June 20, 2019 19:36
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
ถึงแม้ในทางทฤษฎีจะบอกว่าการมีเพศสัมพันธ์ในช่วง 7 วันแรกของการมีประจำเดือนจะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้น้อยเนื่องจากมักไม่มีการตกไข่ในช่วงนี้ แต่ในทางปฏิบัตินั้นก็อาจมีการตกไข่ที่เร็วกว่าปกติเกิดขึ้นได้ การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกันไม่ว่าจะเป็นในช่วงเวลาใดก็จะมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้หมดครับ
การมีเพศสัมพันธ์ที่มีการสอดใส่นั้นถึงแม้จะไม่มีการหลั่งก็อาจมีอสุจิที่ปนอยู่ในน้ำหล่อลื่นของผู้ชายหลุดลอดเข้าไปปฏิสนธิกับไข่ได้ ทำให้มีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้ 4-27% ครับ
ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรหายาคุมฉุกเฉินมารับประทานให้เร็วที่สุดก่อน โดยให้รับประทานภายใน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ก็จะช่วยลดโอกาสตั้งครรภ์ลงได้ 75-85% แต่ถ้าหากเลยช่วงเวลาดังกล่าวไปแล้วก็ยังอนุโลมให้รับประทานภายใน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ได้ แต่ประสิทธิภาพของยาก็จะลดลงไปเรื่อยๆตามเวลาที่ผ่านไปครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
วันที่มีไข่ตกจริงอาจคลาดเคลื่อนไปจากที่คำนวณไว้ได้ค่ะ ดังนั้น ถ้ายังไม่พร้อมจะมีบุตร จึงควรคุมกำเนิดด้วยวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์นะคะ
หากมีการสอดใส่โดยไม่ได้หลั่งใน ก็จะถือว่ามีความเสี่ยงในลักษณะของการหลั่งนอก นั่นคือ มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 4 - 22% แต่โดยทั่วไปถือว่าความเสี่ยงจะค่อนไปทางสูง คือ 22% ค่ะ
ในขณะที่ถ้าใช้ถุงยางป้องกันอย่างถูกต้อง และถุงยางไม่รั่วซึมหรือฉีกขาด จะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียงแค่ 2%
ดังนั้น หากผู้ถามต้องการลดความเสี่ยงดังกล่าวให้น้อยลง แนะนำให้รับประทานยาคุมฉุกเฉินโดยเร็วที่สุดที่ทำได้ ยิ่งเร็วยิ่งดี อย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ โดยสามารถรับประทานแบบครบขนาดในครั้งเดียวได้ นั่นคือ ถ้าใช้ยี่ห้อที่มีแผงละ 2 เม็ด ก็รับประทาน 2 เม็ดพร้อมกันในครั้งเดียว หรือถ้าใช้ยี่ห้อที่มีแผงละ 1 เม็ด ก็รับประทานเม็ดเดียวครั้งเดียวค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
เคยกินยาคุมฉุกเฉินมาแล้ว3ครั้งค่ะ แต่ตอนนั้นกินเพราะไม่รู้ คิดว่าใส่ถุงยางแล้วต้องกิน ถ้ากินอีกจะเป็นอะไรมั้ยคะ
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
การรับประทานยาคุมฉุกเฉินไม่ได้มีข้อจำกัดว่าห้ามรับประทานมากเกินกี่ครั้งครับ ถ้าหากได้มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกันไปแบบในกรณีนี้ก็ถือว่ามีความเหมาะสมทีีจะรับประทานยาคุมฉุกเฉินครับ
สาเหตุหลักที่ไม่แนะนำให้รับประทานยาคุมฉุกเฉินบ่อยๆนั้นเป็นเพราะว่ายาคุมฉุกเฉินไม่ใช่การป้องกันการตั้งครรภ์ที่มีประสิทธิภาพสูง ถ้าหากหลีกเลี่ยงได้โดยไปใข้การคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่นก็จะมีความปลอดภัยมากกว่าครับ แต่ถ้าหากมีความจำเป็นต้องรับประทานจริงๆแบบในกรณีนี้ก็สามารถรับประทานได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
สามารถรับประทานซ้ำอีกได้หากมีความจำเป็นค่ะ อย่างเช่นในกรณีนี้ก็ควรจะต้องใช้ยาคุมฉุกเฉินเพื่อลดความเสี่ยงดังกล่าวให้น้อยลงนะคะ
แต่ไม่ควรนำมาใช้แทนวิธีคุมกำเนิดปกติเพราะประสิทธิภาพยาคุมฉุกเฉินไม่ได้สูงมาก จึงอาจป้องกันไม่สำเร็จและเสี่ยงที่จะเกิดการตั้งครรภ์ไม่พร้อมได้มากกว่าที่ควรจะเป็นค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอนนี้กินยาคุมฉุกเฉินแล้วค่ะ แต่อยากทราบว่าผลข้างเคียงในระยะยาวมีอะไรบ้างหรอคะ และจะเป็นอันตรายมากน้อยแค่ไหน จะทำให้มีบุตรยากจริงรึป่าวคะ โดยส่วนตัวเคยรับวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกมาแล้วค่ะ
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
