June 08, 2018 12:36
ตอบโดย
ปวริศ ยืนยง (นพ.)
สวัสดีครับ เบื้องต้นคิดว่าเกิดจากากรติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน (Pelvic Inflamatory Disease) นะครับ คือ การติดเชื้อบริเวณระบบสืบพันธุ์ในเพศหญิง บริเวณมดลูก ปีกมดลูก และท่อนำไข่ ซึ่งการติดเชื้อนั้นอาจเกิดจากหลายสาเหตุ แต่ส่วนใหญ่มักเกิดจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
อาการของอุ้งเชิงกรานอักเสบ
1.เจ็บท้องช่วงล่างหรือท้องน้อย
2.ภาวะตกขาวผิดปกติ มีกลิ่น หรือ สีเปลี่ยนไป
3.มีเลือดออกทางช่องคลอดผิดปกติ อาจมีเลือดออกในปริมาณมาก รอบเดือนมานานกว่าปกติ หรือมีเลือดออกหลังจากมีเพศสัมพันธ์
4.มีไข้สูง หนาวสั่น
5.คลื่นไส้ วิงเวียนศีรษะ รู้สึกอ่อนเพลีย และไม่สบายตัว
6.ปวดมากขณะมีเพศสัมพันธ์
7.ปวดแสบขณะปัสสาวะหรือปัสสาวะขัด
เป็นต้นครับ แต่ยังไงก็แนะนำว่าควรไปตรวจภายในดูนะครับ จะได้รักษาต่อไปครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
แต่ดิฉันไม่ได้มีเพศสัมพันธ์เลยนะคะ
ไม่มีตกขาว หรือกลิ่นอะไรด้วย ไม่มีไข้คลื่นไส้เลย
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ตอบโดย
ปวริศ ยืนยง (นพ.)
สวัสดีครับ สำหรับ ปวดท้องด้านล่างขวา อีกโรคที่น่ากลัว คือ ไส้ติ่งอักเสบ (Appendicitis) ครับ คือการอักเสบของไส้ติ่งที่อยู่ระหว่างลำไส้เล็กส่วนปลายและลำไส้ใหญ่ส่วนต้น นับเป็นอาการที่เกิดขึ้นอย่างเฉียบพลันและอันตราย เพราะถ้าหากไม่ได้รับการรักษาด้วยการผ่าตัด ไส้ติ่งที่อักเสบจะแตก ทำให้เชื้อโรคที่อยู่ในไส้ติ่งแพร่กระจายไปทั่วร่างกาย อาจเข้าสู่กระแสเลือดจนทำให้เป็นอันตรายต่อชีวิตได้
อาการของโรคไส้ติ่งอักเสบ
1.มีอาการปวดอย่างเฉียบพลัน ที่บริเวณรอบสะดือ ต่อมาย้ายไปปวดที่ท้องด้านล่างขวาเนื่องจากการอักเสบที่ลุกลามมากขึ้น
2.มีอาการปวดมากขึ้นขณะที่ไอ เดิน หรือแม้แต่ขยับตัว
3.คลื่นไส้ อาเจียน
4.เบื่ออาหาร
5.มีไข้ต่ำ ๆ ระหว่าง 37.2-38 องศาเซลเซียส และอาจสูงกว่า 38.3 องศาเซลเซียสหากเกิดภาวะไส้ติ่งแตก
6.มีอาการท้องเสีย ท้องผูก หรือมีอาการท้องอืดรวมด้วย
7.มีอาการปัสสาวะบ่อยขึ้น เนื่องจากการอักเสบที่มากขึ้นของไส้ติ่งไปกระตุ้นท่อไตของระบบทางเดินปัสสาวะซึ่งอยู่ใกล้กัน
มีอาการดังกล่าวไหมครับ ถ้ามีควรรีบไปโรงพยาบาลนะครับ แต่ถ้าไม่มีอาการดังกล่าว แต่ปวดท้องมากก็ควรไปตรวจเพิ่มเติมที่โรงพยาบาลนะครับ จะได้ทำการรักษาต่อไปครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
มีบางอาการค่ะ แต่ปวดรอบสะดือเคยปวดค่ะ แต่นานพอสมควรแล้ว แล้วก็หายปวด และพึ่งมามีอาการปวดด้านขวาเมื่อวานนี้ค่ะ
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
แต่อาการปวดนี่ พอทนได้นะคะไม่รุนแรงมาก ถ้านอยเฉยก็ไม่ปวดค่ะ
ตอบโดย
ปวริศ ยืนยง (นพ.)
สวัสดีครับ คือตอนแรกปวด รอบๆสะดือ แล้วพึ่งย้ายมาปวด บริเวณ ด้านล่างขวาวันนี้หรือป่าวครับ ถ้าใช่ ก็อาจจะเป็นใส่ติ่งนะครับ ถ้ามีประวัติปวดย้ายตำแหน่งชัดเจน ภายใน 2-3 วันนี้อ่าครับ เพราะว่าถ้ามีอาการปวดย้ายตำแหน่งชัดเจน ควรไปโรงพยาบาลนะครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปวดรอบสะดือผ่านมาเป็นอาทิตย์แล้วนะคะ แล้วค่อยย้ายมาปวดตรงนี้
ตอบโดย
ปวริศ ยืนยง (นพ.)
สวัสดีครับ โดยปกติแล้วถ้าเป็นไส้ติ่งควร ปวดภายใน 2-3 วันครับ ถ้าปวดนานเป็นอาทิตย์อาจจะเกิดจาก ลำไส้อักเสบได้ครับ แนะนำว่าถ้าอาการไม่ดีขึ้นควรไปโรงพยาบาลจะได้ทำการรักษาต่อไปครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปวดท้องบริเวณด้านขวาล่างเวลาเดินหรือขับรถแล้วมันสพเทือนแล้วจะเบ ตอนที่กดดูมันก็รู้สึกปวดร้าวๆ แต่ก็พอทนได้ไม่รุนแรงมาก ถ้านอนอยู่เฉยๆ + กับตอนนี้เป็นประจำเดือนด้วย มีอาการถ่ายอยู่ และปวดหัวแต่ไม่มีไข้
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)