June 10, 2018 19:13
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
ไม่ทราบว่ารับประทานยาคุมมานานแค่ไหนแล้วครับ
ถ้าหากรับประทานต่อเนื่องมาเกินกว่า 7 วัน หรือเริ่มรับประทานยาคุมภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน แบบนี้ยาคุมจะออกฤทธิ์ได้เต็มที่แล้ว สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้อย่างปลอดภัยครับ
โดยยาคุมกำเนิดนั้นจะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ประมาณ 95%
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
หากมีผลคุมกำเนิดจากยาคุมอยู่ต่อเนื่อง สามารถมีเพศสัมพันธ์หลั่งในได้เลยค่ะ เพราะยาจะยับยั้งไม่ให้ไข่ตก ดังนั้น แม้จะมีอสุจิเข้าไปในช่องคลอด เมื่อไม่มีไข่ ก็ไม่เกิดการปฏิสนธิและตั้งครรภ์ตามมา
ซึ่งผลในการคุมกำเนิดจะเกิดขึ้น ดังนี้...
- ถ้ามีการใช้ยาคุมแผงแรก ภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน จะมีผลคุมกำเนิดได้ตั้งแต่เม็ดแรกที่รับประทาน จึงสามารถมีเพศสัมพันธ์หลั่งในได้เลย
- ถ้าใช้ยาคุมแผงแรกไม่ทัน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน ใช้ได้หากไม่มีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ แต่ต้องใช้ยาคุมชนิดฮอร์โมนรวมติดต่อกันจนครบ 7 วันก่อนจึงจะมีผลคุมกำเนิดได้ ดังนั้น ใน 7 วันแรกของการใช้จึงต้องใช้ถุงยางร่วมด้วยเมื่อมีเพศสัมพันธ์นะคะ
และผลในการคุมกำเนิดจะยังมีต่อเนื่อง ดังนี้...
- รับประทานยาคุมทุกวันสม่ำเสมอ
- ต่อแผงยาคุมตามกำหนด โดยการต่อแผงยาคุมจะไม่สนใจวันที่มีหรือหมดประจำเดือน แต่ถ้าใช้ยาคุมแบบ 28 เม็ดหมดแล้ว ให้ต่อยาคุมแผงใหม่ในวันถัดมา หรือถ้าใช้ยาคุมแบบ 21 เม็ด หมดแผงแล้วให้เว้นว่าง 7 วันก่อนต่อแผงใหม่
ไม่มีวิธีคุมกำเนิดใดที่จะป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100% นะคะ ในกรณีของยาเม็ดคุมกำเนิด มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 0.3 - 9% ค่ะ แต่หากรับประทานยาคุมได้ถูกต้องและเหมาะสม ไม่เกิดปัญหาที่อาจลดประสิทธิภาพของยา (เช่น รับประทานไม่ตรงเวลาบ่อย ๆ, ลืมรับประทานยา, อาเจียนภายใน 2 ชั่วโมงหลังรับประทานยา, อาเจียนหรือถ่ายเหลวอย่างรุนแรงและต่อเนื่องเกิน 24 ชั่วโมง, ใช้ยาบางตัวในกลุ่มยากันชัก/ยารักษาวัณโรค/ยาต้านไวรัสเอดส์/สมุนไพรเซนต์จอห์นเวิร์ต) ก็จะมีโอกาสตั้งครรภ์น้อยมากไม่ถึง 1% ค่ะ
ดังนั้น จากคำถาม ต้องพิจารณาว่าผู้ถามใช้ยาคุมถูกต้องและเหมาะสมหรือไม่ เพราะถ้ามีผลคุมกำเนิดจากยาเกิดขึ้นแล้ว และยังมีอยู่ต่อเนื่อง ก็ถือว่ามีโอกาสตั้งครรภ์น้อยมากจนไม่น่าจะกังวลค่ะ
แต่ถ้าใช้ยาคุมไม่ถูก ยังไม่เกิดผลในการคุมกำเนิดขึ้น หรือใช้ไม่เหมาะสม ทำให้หมดผลในการคุมกำเนิดแล้ว การมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ป้องกัน ย่อมให้ทำให้มีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ได้ค่ะ แม้อาจจะมีการหลั่งไปก่อนแล้ว และไม่มีการหลั่งจากการถึงจุดสุดยอดในครั้งที่ไม่ใส่ถุงยางก็ตาม เพราะอาจมีการหลั่งออกมาเล็กน้อยในระหว่างสอดใส่ หรือมีอสุจิที่ตกค้างอยู่จากการหลั่งรอบแรกก็ได้ ซึ่งหากคาดว่าไม่มีการหลั่ง อาจเทียบเคียงความเสี่ยงกับการใช้วิธี "หลั่งนอก" ที่มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 4 - 22% ค่ะ
ดังนั้น หากยาคุมที่ใช้อยู่ยังไม่เกิดผลในการคุมกำเนิด หรือมีการลืมรับประทานหลายวันจนไม่มีผลคุมกำเนิดต่อเนื่อง จำเป็นต้องใช้ยาคุมฉุกเฉินเป็นวิธีป้องกันสำรองด้วยนะคะ โดยรีบรับประทานเร็วที่สุด หรืออย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
แผงที่ทานอยู่เป็นแผงที่3ค่ะประมาณเม็ดที่13ค้ะ
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
ถ้ารับประทานต่อเนื่องมาถึงเม็ดนี้ ไม่มีการขาดยา ก็ถือว่าปลอดภัยที่จะมีเพศสัมพันธ์แบบสอดใส่ได้แล้วครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ขอรบกวนถามอีกเรื่องนึงนะค๊ะ คือก่อนหน้านี้ได้ไปบริจาคเลือดมา แล้วต้องทานยาเฟอรรัส 200มก. ก่อนนอนทุกวัน ถ้าทานพร้อมยาคุมเลยได้ไหมคะเพราะยาคุมก็ทาน4ทุ่มทุกวัน จะทำให้ยาคุมทำงานประสิทธิ์ภาพน้อยลงหรือป่าวค๊ะ
