May 17, 2019 23:53
ตอบโดย
ฉัตรดนัย
ศรชัย
(นักจิตวิทยาการปรึกษา)
Rehabilitation in Mental Health & Addiction
สวัสดีครับ
อาจจะเป็นไปได้ว่าตอนกลางวันเรามีเรื่องที่ให้ทำอยู่ ทำให้ไม่ได้มีความคิดหรือความวิตกกังวลในเรื่องของเพื่อนที่ย้ายห้องไปเข้ามา แต่พอเป็นในช่วงกลางคืน เราก็อยู่กับตัวเองมากขึ้นทำให้มีความคิดเหล่านี้เข้ามาทำให้วิตกกังวล มีความรู้สึกอึดอัด หนักๆอยู่ในอกและอยากร้องไห้ออกมานะครับ
สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ ตอนนี้คงเพิ่งเปิดเทอม และตัวหนูเองอาจจะยังไม่มีเพื่อนใหม่เข้ามาใช่ไหมครับ ถ้าให้ผมแนะนำ ก่อนอื่นลองโทรศัพท์ หรือว่าใช้ไลน์พูดคุยกับเพื่อนสนิทดูได้นะครับ ลองนัดกันไปทานอาหารกลางวันด้วยกันหากทำได้ แต่สิ่งสำคัญก็คืออยากให้ลองเปิดโอกาสให้ตนเองได้รู้จักกับเพื่อนใหม่ๆในห้องใหม่ดูได้นะครับ อาจจะมีบางคนที่มีความชอบ หรือเหมือนเราในบางเรื่อง ให้โอกาสตนเอง และเพื่อนๆในห้องใหม่ได้ทำความรู้จักกันดู
แน่นอนการย้ายห้องและสนิทกันน้อยลงเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ แต่จากประสบการณ์ส่วนตัวของผมเอง ก็มีเพื่อนสนิทบางคนที่เคยอยู่ห้องเดียวกันช่วงประถม 2 กับ 3 แต่มีการติดต่อพูดคุยกันเรื่อยมาจนกระทั่งปัจจุบัน (จบมหาวิทยาลัยแล้ว) ก็ยังสนิทกันอยู่มากๆเลยครับ ดังนั้นผมคิดว่าการที่ไม่ได้อยู่ห้องเดียวกันอาจจะไม่ใช่ตัวตัดสินครับว่าเราจะเสียเพื่อนที่เราสนิทไป อาจจะได้เจอกันน้อยลง แต่หากยังมีสิ่งที่ชอบหรือยังคงพูดคุยกันอยู่ ความเป็นเพื่อนตรงนี้ก็น่าจะยังสามารถรักษาไว้ได้ครับ
อย่างไรก็ตามหากรู้สึกกังวล อึดอัดตรงนีมากๆ อยากให้ลองพูดคุยกับคุณพ่อ คุณแม่ หรือว่าบุคคลที่ไว้ใจดูได้นะครับ น่าจะได้รับคำปรึกษา คำแนะนำที่น่าจะทำให้หนูสบายใจขึ้นได้บ้าง เป็นกำลังใจให้กับการเปิดเรียนในเทอมนี้นะครับ หากมีอะไรเพิ่มเติมสอบถามเข้ามาได้เลยครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
การที่ต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงในชีวิตทำให้ต้องมีการปรับตัวนั้นย่อมทำให้เกิดความเครียดและความกังวลขึ้นมาได้ครับ ซึ่งในบางคนก็อาจประสบปัญหาในการปรับตัวกับสิ่งที่เกิดขึ้นและเกิดความเศร้าความทุกข์ใจติดต่อกันเป็นเวลานานตามมาไก้ครับ
นอกจากนี้ถ้าหากอาการเริ่มเป็นรุนแรงมากขึ้นจนเริ่มมีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตในเวลาอื่นๆเพิ่มขึ้นมาก็ต้องระวังว่าอาจเสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้าได้ครับ
อาการของโรคซึมเศร้านั้นจะประกอบด้วยการมีอารมณ์เศร้าหดหู่หรือเบื่อหน่ายไม่อยากทำอะไรต่อเนื่องกันอย่างน้อย 2 สัปดาห์ร่วมกับมีอาการ
- นอนไม่หลับหรืออยากนอนมากขึ้น
- เบื่ออาหารหรืออยากอาหารมากขึ้น
- อ่อนเพลียไม่มีแรง
- ไม่มีสมาธิ ความคิด ความจำแย่ลง
- คิดช้าทำช้าลงหรือกระสับกระส่ายมากขึ้น
- มีความคิดในแง่ลบ คิดโทษตัวเองบ่อยๆ หรือเห็นคุณค่าในตนเองลดลง
- เคยคิดหรือลงมือทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตาย
ถ้าหากมีอาการในลักษณะนี้หลายๆข้อ ร่วมกับอาการที่เป็นส่งผลรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน การเรียน การทำงาน หรือความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ก็จะมีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้นครับ