จากเอกสารวิชาการที่เผยแพร่โดยองค์การอนามัยโลกในปี ค.ศ.2010 ระบุว่า ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ใด ๆ ที่ยืนยันได้ว่าการใช้ยาคุมฉุกเฉินชนิดตัวยาลีโวนอร์เจสเทรล (เป็นยาคุมฉุกเฉินชนิดที่มีใช้ในประเทศไทย) เพิ่มความเสี่ยงของการตั้งครรภ์นอกมดลูก, โรคหลอดเลือดสมอง, การเกิดลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำ, การเกิดมะเร็งต่าง ๆ รวมถึงไม่พบผลกระทบต่อการมีบุตรหรือโอกาสตั้งครรภ์ในอนาคต
นั่นก็คือ ไม่พบผลข้างเคียงที่รุนแรงหรือถาวรใด ๆ จากการใช้ยาคุมฉุกเฉิน รวมถึงไม่ได้ทำให้มีบุตรยากในอนาคตค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หลังจากกินยาคุมฉุกเฉินไปวันที่21 วันนี้มีเลือดออกมาเป็นน้ำตาลและแดงสดค่ะ ออกมามากเหมือนประจำเดือนมาวันที่3 แต่รอบประจำเดือนหน้า ถ้าไม่ได้กินยาคุม จะเป็นวันที่11 เลือดที่ออกมาแบบนี้่ เป็นผลข้างเคียงของยารึป่าวคะ แล้วจะเป็นอะไรมั้ยคะ
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
หากไม่ตั้งครรภ์ ผู้ใช้ยาคุมฉุกเฉินส่วนใหญ่จะมีประจำเดือนมาตามรอบปกติเดิม หรือคลาดเคลื่อนเพียงไม่กี่วันค่ะ ซึ่งประจำเดือนปกติก็ควรจะมีปริมาณมากจนชุ่มผ้าอนามัย 2 - 3 แผ่น/วัน และมาต่อเนื่องกัน 3 - 7 วันนะคะ
ส่วนผลข้างเคียงจากยา จะเป็นหยดเลือดซึมหรือเลือดกะปริบกะปรอย ไม่ได้มามากจนชุ่มผ้าอนามัยค่ะ อาจพบภายใน 7 วันหลังรับประทาน หรืออาจไม่พบเลยก็ได้ ไม่ได้สำคัญอะไร
ดังนั้น หากที่ผ่านมาผู้ถามมีประจำเดือนมาตรงตามรอบปกติสม่ำเสมอ และไม่มีอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย (เช่น ตกขาวผิดปกติ, มีกลิ่นเหม็นคาวหรือกลิ่นรุนแรง, แสบหรือคันช่องคลอด หรือปวดท้องรุนแรง) เลือดกะปริบกะปรอยที่พบในตอนนี้ก็น่าจะเป็นเพียงผลข้างเคียงจากยาค่ะ อาจพบเพียงวันเดียว หรือเป็นอยู่ 2 - 4 วันแล้วก็จะหายไปเองนะคะ
แต่ถ้าผู้ถามมีเลือดออกมามากจนชุ่มผ้าอนามัย หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย หรือมีเลือดกะปริบกะปรอยออกมานานผิดปกติ ควรไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมหาสาเหตุที่แท้จริงและพิจารณาการรักษาที่เหมาะสมค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
ผลข้างเคียงที่ทำให้เลือดออกจากยาคุมฉุกเฉินมักเกิดในช่วงหลังจากที่ได้รับประทานยาคุมฉุกเฉินไปแล้วประมาณ 1 สัปดาห์ครับ ส่วนประจำเดือนนั้นควรจะยังมาใกล้เคียงกับกำหนดประจำเดือนตามปกติอยู่ ดังนั้นถ้าหากเลือดออกมาในช่วงที่ไม่ควรมีประจำเดือนก็มีแนวโน้มที่จะเป็นผลข้างเคียงจากยาคุมฉุกเฉินมากกว่าที่จะเป็นประจำเดือนจริงครับ
ทั้งนี้เลือดที่ออกจากผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉินนั้นมักจะมีลักษณะเป็นเลือดออกกระปริดกระปรอยออกมาติดต่อกัน 3-7 วันเท่านั้น ถ้าหากเลือดออกมาในปริมาณมากและออกมาติดต่อกันมากกว่า 7 วันก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุเพิ่มเติมครับ
ส่วนหลังจากนี้หมอก็แนะนำให้รอสังเกตประจำเดือนไปก่อน ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปนานก็ให้ลองตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันดูเพื่อความแน่ใจ โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมอคะ เลือดที่ออกมา มันมีลิ่มเลือดด้วยค่ะ จะเป็นอะไรมั้ยคะ ออกมามากอยู่
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
ในช่วงที่มีเลือดออกทางช่องคลอดนั้นอาจมีลิ่มเลือดปนออกมาได้ครับ
แต่สิ่งที่ต้องคอยสังเกตคือถ้าหากเลือดออกมาในปริมาณมากผิดปกติ ต้องเปลี่ยนผ้าอนามัยมากกว่าวันละ 3 แผ่น หรือมีเลือดออกติดต่อกันนานกว่า 7 วันก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
มีอะไรกับแฟนหลังประจำเดือนหมดไป3วันจะท้องมั้ยคะ เดือนที่แล้วประจำเดือนมาวันที่16-20 พฤษภา เดือนนี้ประจำเดือนมาวันที่12-16 มีอะไรกันตั้งแต่วันที่16-18(ใส่ถุงยาง) แต่วันที่19 ไม่ได้ป้องกัน ทำพอให้หายอยาก ประมาณ5นาทีค่ะ ไม่เสร็จ ไม่มีการหลั่ง หรือแตก จะท้องมั้ยคะ? มีแอพเช็ครอบเดือนไม่รู้ว่าจะเชื่อได้แค่ไหน ในแอพบอกว่าระยะไข่ตกวันที่22-29ค่ะ วันไข่ตกคือวันที่27 ขอคำแนะนำหน่อยนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)