พอดีมีไรกับแฟน แต่แฟนหลั่งนอกตลอด แล้วทีนี้ หนูเป็นคนคิดมากคะ หนูเลยซื้อยาคลุมฉุกเฉินมากินตลอดๆ ทุกครั้งที่มีไรกัน แต่เเฟนหลลั่วนอกนะคะ กินมาประมาณ10กว่าครั้ง และครั้งล่าสุดก็กินคะ และมีเลือดไหลออกมาคะ หนูก้อคิดว่าเป็นเมนหนูเลยเอายาคลุมธรรมดาที่ซื้อได้มากิน กินวันที่หนูคิดว่าเลือดนั้นคือเมนอะคะ พอกินไปวันนั้น ตกเย็นอีกวันเลือดนั้นก้อหาย จากที่หนูคิดว่าเป็นเมน หนูคิดว่าไม่ใช่ละคะ คิดว่าคงเป็นผลข้างเคียงจากยาคลุมฉุกเฉินคะ แต่หนูก้อกินยาคลุมธรรมดามาปกติคะ กินได้5วัน แล้วมีไรกับแฟน หลังกินยาคลุมมาได้5วันคือวันที่6 คะ แฟนหลั่งในคะ คือทำยังไงดีคะ หนูต้องกินฉุกเฉินอีกไหมคะ (ทราบคะว่ากินฉุกเฉินมากๆไม่ดี)เลยมาขอคำ

ลองทบทวนว่าเลือดที่ออกมาใช่ประจำเดือนหรือไม่นะคะ โดยดูจากช่วงเวลาที่มี ว่าเป็นช่วงที่คาดว่าจะมีประจำเดือนมาหรือไม่ และปริมาณเลือดที่ออกมามากและต่อเนื่องหรือเปล่า หากมากกว่า 20 - 30 มิลลิลิตร/วัน ก็ถือว่าเป็นประจำเดือนปกติค่ะ การมีประจำเดือน 2 - 7 วันไม่ใช่เรื่องผิดปกตินะคะ แต่ถ้าเลือดที่ออกมาเป็นแค่หยดเลือดกะปริบกะปรอย น่าจะเป็นผลข้างเคียงจากยาคุมฉุกเฉินนะคะ

1. ถ้าเลือดที่ออกมาไม่ใช่ประจำเดือน ก็ต้องใช้ยาคุมฉุกเฉินอีกค่ะ เพราะยาคุมรายเดือน (น่าจะใช้ชนิดฮอร์โมนรวมใช่มั้ยคะ) ยังไม่มีผลป้องกันการตั้งครรภ์ได้ แต่การใช้บ่อย ๆ ถือว่าเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์มากนะคะ เพราะประสิทธิภาพของยาคุมฉุกเฉินไม่ได้สูงเหมือนวิธีคุมกำเนิดปกติ

2. การหลั่งนอก มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 4 - 22% ค่ะ โดยทั่วไป มักควบคุมการหลั่งได้ไม่สมบูรณ์แบบ ตัวเลขจึงค่อนไปทาง 22% นะคะ ถือว่าเป็นวิธีที่เสี่ยงจะผิดพลาดได้มาก และมีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดต่ำค่ะ

3. หากเลือดที่ออกมาในครั้งนั้นไม่ใช่ประจำเดือน ย่อมแสดงว่ามีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ได้ ดังนั้น ต่อให้ใช้ยาคุมรายเดือนต่อ การตั้งครรภ์นั้นก็จะยังคงอยู่นะคะ แนะนำให้หยุดใช้ไปก่อนค่ะ รอจนประจำเดือนมาจริง ๆ จึงใช้นะคะ (หากไม่แน่ใจว่าจะเป็นเลือดประจำเดือนหรือไม่ สามารถรอดูไปก่อนจะเริ่มใช้ยาได้ค่ะ เพราะสามารถใช้ภายใน 5 วันแรกที่มีประจำเดือน ไม่จำเป็นต้องเป็นวันที่ 1 ของการมีประจำเดือนเท่านั้น) แต่ถ้าพิจารณาแล้วว่าเลือดที่ออกมาในครั้งนั้นเป็นเลือดประจำเดือน ก็สามารถใช้ต่อไปตามปกติได้เลยนะคะ