ในเบื้องต้นนั้นอาจลองทำแบบทดสอบตามลิงค์นี้เพื่อประเมินความเสี่ยงในการเป็นโรคซึมเศร้าด้วยตนเองก่อนได้ครับ
http://www.prdmh.com/แบบประเมินโรคซึมเศร้า-9-คำถาม-9q.html
ถ้าหากทำได้ตั้งแต่ 7 คะแนนขึ้นไปก็มีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้น
แต่สุดท้ายแล้วไม่ว่าอาการที่เกิดขึ้นในตอนนี้จะเหมือนกับโรคซึมเศร้าหรือไม่ หมอก็อยากให้คุณได้ลองไปพบจิตแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมก่อน ถึงแม้จะไม่ได้เป็นโรคแต่การพูดคุยกับจิตแพทย์ก็จะช่วยให้คุณคลายความกังวลและหาทางปรับตัวกับปัญหาได้ดีมากยิ่งขึ้นครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
ลักษระอาการดังกล่าวอาจเป็นผลมาจากความเปลี่ยนแปลงที่หนูต้องย้ายห้อง ลักษณะเช่นนี้อาจเกิดได้กับคนทุกคน แต่คนทั่วไปจะเรียนรู้วิธีการปรับตัวกับสถานการณ์ใหม่ การเข้ากลุ่มกับเพื่อนใหม่ และหากคิดถึงเพื่อนซี้ก็ติดต่อหาเวลาพบปะกันในเวลาว่าง หรือ ทั้งเพื่อนเก่าและเพื่อนใหม่สามารถเข้ากลุ่มรวมกันได้
การใช้เวลาในการปรับตัวต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ในแต่ละคนจะช้าหรือเร็วนั้น อาจแตกต่างกันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น จากวิธีการเลี้ยงดู ที่ส่งผลให้ปรับตัวยาก จากลักษณะบุคลิกภาพหากพื้นฐานเป็นคนที่ชอบเก็บตัว ชอบวิตกกังวลกับสิ่งต่างๆ แบบนี้อาจจะปรับตัวได้ยาก และหากปรับตัวไม่ได้ก็จะนำไปสู่ปัญหาทางด้านสุขภาพจิต โดยเฉพาะ ความเครียด วิตกกังวล ซึมเศร้า เป็นต้น
ในกรณีของหนูเบื้องต้น แนะนำให้ออกกำลังกาย เปิดใจพูดคุย ทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ๆ นะคะ แต่หากมีอาการมากจนส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน หรือส่งผลต่อการเรียน เช่น นอนไม่หลับ เบื่อหน่าย ท้อแท้ เศร้า อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร เหม่อลอย หงุดหงิดง่าย ขี้น้อยใจ รู้สึกไร้ค่า อยากตาย หากมีอาการเหล่านี้ ต่อเนื่องทุกวัน นานเกิน 2 สัปดาหื ก็อาจมีแนวโน้มที่จะเป็นซึมเศร้าได้ค่ะ ควรพบจิตแพทย์ ประเมินอาการเพิ่มเติม รับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม
การรักษาที่ได้ผลดี คือการรักษาด้วยยา ร่วมกับการทำจิตบำบัด จะช่วยให้ปรับตัวได้ดีขึ้น ใช้ชีวิตได้เป็นปกติค่ะ
ดังนั้นในกรณีนี้
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
มันจะเปนเฉพาะตอนเยนๆประมาน5-6โมงจนไปถึงตอนนอนเลยค่ะ มันรุ้สึกเหนื่อยใจ อึดอัด อยากร้องห้าย มันก้มีเรื่องให้กังวลนะคะ เเต่ในช่วงกลางวัน มันไม่เคยรุ้สึกเเบบนี้เลยค่ะ เรื่องที่กังวลก้คือ หนุโดนย้ายห้องเเล้วเพื่อนที่สนิทอีก3คน ไปอยุ่อีกห้องด้วยกัน สรุปคือหนุโดนย้ายไปคนล้ะห้องเพื่อนคนอื่นเลยค่ะ หนุกลัวว่าเราจะไม่สนิทกันเหมือนเดิม เเล้วปกติเมื่อก่อน เราตัวติดกันทั้งวันเลยค่ะ เรียนด้วยกัน พักก้อยุ่ด้วยกันตลอดค่ะ เเต่เวลากลางวัน มันไม่มีเรื่องพวกนี้เข้ามาในหัวหนุเลยค่ะ เปนเฉพาะตอนกลางคืนอย่างเดียวค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)