ถ้ามีตุ่มคล้ายขนคุดค่ะ หัวเป็นหนองขนาด 2 มิล. ห่างจากรูทวาร 3 cm. ไม่มีไข้ค่ะ.. (คล้ายรูป) ได้เจาะหนองออกแล้วค่ะ โดยใช้เบตาดีนเช็ดโดยรอบ และใช้เข็มสะอาดเจาะ แอบบีบ.. หลังจากนั้นคอยทาเบตาดีนไว้ทุกครั้งหลังเข้าห้องน้ำค่ะ.. หลังเจาะ 15 ช.ม. ยังไม่เป็นสะเก็ดค่ะ 1. ถ้าไม่มีไข้ ไม่ปวดเพิ่ม แต่แผลแดงๆ ไม่เป็นสะเก็ด 1.1 จำเป็นต้องทานยาฆ่าเชื้อมั้ยคะ? 1.2 เป็นกี่วันจึงควรหาหมอคะ? 2. ถ้าไม่มีไข้ ไม่ปวดเพิ่ม แผลค่อยๆหายไปภายใน 7 วัน ไม่ต้องหาหมอใช่มั้ยคะ? ขอบคุณมากค่ะ

1.1 เบต้าดีนเป็นยาฆ่าเชื้อ สามารถฆ่าเชื้อได้ระดับหนึ่งครับ อาจรอดูผลสัก 5-7 วันครับ ถ้าอาการเป็นมากกว่าเดิม แนะนำไปพบแพทย์ดีกว่าครับไม่แนะนำให้ซื้อยาทานเองครับ และการทำหัตการเอง ก็อาจเสี่ยงติดเชื้อจากอุปกรณ์หรือสภาวะแวดล้มที่ไม่สะอาด
1.2 ถ้าประมาน 5-7 วันถ้าไม่ดีขึ้นแนะนำไปพบแพทย์แต่ถ้าอาการแย่ลง แนะนำให้ไปพบแพทย์ก่อนเวลานั้นครับ
1.3 ถ้าแผลค่อยๆหายไปในทางที่ดีขึ้น อาจไม่ต้องไปพบแพทย์ แต่ถ้าขึ้นเป็นซ้ำที่เดิมๆบ่อยๆแนะนำไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุครับ

1.1 ถ้าไม่มีไข้ แผลเป็นแค่แผลแดงๆภายนอกก็ไม่จำเป็นต้องรับประทานยาฆ่าเชื้อครับ แต่ควรรักษาความสะอาดของบริเวณนั้นให้ดี แต่ถ้าแผลมีหนองซึมออกมามาก บวมแดงมากขึ้นเรื่อยๆก็อาจต้องรับประทานยาฆ่าเชื้อถึงแม้จะไม่มีไข้ครับ
1.2 โดยทั่วไปตุ่มหนองขนาด 2 มม. มักไม่มีอันตราย ภายใน 2-3 วันอาการมักจะค่อยๆดีขึ้นได้เอง แต่ถ้า 2-3 วันอาการยังไม่ดีขึ้น หรือตุ่มหนองมีขนาดใหญ่ขึ้น บวมแดงมากขึ้น มีไข้ ตุ่มหนองดังกล่าวอาจลุกลามไปเป็นฝีรอบรูทวารได้ ต้องไปพบแพทย์เพื่อกรีดระบายหนองออกครับ
2. ถ้าไม่มีไข้ แผลหายได้เอง ก็ไม่มีความจำเป็นต้องไปพบแพทย์ครับ

-หากแผลมีการบวมแดงมากขึ้น หรือยังคงมีหนองเหบืออยู่ อาจต้องรับประทานยาปฏิชีวนะครับ เพื่อป้องกันการติดเชื้อบริเวณผิวหนังที่เป็นแผล
-หากการบวมแดงของแผลยังคงอยู่อีก2-3วันควรไปพบแพทย์เพื่อดูแผล และรับการรักษาที่เหมาะสมต่อไปครับ
-หากมีไข้ มีอาการคันบวมแดง มีหนองอยู่ ซึ่งเป็นอาการของฝีรอบรูทวารหนัก และอาจมีโพรงหรือทางเดินหนองด้วย ซึ่งอาจต้องไปพบแพทย์ศัลยกรรมทางเดินทวารหนัก เพื่อตรวจรูทวารเพื่อดูภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้น หากไม่พบความผิดปกติ แพทย์จะให้ยาฆ่าเชื้อและกรีดระบายโพรงหนอง รวมทั้งนัดมาทำแผลและดูอาการต่อไปครับ
-อย่างไรก้ตามแผลบริเวณริบทวารหนักง่ายต่อการติดเชื้อและยากต่อการกูและรักษา ฉะนั้นอาจแนะนำให้รับประทานยาฆ่าเชื้อเพื่อป้องกันการติดเชื้อ เช่น augmentin,dicloxacillin เป็นต้น โดยควรพบแพทย์เพื่อดูอาการก่อนรับยารักษา ไม่ควรไปซื้อยาที่ร้านขายยาทานเองครับ

แนะนำให้ดูตามอาการที่แนะนำไว้ตอนแรกเป็นหลักครับ คือ ภายใน 2-3 วันแนวโน้มของตัวก้อนจะต้องยุบลงเรื่อยๆ และโดยทั่วไปมักจะหายได้ใน 1 สัปดาห์ถ้าหากไม่มีการติดเชื้อลุกลาม

อาการที่ต้องไปโรงพยาบาลคือ
- แนวโน้มของตุ่มหนองไม่ยุบลง
- มีไข้
- ตุ่มหนองขยายขนาดมากขึ้น
- มีอาการบวมแดงของบริเวณตุ่มหนองมากขึ้น
- มีหนองไหลออกมาไม่ยอมหาย

ส่วนอาการที่นอกเหนือจากนี้แล้วมีความไม่แน่ใจ แนะนำให้ไปพบแพทย์เช่นกันครับ
เพราะคำแนะนำของหมอขณะนี้อาศัยจากคำบอกเล่าอาการเท่านั้น ซึ่งจริงๆแล้วการวินิจฉัยโรคและประเมินความรุนแรงต้องอาศัยการตรวจดูลักษณะก้อนร่วมด้วย เช่น ดูลักษณะภายนอกของก้อน คลำดูขอบเขตของก้อน คลำประเมินปริมาณหนองที่อยู่ในก้อน
การแนะนำโดยอาศัยคำบอกเล่าเพียงอย่างเดียวมีโอกาสที่จะมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนกันได้สูงครับ

นอกจากนี้การคาดคะเนอาการล่วงหน้าเกินกว่า 1 สัปดาห์นั้นทำได้ยากครับ ถ้าก้อนไม่หายในตอนนั้นก็มีโอกาสที่จะมีภาวะแทรกซ้อนทำให้ก้อนไม่หายได้ ต้องอาศัยการตรวจประเมิน ณ เวลานั้นอีกทีครับ