September 23, 2018 01:29
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
ในกรณีที่ผู้ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าอยู่นั้น การรับฟังความทุกข์ของผู้ป่วยอย่างเข้าใจและคอยให้กำลังใจก็เป็นการช่วยผู้ป่วยได้ส่วนหนึ่งแล้วครับ
แต่โรคซึมเศร้านั้นเป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของสารเคมีในสมองครับ ทำให้การพูดคุยให้กำลังใจผู้ป่วยเพียงอย่างเดียวนั้นอาจไม่เพียงพอที่จะทำให้ผู้ป่วยดีขึ้นได้ การที่จะช่วยให้อารมณ์ดีขึ้นได้นั้นจำเป็นต้องใช้ยาเพื่อปรับการทำงานของสารเคมีในสมองร่วมด้วยครับ
ในกรณีที่ผู้ป่วยยังไม่เคยไปพบแพทย์เพื่อรักษามาก่อนเลยก็ควรพาผู้ป่วยไปพบจิตแพทย์เพื่อประเมินอาการและให้การรักษาครับ
แต่ถ้าหากในปัจจุบันผู้ป่วยได้รับการรักษาอยู่แล้ว ก็เป็นไปได้ว่าขนาดยาอาจจะยังไม่เพียงพอที่จะทำให้อารมณ์ของผู้ป่วยดีขึ้น ในกรณีนี้จึงควรพาผู้ป่วยกลับไปพบแพทย์เพื่อปรับยาครับ
และในกรณีที่ผู้ป่วยอาการรุนแรงมากจริงๆ และแพทย์ประเมินว่ามีความเสี่ยงที่จะฆ่าตัวตายสูง ก็อาจมีความจำเป็นต้องให้นอนรักษาตัวในโรงพยาบาลไปก่อนจนกว่าอารมณ์จะดีขึ้น
นอกจากนี้สิ่งที่คุณอาจทำได้เพื่อป้องกันการฆ่าตัวตายของผู้ป่วยคือไม่ควรปล่อยให้ผู้ป่วยอยู่คนเดียว เก็บอุปกรณ์ที่ผู้ป่วยอาจใช้ฆ่าตัวตายได้ให้มิดชิด เช่น มีด เชือก ยาต่างๆ ครับ
โรคซึมเศร้านั้นเป็นโรคเรื้อรังที่ต้องใช้เวลารักษาค่อนข้างนาน ทำให้อาจส่งผลให้เกิดความทุกข์ต่อคนในครอบครัวได้พอควร หมอขอชื่นชมคุณที่เป็นห่วงน้องสาวและพยายามหาทางช่วยเหลือน้องสาวอยู่ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมานะครับ ยังไงในตอนนี้คงต้องพาน้องสาวกลับไปพบแพทย์เพื่อประเมินอาการซ้ำอีกครั้งก่อนจะดีที่สุดครับ
หมอเป็นกำลังใจให้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ผมขอหลายๆคำตอบจากคุณหมอหลายๆท่านนะครับ ผมจะได้มาศึกษาเรื่องนี้ต่อเรื่อยๆครับ ผมศึกษามา 6 เดือนแล้วครับหลังจากที่รู้ว่าผู้ป่วยเป็นโรคนี้ ด้วยความใส่ใจ สละเวลา ความรัก ความเข้าใจ และอยากจะช่วยผู้ป่วยให้หายจากโรคนี้ครับผม ขอบคุณอย่างสูงครับ
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
ในกรณีที่มีอาการซึมเศร้า ไร้กำลังใจอาจส่งผลให้เกิดการเจ็บป่วยด้วยโรคทางด้านร่างกายตามมาได้
เบื้องต้นให้น้องเขาลองทำแบบประเมินภาวะซึมเศร้าด้วยตัวเอง ดูก่อนก็ได้ค่ะ โดยให้สำรวจอาการภายในระยะ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมารวมวันนี้มีอาการเหล่านี้มากน้อยเพียงใด โดยให้คะแนนแต่ละอาการดังนี้
ไม่มีเลย 0 คะแนน
มี 1-7วัน 1 คะแนน
มากกว่า 7 วัน 2 คะแนน
ทุกวัน 3 คะแนน
ลักษณะอาการในช่วง 2 สัปดาห์
1. เบื่อหน่าย ไม่สนใจอยากจะทำอะไร
2. ไม่สบายใจ ซึมเศร้า ท้อแท้
3. หลับยาก หลับๆตื่นๆ หรือหลับมากเกินไป
4. เหนื่อยง่าย ไม่ค่อยมีแรง อ่อนเพลีย
5. เบื่ออาหาร หรือ กินได้มาก กินจุบจิบตลอดเวลา
6. รู้สึกไม่ดีกับตัวเอง คิดว่าล้มเหลว หรือคิดว่าทำให้ตนเองและครอบครัวต้องผิดหวัง
7. ขาดสมาธิ เหม่อลอย ขี้ลืมบ่อย
8. ทำอะไรช้าลง กระสับกระส่าย อยู่นิ่งไม่ได้