4. ถ้าต้องหยุดใช้ยาคุมรายเดือน ระหว่างที่รอให้มีประจำเดือนมา หากจะมีเพศสัมพันธ์อีก แนะนำให้ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งนะคะ และเมื่อมีประจำเดือนมา ให้พิจารณาการใช้วิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูง แทนการใช้การหลั่งนอกหรือยาคุมฉุกเฉิน เพื่อลดความเสี่ยงของการตั้งครรภ์ไม่พร้อม การใช้ยาคุมรายเดือนก็เป็นทางเลือกที่ดีค่ะ

1. ประเด็นเรื่องผลข้างเคียงที่เกิดจากการใช้ยาคุมฉุกเฉิน

ในอดีต จะมีความกังวลว่าหากใช้บ่อย อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์นอกมดลูกค่ะ แต่ผลการศึกษาต่อมา ชี้ว่าไม่เกี่ยวกัน เพราะจะใช้หรือไม่ใช้ยาคุมฉุกเฉิน ก็มีความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์นอกมดลูกไม่แตกต่างกันค่ะ

แต่ที่ไม่สนับสนุนให้ใช้บ่อย เพราะประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ไม่สูงเหมือนวิธีคุมกำเนิดปกติ ดังนั้น ยิ่งใช้บ่อย ก็จะเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์มากกว่าที่ควรเป็นนั่นเองค่ะ

ยกตัวอย่างดังนี้นะคะ
-. ถ้าใช้ยาคุมรายเดือนได้ถูกต้องและตรงเวลาสม่ำเสมอ มีโอกาสตั้งครรภ์เพียง 0.3%
- ถ้าใช้ถุงยางอนามัยได้ถูกต้องและไม่มีการรั่วซึม จะมีโอกาสตั้งครรภ์ 2%
- แต่สำหรับยาคุมฉุกเฉิน ต่อให้ใช้ถูกต้องและรวดเร็ว ก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้อย่างน้อย 15% จะเห็นว่าประสิทธิภาพไม่สูงเลย
-. ส่วนการหลั่งนอก อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าในคนทั่วไปมักควบคุมการหลั่งได้ไม่สมบูรณ์แบบ โอกาสตั้งครรภ์จึงเป็น 22% เห็นแล้วใช่มั้ยคะว่าใส่ถุงยางกับไม่ใส่ถุงยาง ความเสี่ยงต่างกันมากแค่ไหน

ดังนั้น หากต้องการป้องกันการตั้งครรภ์ไม่พร้อม ก็ควรเลือกใช้วิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูง มีโอกาสผิดพลาดและเกิดการตั้งครรภ์ได้ต่ำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้นะคะ

2. ประเด็นเรื่องควรรับประทานยาคุมฉุกเฉินหรือไม่สำหรับกรณีนี้

อย่างที่กล่าวไปแล้วค่ะ ว่าถ้าเลือดที่ออกมาเป็นประจำเดือน ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ยาคุมฉุกเฉิน ดังนั้น หากมีเลือดออกมามาก (กะว่ามากกว่า 2 ช้อนโต๊ะต่อ 1 วัน ลองตวงน้ำมาเปรียบเทียบปริมาณนะคะ) และมาต่อเนื่องกันนาน 2 - 7 วัน ก็น่าจะเป็นเลือดประจำเดือน ยิ่งถ้าคาดการณ์แล้วเป็นช่วงที่ประจำเดือนน่าจะมาพอดี อย่างนี้ก็ไม่จำเป็นต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉินค่ะ

เพราะถ้าเป็นเลือดกะปริบกะปรอยที่เป็นผลจากยาคุมฉุกเฉิน มักเป็นหยดเลือดเล็กน้อย และออกมาภายใน 7 วันหลังจากรับประทานยา (อาจพบ หรืออาจไม่พบผลข้างเคียงนี้ก็ได้)

ดังนั้น หากหนูทบทวนแล้ว เลือดที่ออกมาตรงกับลักษณะของเลือดประจำเดือน ก็ไม่ต้องใช้ยาคุมฉุกเฉิน และไม่ต้องหยุดใช้ยาคุมรายเดือนนะคะ