April 08, 2019 23:42
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
หากมีอาการดังดังกล่าวต่อเนื่องทุกวันนานเกินกว่า 2 สัปดาห์ ก้อาจมีแนวโน้มที่จะเป็นซึมเศร้าได้ค่ะ
ซึ่งอาการซึมเศร้าควรได้รับการรักษาจากจิตแพทย์ วิธีการรักษาซึมเศร้าที่ได้ผลดีคือ การรักษาด้วยยา ร่วมกับการทำจิตบำบัดค่ะ ในระหว่างที่รักษาควรดูแลตัวเองดังนี้
1.ทานยาอย่างสม่ำเสมอ
2.หมั่นออกกำลังกาย
3.พักผ่อนให้เพียงพอ
4.หลีกเลี่ยงสารกระตุ้น หรือสารเสพติด
5.สังเกตอาการหากมีอาการผิดปกติควรไปพบแพทยืก่อนนัด
6.ไม่หยุดยาเอง ควรไปพบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง
อาการจะค่อยๆดีขึ้น นะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
ฉัตรดนัย
ศรชัย
(นักจิตวิทยาการปรึกษา)
Rehabilitation in Mental Health & Addiction
สวัสดีครับ
จากเรื่องที่เล่ามาก็พบว่ามีประเด็นในเรื่องของ อาการนอนไม่หลับ ความคิดด้านลบ และความรู้สึกว่าไม่อยากทำอะไรอยู่มาก ซึ่งตรงนี้อยากจะให้ลองดูตามลิสด้านล่างนี้ ซึ่งในหากคุณมีอาการตามลิสด้านล่างนี้ประมาณ 3-5 อาการติดต่อกันเป็นเวลามากกว่า 2 สัปดาห์อาจจะเข่าข่ายในเรื่องของภาวะโรคซึมเศร้าได้นะครับ
- รู้สึกสิ้นหวัง ไม่มีค่า ว่างเปล่า ไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อไปหรือทำไปเพื่ออะไร
- รู้สึกเศร้า หรือ ในเด็กและวัยรุ่นอาจรู้สึกหงุดหงิดง่าย กระสับกระส่าย หรือกระวนกระวายใจอยู่บ่อยๆ
- หมดความสนใจในกิจกรรมหรืองานอดิเรกที่เคยชื่นชอบ เช่น รู้สึกเบื่อหน่ายอาหารโปรดหรือการร่วมเพศ
- น้ำหนักลดลงหรือเพิ่มขึ้นเร็วมาก เนื่องมาจากนิสัยการกินที่เปลี่ยนไป
- นอนไม่หลับติดต่อเป็นเวลานาน หรือนอนนานผิดปกติ
- อ่อนเพลีย ไม่มีแรง
- ไม่มีสมาธิ ไม่สามารถจดจ่อกับสิ่งที่ทำได้เลย บางครั้งก็แสดงอาการหลงๆ ลืมๆ และใช้เวลานานในการตัดสินใจเรื่องต่างๆ
- คิด พูด และทำงานเร็วขึ้นหรือช้าลง
- รู้สึกอยากฆ่าตัวตาย พยายามฆ่าตัวตาย หรือทำร้ายตัวเอง
หากรู้สึกว่าอาการเหล่านี้ค่อนข้างตรงก็อยากจะแนะนำให้เข้าพบจิตแพทย์และนักจิตวิทยาเพื่อการประเมินและหาแนวทางการช่วยเหลือที่เหมาะสมต่อไปซึ่งอาจจะเป็นเรื่องของการทานยา หรือการรับคำปรึกษาซึ่งตรงนี้คุณเองก็สามารถเลือกได้ถึงการรับบริการตรงจุดนี้นะครับ ผมเชื่อว่าการได้พูดคุยเรื่องนี้กับผู้เชี่ยวชาญจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการเปลี่ยนแปลงอาการที่เกิดขึ้นนะครับ
นอกจากการเข้าพบผู้เชี่ยวชาญผมขอเพิ่มเติมว่า คุณสามารถลองทำกิจกรรมที่เคยสนใจหรือทำแล้วรู้สึกว่าทำให้ผ่อนคลายหรือทำให้รู้สึกดีขึ้นได้บ้าง หาเวลาที่ตนเองจะรู้สึกสงบ รู้สึกดี หรือรู้สึกสนุกผ่อนคลายให้ และแบ่งเวลาไปอยู่กับสิ่งๆนั่นครับ นอกจากนั้นอาจจะลองมองดูกิจกรรมที่สามารถทำเป็นประจำได้เช่น การออกลังกาย การฟังเพลง หรือการทำงานอดิเรกบางอย่าง ทานอาหารให้ครบหมู่ ออกไปทานของอร่อยๆบ้าง ซึ่งตรงนี้ก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่มีส่วนช่วยให้ความเครียดลดลงได้ คล้ายๆกับการพักฟื้นให้สภาพจิตใจของตนเองค่อยๆมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ซึ่งการดูแลตนเองควบคู่กันไปด้วยกับการรับการช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต จะทำให้สภาพจิตใจและเป็นการฝึกเพื่อให้คุณสามารถรับมือกับเรื่องต่างๆที่เข้ามาในชีวิตได้ในระยะยาวครับ
สุดท้ายนี้หากรู้สึกว่าต้องการจะพูดคุยกับใครซักคนหนึ่งแต่ยังไม่ต้องการที่จะพบกับจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยา สายด่วนสุขภาพจิต 1323 ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คุณจะสามารถโทรเข้าไปพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ได้ซึ่ง ข้อเสียคืออาจจะต้องมีการรอสายที่นานในบางช่วงเวลานะครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
สวัสดีคะคุณหมอพอดีหนูสังเกตอาการตัวเองว่ารู้สึกซึมๆทำไรก็ดีูน่าเบื่อไปหมดชอบตื่นมาตอนกลางคืนไม่ค่อยอยากเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆชอบเหฦก็บตัวอยู่ในห้องคิดในแง่ลบกับคนอื่นว่าเขาจะนินทาเราแล้วก็หงุดหงิดง่ายมากอาการแบบนี้เป็นการบอกว่าเราเป็นโรคซึมเศร้าไหมคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)