9. คิดทำร้ายตัวเอง อยากตาย หรือตายไปจะดีกว่า
รวมคะแนน หากคะแนนรวมมากกว่า 7 คะแนนขึ้นไป ก็ควรพาน้องไปพบจิตแพทย์ ประเมินอาการอื่นๆเพิ่มเติม เนื่องจากว่าหากมีอาการเรื้อรังมานานโรคอาจพัฒนารุนแรงจนมีอาการทางจิตแทรกได้ เช่น มีหุแว่ว เป็นเสียงมาสั่งให้ฆ่าตัวตาย ระแวงกลัว เป็นต้น
จากนั้นคุณหมอจะวินิจฉัยโรคและให้การรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม ซึ่งขั้นต้นอาจต้องใช้ยาในกลุ่มต้านเศร้ารักษาเพื่อปรับสารเคมีในสมองให้หลั่งสมดุล จะช่วยให้ความคิด อารมณ์ เป็นไปในทางบวก และสามารถควบคุมพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมได้ นอกจากนั้นอาจต้องใช้ยาอื่นๆตามอาการของผู้ป่วยด้วย เมื่อการรักษาด้วยยาดีขึ้น ผู้ป่วยหยั่งรู้อาการป่วยของตนเองบ้างแล้วจากนั้นอาจจะต้องเข้าคอร์สจิตบำบัดฟื้นฟูสภาพจิตใจด้วยค่ะ ในกรณีที่ถูกแม่ทำร้าย น้องอายุ 14 ปี จริงแล้วสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองเด็ก หรือโทรปรึกษา 1300 (ศูนย์ประชาบดี) เพื่อลงเยี่ยมบ้าน ประเมินสภาพปัญหา ใช้กฎหมายคุ้มครองเด็กในกรณีความรุนแรงในครอบครัว นอกจากนั้นอาจมีการไกล่เกลี่ย ให้ทุกคนในครอบครัวได้เข้าใจและร่วมมือเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยนะคะ
ส่วนกรณีที่คุณต้องการให้กำลังใจ คุณสามารถทำได้ ปลอบใจ บอกน้องเขาว่ายังมีพี่อยู่อีกคน ให้เขาพยายามมองคนอื่นที่มีชีวิตที่แย่กว่า ชวนเขาไปออกกำลังกาย การออกกำลังกายจะช่วยให้สภาพจิตใจดีขึ้นได้ หากิจกรรมเพลิดเพลินทำร่วมกัน แต่วิธีการให้กำลังใจนั้นอาจไม่ได้ทำให้เขาอาการดี 100 % นะคะ การรักษาที่ได้ผลดีคือการรักษาด้วยยา ร่วมกับการทำจิตบำบัดและการปรับตัวของผู้ป่วยและคนใกล้ชิดด้วยค่ะ และตัวคุณเองก้ต้องปรับตัวในเรื่องของคำพูดที่มักจะพูดก่อนคิดด้วยนะคะ เพราะผู้ป่วยซึมเศร้าเขาจะเซนส์มาก พูดนิดเดียวแต่เขาอาจคิดหาเหตุผลที่เป็นลบไปร้อยเท่า เป็นกำลังใจให้ทั้งคุณและน้องนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
วันนี้ผมโทรคุยกับผู้ป่วยครับ ผู้ป่วยบอกว่า "ไม่สู้แล้วเหนื่อยแล้ว สู้ไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมา" "อยากให้โรคนี้หายไป" ผมควรให้กำลังใจปลอบใจยังไงดีครับ?? 23/9/61
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
ในผู้ป่วยมีอาการของโรคซึมเศร้ารุนแรงและมีความคิดจะฆ่าตัวตายนั้นไม่ควรปล่อยให้ผู้ป่วยอยู่คนเดียวครับ เนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะฆ่าตัวตายได้สูงมาก หมอแนะนำว่าควรมีคนอยู่กับผู้ป่วยตลอดเวลา และควรพาผู้ป่วยไปพบแพทย์เพื่อประเมินอาการครับ
ในกรณีที่ผู้ป่วยมีอารมณ์เศร้าขึ้นอย่างรุนแรงจริงๆนั้นเป็นเรื่องยากที่จะพูดคุยให้ผู้ป่วยอารมณ์ดีขึ้นได้ เนื่องจากโรคซึมเศร้านั้นเป็นผลมาจากความผิดปกติของสารเคมีในสมอง ตราบใดที่สารเคมีในสมองยังทำงานผิดปกติอยู่ อารมณ์เศร้าก็จะหายไปได้ยากครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
แนะนำให้คุณโน้มน้าว พาเขาไปพบจิตแพทย์นะคะ หากมีอาการรุนแรงขนาดนี้ต้องรักษาด้วยยา ร่วมกับการทำจิตบำบัด หากปล่อยไว้แบบนี้เกรงว่าน้องเขาจะคิดสั้น ฆ่าตัวตายสำเร็จ แล้วคุรจะรู้สึกผิดในภายหลังนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
