January 26, 2017 10:10
ตอบโดย
นิชดา พงษ์ธัญญกรณ์ (แพทย์ทั่วไป) (พญ.)
ถ้าสังเกตว่าตัวเองคัดจมูกบ่อยๆเกินกว่าคนทั่วไปทั้งๆที่ร่างกายแข็งแรงดี อาจคิดถึงโรคภูมิแพ้นะคะ ต้องสังเกตว่าตนสูดสารอะไรถึงรู้สึกคัดจมูก
สำหรับวิธีการดูแลตัวเองมีดังนี้ค่ะ
วิธีการดูแลตัวเองในผู้ป่วยโรคภูมิแพ้จมูกมีดังต่อไปนี้
1.หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นที่ทำให้เกิดภูมิแพ้ สิ่งกระตุ้นที่ทำให้เกิดภูมิแพ้ที่พบได้บ่อย เช่น ฝุ่นละออง ควันรถยนต์ สารเคมีต่างๆ เกสรดอกไม้ เชื้อรา เชื้อไวรัส อาหารที่ผู้ป่วยแพ้ง่าย ไรฝุ่น เป็นต้น
1) ป้องกันไรฝุ่น : ตัวไรฝุ่นนั้นมีขนาดที่เล็กมาก ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า โดยส่วนมากจะอาศัยอยู่ใต้ผ้ารองเตียง พรมเช็ดเท้า และของเล่นต่างๆ ที่ทำจากขนสัตว์ และอาศัยหนังกำพร้า รังแคของผู้ป่วยเป็นอาหาร โดยตัวไรฝุ่นจะไม่ทำร้ายผู้ป่วยโดยตรง และไม่แพร่เชื้อให้กับผู้ป่วย แต่เป็นตัวก่อภูมิแพ้ให้กับผู้ป่วย วิธีการจัดการกับไรฝุ่นนั้น ควรทำความสะอาดชุดเครื่องนอนต่างๆ รวมไปถึงผ้าขนหนู พรมต่างๆ ด้วยน้ำร้อน (อุณหภูมิมากกว่า 55 °C) ในทุกๆ สัปดาห์ รวมทั้งอบด้วยความร้อนให้แห้ง หรือตากแดดในช่วงที่แดดแรงร่วมด้วย
2) พยายามหลีกเลี่ยงหรืองดการใช้สเปรย์ฆ่าแมลงชนิดต่างๆ เครื่องสำอาง น้ำหอม แป้งฝุ่น แชมพูสระผมที่มีส่วนผสมของ Flaxseed Oil แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากธรรมชาติ 100%
3) หลีกเลี่ยงและอยู่ห่างไกลจากฝุ่นละออง ควันรถยนต์ในชั้นบรรยากาศ ควันก๊าซจากโรงงาน หรือสิ่งกระตุ้นอื่นๆ เช่น ควันบุหรี่ เป็นต้น
4) พยายามหลีกเลี่ยงเกสรดอกไม้ เชื้อรา ขนสัตว์ต่างๆ เป็นต้น
5) หมั่นระวังอาหารที่อาจก่อให้เกิดการแพ้ได้ง่าย เช่น กุ้ง ปู หอยทะเลต่างๆ เป็นต้น
6) หากอาหารหรือเครื่องสำอางชนิดใดที่ยังไม่เคยรับประทานหรือใช้มาก่อน ควรจะลองรับประทานหรือใช้ในปริมาณน้อย เพื่อป้องกันอาการแพ้ที่อาจเกิดขึ้น
7) ห้ามรับประทานอาหารค้างคืน อาหารที่ไม่สดใหม่ อาหารที่วางทิ้งข้ามคืนไม่ได้แช่ตู้เย็น
2.ด้านโภชนาการ พยายามปรับพฤติกรรมในการรับประทานอาหาร หลีกเลี่ยงหรืองดการรับประทานของเย็น ไอศกรีม เป็นต้น และพยายามหลีกเลี่ยงอาหารที่มีฤทธิ์เย็น เช่น ผักกาดขาว มัสตาร์ด มังคุดแตงโม
แคนตาลูป เป็นต้น
3.การนอนหลับพักผ่อน ไม่ควรเข้านอนดึกจนเกินไป เพราะในช่วงหลังจาก 5 ทุ่มเป็นต้นไป จะเป็นช่วงที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายมีการซ่อมแซมและฟื้นฟูปรับสมดุล การนอนดึกจะไปทำลายระบบการฟื้นฟูของภูมิคุ้มกัน ทำให้เกิดภูมิแพ้ขึ้น
4.ป้องกันความเย็น รักษาความอุ่น ไม่ควรเปิดเครื่องปรับอากาศในอุณหภูมิที่ต่ำเกินไปควรใส่เสื้อนอนที่มิดชิดเพื่อป้องกันความเย็นที่อาจกระทบต่อร่างกายได้ มีการทดสอบกับผู้ป่วยในหลายราย พบว่าสามารถค่อยๆ ลดอาการจาม น้ำมูกไหลได้
5.รักษาความอบอุ่นบริเวณแผ่นหลัง ผู้ป่วยที่เป็นภูมิแพ้จมูกมักจะมีอาการเย็นบริเวณแผ่นหลัง ดังนั้นควรป้องกันให้แผ่นหลังอบอุ่นตลอดเวลา
6.ใช้น้ำเย็นล้างจมูก ใช้น้ำเย็นทำความสะอาดบริเวณโพรงจมูก ค่อยๆ สูดน้ำเย็นให้น้ำเย็นได้สัมผัสกับโพรงจมูก แล้วค่อยๆ หายใจออก ให้น้ำเย็นเกิดการผ่านเข้าออกในโพรงจมูก ใช้เวลาทำประมาณ 3 นาที หากสามารถทำต่อเนื่องได้ในทุกๆ วัน จะสามารถช่วยรักษาอาการภูมิแพ้จมูกที่เป็นอยู่ได้
7.นวดจมูก ก่อนที่จะทำการนวด ให้ใช้น้ำเย็นล้างโพรงจมูกให้เรียบร้อย จากนั้นให้ใช้นิ้วกลางนวดคลึงเบาๆ บริเวณข้างปีกจมูกสองข้างใช้เวลาประมาณ 20 นาทีโดยประมาณ
8.ควรได้รับแสงแดด และใช้เวลาครึ่งชั่วโมงในการเดินออกกำลังกาย สามารถเพิ่มภูมิคุ้มกันในร่างกาย ลดอาการเกิดภูมิแพ้ แนะนำให้ออกกำลังกายในช่วงที่แดดไม่แรงจนเกินไป โดยให้แสงแดดส่องที่บริเวณแผ่นหลังและฝ่ามือเป็นหลัก
9.หากเข้ารับการรักษาแล้วอาการภูมิแพ้ลดลง ควรปฏิบัติตามข้อควรปฏิบัติข้างต้นอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันอาการภูมิแพ้ที่อาจเกิดขึ้นอีก
10.สำหรับอาการแพ้ในลักษณะอื่นๆ เช่น อาการภูมิแพ้รอบดวงตา อาการคันผิวหนัง ผื่นผิวหนัง เป็นต้น สามารถปฏิบัติตามข้อที่ 1-5, 8-10 ได้
ที่มา : เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ดิฉันเป็นหวัดบ่อนมากค่ะ. ทั้งที่ดูแลสุขภาพ. ออกกำลังกาย ทานผักผลไม. แต่ก็ยังคัดจมูกบ่อยๆๆค่ะไม่ทราบว่าจะแก้รักษาด้วยวิธีไหนดีค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)