคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
1.จำไม่ได้ค่ะแต่รู้ว่าเป็นยาคุมฉุกเฉิน
2.เม็ดแรกทานวันที่21ค่ะตอนตี4.00เม็ดที่สองทานตอน16.00ค่ะ
3.หนูไม่ได้ทานยาคุมเเบบรายเดือนค่ะ หนูทานยาคุมฉุกเฉินค่ะ หนูกำลังจะเริ่มทานยาคุมแบบรายเดือนค่ะ
4.ประจำเดือนวันแรกมาวันที่7เดือนสิงหาค่ะวันสุดท้ายมาวันที่9-10ค่ะ
5.นับจากประตำเดือนมาถึงมีเพศสัมพันก็14วันค่ะอั้นนี้ยังไม่รวมที่สองค่ะถ้ารวมก็16วันค่ะ
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
ถ้าหากเป็นการป้องกันการตั้งครรภ์ด้วยาคุมฉุกเฉินก็ถือเป็นวิธีการป้องกันการตั้งครรภ์ที่เหมาะสมสำหรับในกรณีที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกันไปแล้วครับ อย่างไรก็ตามยาคุมฉุกเฉินจะมีผลป้องกันการตั้งครรภ์เฉพาะการมีเพศสัมพันธ์ที่เกิดก่อนการรับประทานบา 120 ชั่วโมงเท่านั้นครับ ถ้าหากได้มีเพศสัมพัน์ซ้ำอีกหลังจากนั้นหมอก็แนะนำให้หายาคุมฉุกเฉินมารับประทานใหม่อีกครั้งก่อน โดยให้รับประทานภายใน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ก็จะช่วยลดโอกาสตั้งครรภ์ลงได้ 75-85% แต่ถ้าหากเลยช่วงเวลาดังกล่าวไปแล้วก็ยังอนุโลมให้รับประทานภายใน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ได้ แต่ประสิทธิภาพของยาก็จะลดลงไปเรื่อยๆตามเวลาที่ผ่านไปครับ
และในครั้งต่อไปที่จะมีเพศสัมพันธ์อีกก็ควรมีการป้องกันทุกครั้งเพื่อความปลอดภัยครับ เนื่องจากยาคุมฉุกเฉินไม่ใช่วิธีการป้การตั้งครรภ์ที่มีประสิทธิภาพสูง การรับประทานยาคุมฉุกเฉินบ่อยๆจะทำให้ยังมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้ง่ายอยู่ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ขอบคุณค่ะ
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
"ยาคุมฉุกเฉิน" ไม่มีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องหลังรับประทานนะคะ ผู้ถามจึงควรรับประทาน "ยาคุมฉุกเฉิน" แผงใหม่ทันทีในตอนนี้ หรือเร็วที่สุดที่ทำได้ ไม่ให้เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ เพื่อลดความเสี่ยงจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดค่ะ
โดยสามารถรับประทานแบบครบขนาดในครั้งเดียวได้ นั่นคือ ถ้าใช้ยี่ห้อที่มีแผงละ 2 เม็ด ก็รับประทาน 2 เม็ดพร้อมกันในครั้งเดียว หรือถ้าใช้ยี่ห้อที่มีแผงละ 1 เม็ด ก็รับประทานเม็ดเดียวครั้งเดียวค่ะ
จากนั้นให้รอดูว่าจะมีประจำเดือนมาหรือไม่ ซึ่งหากไม่มีการตั้งครรภ์ ผู้ใช้ยาคุมฉุกเฉินส่วนใหญ่จะมีประจำเดือนมาตรงตามรอบปกติเดิม หรือคลาดเคลื่อนเพียงไม่กี่วันค่ะ (ไม่ต้องสนใจว่าจะมีเลือดกะปริบกะปรอยภายใน 7 วันนี้หรือไม่ เพราะเป็นเพียงผลข้างเคียงจากยา ไม่ได้สำคัญอะไร)
ถ้าไม่มีประจำเดือนมา หรือถ้ากังวลว่าจะตั้งครรภ์ สามารถตรวจให้ชัดเจนได้ โดยใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันนะคะ
และถ้าจะมีเพศสัมพันธ์ครั้งต่อไป หากไม่ได้คุมกำเนิดด้วยวิธีใด ๆ อยู่ และยังไม่พร้อมจะมีบุตร ก็ควรใช้ถุงยางอนามัยป้องกันทุกครั้ง เพราะถ้าใช้ถูกต้องและไม่รั่วซึมหรือฉีกขาด จะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียง 2% ซึ่งถือว่าน้อยมากจนไม่น่าจะกังวล อีกทั้งยังช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้อีกด้วยค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมอค่ะหนูอยากรู้ว่ากินยาคุมหลังมีเพศสัมพันไปแล้วค่ะตกมาอีก2วันมีอีกแต่หลั่งในจะมีโอกาสท้องมั้ยค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)