คือน้องผมไปพบแพทย์ 7 เดือนแล้วครับ ตอนแรกๆก็ดีขึ้นมากๆครับแต่ตอนนี้ เริ่มแย่ลง หมอก็ให้ยาเพิ่ม แต่วันนี้รู้สึกว่าน้องดีขึ้นมานิดๆแล้วครับ และตอนนี้น้องก็เหลือผมคนเดียวแล้วครับที่น้องไว้ใจ รอแพทย์นัดเดือนหน้าครับ ลุ้นมาก ว่าจะดีขึ้นไหม >
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
การที่ไปพบแพทย์ติดตามอาการและรับประทานยาต่อเนื่องสม่ำเสมอนั้นเป็นเรื่องที่ดีครับ แต่ในระหว่างที่รอไปติดตามอาการตามนัดอยู่นั้นก็ควรมีการสังเกตอาการของผู้ป่วยอย่างใกล้ชิดและไม่ปล่อยให้ผู้ป่วยอยู่คนเดียวครับ
และในระหว่างที่รอไปพบแพทย์ตามนัดนั้นถ้าหากสังเกตว่าผู้ป่วยมีอาการแย่ลง มีแนวโน้มที่จะลงมือทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตายได้มากก็แนะนำว่าควรพาไปพบแพทย์ก่อนนัดครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
คุณหมอครับ คือผมอยากทราบวิธีแก้อาการนี้ครับ เพราะผู้ป่วย มีโรคซึมเศร้า + เครียด + คิดแต่แง่ลบ + ลำไส้ติดเชื้อ + กระเพาะปัสสาวะอักเสบครับ ผู้ป่วยมีโรคซึมเศร้าระยะที่สองแล้วครับ ผู้ป่วยมีอาการคิดแต่แง่ลบตลอดเวลาเลยครับ ผู้ป่วยบอกผมว่า (หนู = ผู้ป่วย พี่ = ผม)"แต่เดี๋ยวหนูก็คงตายแล้วไม่ต้องเปลี่ยนไรมากก็ได้น่ะ ตอนนี้ไม่สู้ล่ะ เหนื่อยล่ะ ตายๆไปเถอะ อยู่ไปก็รกโลกเนอะ แต่ตอนนี้อยู่ให้มีความสุขไปก่อน แล้วค่อยปล่อยให้มันตายไปเองเนอะ ไม่สู้ล่ะพอล่ะ ขี้เกรียจล่ะ อยากทำไรก็ทำไป แล้วเดี๋ยวก็ตายล่ะ พี่ต้องยอมรับความจริงน่ะ ว่าหนูไม่สู้แล้ว ว่าหนูพอแล้ว พี่ต้องรับให้ได้น่ะ รับความจริงว่าเออนะหนูไม่สู้แล้ว อีกไม่ช้าก็เร็วหนูจะตาย หนูจะไม่อยู่ จะหายไปตลอดกาลแล้ว" ผู้ป่วยพูดแบบนี้เมื่อวันที่ 21 ก.ย 61 ครับ คือผู้ป่วยเป็นคนไม่ไว้ใจคนอื่นครับ และคิดว่าผู้ป่วยไม่เหลือใครแล้ว ผู้ป่วยเคยเล่าประมาณว่า ผู้ป่วยคิดว่าพ่อแม่ผู้ป่วยไม่ได้รักผู้ป่วย และเวลาทะเลาะกับแม่ แม่จะทำร้ายผู้ป่วยครับ ส่วนพ่อก็ทำงานต่างประเทศครับ ผู้ป่วยจะมีอาการคิดแง่ลบตลอดเวลาเมื่อเจอเรื่องแย่ๆครับ ผมเป็นคนให้กำลังใจไม่ค่อยเก่งครับ ผมก็เป็นผู้ฟังที่ดีครับ พอเวลาผู้ป่วยระบายอะไร ผมจะนั่งฟังไม่พูดอะไรเลยครับ ไม่พยักหน้า ไม่พูด อืม อือ นั่งมองหน้าผู้ป่วยครับ ผมกลัวว่าสักวันหนึ่งผู้ป่วยจะฆ่าตัวตายครับ ผู้ป่วยเคยมาบอกผมเกี่ยวกับฆ่าตัวตายมา 4-5 รอบแล้วครับ แล้วก็ผู้ป่วยเกือบจะฆ่าตัวตายมาแล้ว 2 ครั้ง ตอนนี้ผมดูแลผู้ป่วยคนนี้อยู่ครับ ดูแลมา 7 เดือนแล้วครับ ผมรักผู้ป่วยคนนี้มากๆครับ ก็มีทะเลาะกันบ้างครับ เพื่อเข้าใจกันล่ะกันครับ คือผมเป็นคนพูดก่อนคิด ตอนนี้กำลังเปลี่ยนตัวเองอยู่ครับ ผู้ป่วยกำลังเรียนอยู่ ม.2 ครับ อายุ 14 ปีครับ ผมขอทราบสาเหตุและก็วิธีแก้หลายๆแบบด้วยครับ ผมนั่งหาข้อมูลมาเกือบทุกๆเว็บแล้วครับ ทุกๆเว็บก็แนะนำให้ กำลังใจผู้ป่วยเยอะๆ แต่ผมขอวิธีหลายๆแบบครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ//ยกมือไหว้
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)