June 11, 2019 14:55
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
โรคที่มีความผิดปกติทางด้านความคิด อารมณ์ พฤติกรรม มีสาเหตุหลักมาจากสารเคมีในสมองหลั่งผิดปกติ หากเคยได้รับการรักษาด้วยยามาก่อน แล้วไม่ได้รักษาต่อเนื่อง มีโอกาสสูงที่โีรคจะกลับเป็นซ้ำ และหากปล่อยให้อาการเรื้อรังไปเรื่อยๆ อาการจะพัฒนารุนแรงมากขึ้น จนมีอาการทางจิตได้ค่ะ
ในกรณีนี้ อาจเป็นปัญหาทางด้านอารมณ์ เช่น โรคซึมเศร้า โรคไบโพลาร์ ก็เป็นไปได้ค่ะ
การรักษาต้องเริ่มต้นรักษาใหม่อีกครั้ง และพยายามทานยาสม่ำเสมอ ห้ามหยุดยาเอง หมั่นออกกำลังกาย พักผ่อนเพียงพอ งดเว้นสารเสพติดทุกชนิด และไปพบแพทย์ตามนัดทุกครั้งนะคะ
ดังนั้นในกรณีนี้แนะนำพบจิตแพทยื ประเมินอาการเพิ่มเติม วินิจฉัยโรคให้แน่ชัดแล้วรับการรักษาตามแนวทางที่เหมาะสมนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
ฉัตรดนัย
ศรชัย
(นักจิตวิทยาการปรึกษา)
Rehabilitation in Mental Health & Addiction
สวัสดีครับ
ในมุมมองของผม ไม่อยากจะบอกว่าเป็นเพราะขาดการรักษาหรือว่าอะไรแบบนั้นนะครับ ถึงแม้ว่าจะเคยกินยารักษาโรคทางจิตเวชมานานจนอาการดีขึ้นและเมื่อย้ายเข้ามาอยู่ใน กทม. ก็ขาดยาไป ซึ่งตรงนี้อาจจะเป็นเพียงแค่ปัจจัยหนึ่งเท่านั้นครับที่ทำให้ตอนนี้มีอาการตามที่เล่ามา และที่เล่ามาก็ยังไม่ใช่อาการของโรคไบโพล่าร์ทั้งหมดครับ ลองเข้าไปอ่านในบทความที่ผมทิ้งไว้ด้านล่างเกี่ยวกับโรคไบโพล่าร์ดูได้ครับเพื่อเป็นความรู้เพิ่มเติม
https://www.honestdocs.co/understanding-bipolar
ส่วนในเรื่องของอาการต่างๆที่เกิดขึ้น ก็อาจจะมาจากปัจจัยหลายๆอย่างร่วมกัน ในการที่คุณอยู่ในกรุงเทพฯแล้ว มีโรงพยาบาลหรือคลินิกด้านจิตเวชหลายแห่งให้เลือกใช้บริการโดยหากการทานยาเคยช่วยในครั้งอดีต ก็แนะนำนะครับว่าให้ลองเข้าพบจิตแพทย์เพื่อรับยามาทานดู และผมอาจจะเพิ่มเติมในเรื่องของการทำจิตบำบัดควบคู่กันไปด้วยเพื่อเพิ่มทักษะในการรับมือกับอารมณ์ของตนเองได้ดีขึ้นครับ
และนอกจากการเข้าพบผู้เชี่ยวชาญ ผมขอเพิ่มเติมว่า คุณสามารถลองทำกิจกรรมที่เคยสนใจหรือทำแล้วรู้สึกว่าทำให้ผ่อนคลายหรือทำให้รู้สึกดีขึ้นได้บ้าง หาเวลาที่ตนเองจะรู้สึกสงบ รู้สึกดี หรือรู้สึกสนุกผ่อนคลายให้ และแบ่งเวลาไปอยู่กับสิ่งๆนั่นครับ นอกจากนั้นอาจจะลองมองดูกิจกรรมที่สามารถทำเป็นประจำได้เช่น การออกลังกาย การฟังเพลง หรือการทำงานอดิเรกบางอย่าง ทานอาหารให้ครบหมู่ ออกไปทานของอร่อยๆบ้าง ซึ่งตรงนี้ก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่มีส่วนช่วยให้ความตึงเครียดในตัวคุณลดน้อยลงได้ คล้ายๆกับการพักฟื้นให้สภาพจิตใจของตนเองค่อยๆมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นได้ครับ
สุดท้ายนี้หากรู้สึกว่าต้องการจะพูดคุยกับใครซักคนหนึ่งแต่ยังไม่ต้องการที่จะพบกับจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยา สายด่วนสุขภาพจิต 1323 ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คุณจะสามารถโทรเข้าไปพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ได้ซึ่ง ข้อเสียคืออาจจะต้องมีการรอสายที่นานในบางช่วงเวลาครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
สวัสดีค่ะ คือเราเป็นโรคเครียด เมื่ออายุ 18 เคยเข้ารับการบำบัดจิตที่ รพ.แห่งหนึ่งในจังหวัดที่เราอาศัยอยู่ โดยหมดจิตเวชให้ยาเรามากินเรื่อยๆ ทุกวัน จนกระทั่งเราอายุ 20 เราได้ย้ายที่อยู่มาอาศัยที่ กทม. และขาดการรักษาอย่างสิ้นเชิง (โดยความประมาทและขาดการคิดไตร่ตรองไม่รักษาต่อ) จนตอนนี้เราอายุ 24 แล้วค่ะ เรามีความรู้สึกเครียดง่าย อารมณ์แปรปรวนที่สุด หงุดหงิดง่ายอย่างเห็นได้ชัด บางครั้งก็ร่าเริงอารมณ์ดี แต่ในบางครั้งเรากลับรู้สึกหดหู่อย่างไม่ทราบสาเหตุใดๆ แต่ไม่ถึงกับคิดฆ่าตัวตายนะคะ บางครั้งก็สงบิยากอยู่คนเดียวแต่ในบางครั้งกลับกลายเป็นคนขี้ระแวง กระสับกระส่ายมากเลยค่ะ และในช่วงเดือนนี้เราเป็นแบบนี้บ่อยมาก เรื่องการพักผ่อนเราพักอย่างเพียงพอค่ะ คุณหมอพอจะวิเคราะห์ให้ได้มั้ยคะ ว่าเราเป็นแบบนี้เพราะขาดการรักษา หรือเข้าข่ายเป็นไบโพลาร์มั้ยคะ และควรอแก้ไขยังไง ขอบคุณล่วงหน้านะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)