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ยาบำรุงเลือด ไม่มีผลกระทบต่อประสิทธิภาพของยาคุมกำเนิดค่ะ สามารถใช้ร่วมกันได้
แต่ควรระวังในกรณีที่อาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียนจากยาบำรุงเลือดนะคะ และถ้ามีการอาเจียนภายใน 2 ชั่วโมงหลังรับประทานยา จะต้องรับประทานยาคุมซ้ำใหม่ทดแทนยาที่อาเจียนออกมาค่ะ ดังนั้น หากไม่มั่นใจและรู้สึกคลื่นไส้เวลารับประทานยาบำรุงเลือดอยู่แล้ว ควรพิจารณาใช้เวลาอื่น เช่น ในตอนเช้า แทนการรับประทานพร้อมยาคุมกำเนิดค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
คุณหมอค๊ะ รบกวนสอบถามเพิ่มค่ะ วันนี้มีเพศสัมพันธ์แล้ว เกิดถุงยางแตกจะมีโอกาสตั้งครรภ์ไหมค๊ะ แล้วต้องทานยาคุมฉุกเฉินเพิ่มมั้ยค๊ะ
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
การรับประทานยาคุมกำเนิดแบบรายเดือนจะมีประสิทธิภาพช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ประมาณ 91-99% ครับ ขึ้นอยู่กับว่ารับประทานได้สม่ำเสมอตรงเวลามากน้อยขนาดไหน ยิ่งรับประทานสม่ำเสมอมากประสิทธิภาพก็จะยิ่งสูง คือ ช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ใกล้เคียง 99% มากขึ้น
ถ้าหากที่ผ่านมารับประทานยาคุมกำเนิดต่อเนื่องสม่ำเสมอมาโดยตลอด การรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินก็ไม่มีความจำเป็นครับ เพราะได้ใช้วิธีการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าแล้ว
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
คือถ้าทานไม่ตรงเวลาอย่างเช่นเลยไป1-2ชม
ยังงี้ต้องควรกินแบบฉุกเฉินมั้ยค๊ะ เคยแต่กินช้า แต่ว่าไม่เคยลืมกินยากินทุกวันค่ะ
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ไม่มีวิธีคุมกำเนิดใดที่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100% ผู้ที่รับประทานยาคุมกำเนิดยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 0.3 - 9% นะคะ แต่ถ้ารับประทานตรงเวลาสม่ำเสมอ ตัวเลขจะค่อนไปทางต่ำคือ 0.3% ค่ะ ดังนั้น หากต้องการให้ยามีประสิทธิภาพสูงสุดในการป้องกันการตั้งครรภ์ ควรรับประทานให้ตรงเวลาสม่ำเสมอ
หากรับประทานช้า แต่ไม่เกิน 3 ชั่วโมงจากเวลาปกติ ยังมีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องจากยาคุมรายเดือนค่ะ แม้ประสิทธิภาพอาจลดลงเมื่อเทียบกับผู้ที่รับประทานตรงเวลาสม่ำเสมอ แต่ก็ยังสูงกว่าประสิทธิภาพของยาคุมฉุกเฉิน จึงไม่จำเป็นต้องใช้ยาคุมฉุกเฉินเพิ่มเติม
แต่ถ้ารับประทานช้ากว่าเวลาปกติเกิน 3 ชั่วโมง ต้องมาพิจารณาว่าใช้ยาคุมยี่ห้อใดค่ะ เพราะความแตกต่างของชนิดฮอร์โมนและปริมาณของฮอร์โมนในยาคุมแต่ละยี่ห้อ ทำให้ความยืดหยุ่นในการรับประทานผิดเวลาแตกต่างกันได้ตั้งแต่ไม่เกิน 3 ชั่วโมง ไปจนถึงไม่เกิน 3 วันค่ะ
หากใช้ยาคุมสูตรปกติ ไม่ใช่ยาคุมสูตรหญิงให้นมบุตร จะยังมีผลในการคุมกำเนิดต่อเนื่อง ตราบใดที่ไม่ลืมรับประทานติดต่อกัน 2 - 3 วันขึ้นไปค่ะ (จะเป็น 2 วันหรือ 3 วัน ขึ้นกับปริมาณฮอร์โมนในยาคุมยี่ห้อที่ใช้นะคะ)
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
แล้วกินช้าแบบนี้มีโอกาสตั้งครรภ์กี่เปอร์เซ็นหรอค๊ะ
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
โอกาสตั้งครรภ์อยู่ระหว่าง 0.3 - 9% ค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ก็ถือว่ายังน้อยกว่าการกินยาคุมแบบฉุกเฉินใช่ไหมค๊ะ
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ใช่ค่ะ การใช้ยาคุมฉุกเฉินมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 15 - 25% ดังนั้น หากยังมีผลคุมกำเนิดจากยาคุมรายเดือนอยู่ ไม่จำเป็นต้องใช้ยาคุมฉุกเฉินเพิ่มค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ขอบคุณมากๆเลยค่ะ^^
ปกติทานยาคุม แล้ววันที่7/6/61 มีเพศศัมพันธ์กับแฟนโดยครั้งแรกใส่ถุง แต่ครั้งต่อมาแฟนลองสอดใส่แบบไม่ใส่ถุงประมาณเกือบ1นาที แต่ไม่เสร็จภาระกิจนะค๊ะ ถ้าทำเช่นนี้ทำให้เกิดการตั้งครรภ์ไหมค๊ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)