June 14, 2019 08:54
ตอบโดย
นิชดา พงษ์ธัญญกรณ์ (แพทย์ทั่วไป) (พญ.)
สวัสดีค่ะ ภาพไม่ขึ้นนะคะ แต่ตุ่มใสในปากอาจคิดถึงได้หลายสาเหตุ เช่น
-ร้อนใน ซึ่งส่วนมากเกิดจากไวรัสค่ะ เป็นเมื่อภูมิคุ้มกันต่ำหรือพักผ่อนไม่เพียงพอ จริงๆไม่ต้องพึ่งยาก็ได้ ร้อนในจะหายเองได้ การรักษาแผลร้อนใน ให้ปฏิบัติตัวโดยพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำเยอะๆ ทานอาหารให้ครบห้าหมู่ ออกกำลังกาย หลีกเลี่ยงความเครียด และให้บ้วนน้ำเกลือวันละ3ครั้ง แต่ถ้าเจ็บมากก็ให้ทายาสเตียรอยด์ชื่อ Triamcinolone acetonide ชนิดขี้ผึ้ง 1% ใช้ทาวันละ3ครั้งหลังอาหารจนกว่าแผลจะหาย หรือ ยาชา Lidocaine ชนิด 2% ถ้าแผลดูรุนแรงมาก มีไข้ร่วมด้วย ควรไปพบแพทย์ เพราะอาจติดเชื้อแบคทีเรีย อาจต้องได้รับยาปฏิชีวนะ
-เริม เกิดจากไวรัส Herpes simplex แต่เริมมันขึ้นที่ริมฝีปากมากกว่า แต่ก็มีโอกาสขึ้นในปากได้ ถ้าเป็นแล้วจะเป็นตลอดชีวิต คือเชื้อจะไปซ่อนที่ปมประสาท ถ้าร่างกายอ่อนแอก็จะกลับมาเป็นใหม่ได้ เมื่ออาการกำเริบให้ทายาAcyclovir cream หรือกินยาAcyclovir ร่วมด้วย แผลจะหายเร็วมากขึ้น
-ถุงน้ำเมือก (Mucocele) น้ำลายที่ถูกส่งมาจากต่อมน้ำลายก็จะรั่วซึมออกมาจากท่อน้ำลายจากการบาดเจ็บหรือกระแทกตรงบริเวณที่ท่อมีการฉีกขาด ทำให้เกิดการขังของน้ำลายอยู่บริเวณเนื้อเยื่ออ่อนใต้เยื่อบุผิวในช่องปากกลายเป็นตุ่มน้ำใสในช่องปากนี้ อาจหายเองได้ ไม่จำเป็นต้องรักษา แต่ถ้าต้องการตัดออกควรไปพบทันตะแพทย์ค่ะ
ยังไงถ้าตุ่มใสนี้ไม่หายไปเอง แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจและหาสาเหตุเพราะตุ่มนี้อาจเป็นตุ่มอย่างอื่นที่ร้ายแรงได้ เช่น ตุ่มจากการติดเชื้อ ตุ่มจากมะเร็ง เป็นต้นค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ขอสอบถามหน่อยครับ ว่าตุ่มที่เห็นในภาพ เกิดจากสาเหตุอะไรอ่ะครับ เป็นตุ่มใสๆ ภายในช่องปากที่ริมฝีปากด้านล่างอ่ะครับ แต่ไม่ทราบว่าเป็นได้นานแค่ไหนแล้ว เพราะพึ่งสังเกตเห็นอ่ะครับ ผมอยากทราบข้อมูล สาเหตุ และการป้องกันดูแลรักษาครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)