March 18, 2017 22:36
ตอบโดย
รัตน์พล อ่ำอำไพ (แพทย์เฉพาะทางสูตินรีเวช)
อาหารบางชนิด เช่น ชีส ไวน์แดง ช็อคโกแล็ต น้ำตาลเทียม ผงชูรส เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ชา และกาแฟหรือเครื่องดื่มที่ผสมคาเฟอีน สามารถเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอาการปวดศีรษะไมเกรนได้ครับ หากหลีกเลี่ยงอาหารจำพวกนี้ อาจจะทำให้ดีขึ้นได้ครับ
นอกจากนี้ยังมี ปัจจัยอื่นๆที่กระตุ้นการเกิดไมเกรน ที่ควรหลีกเลียง มีดังนี้ครับ
- ความแปรปรวนของฮอร์โมน เช่นช่วงมีประจำเดือน ระหว่างการตั้งครรภ์ วัยหมดประจำเดือน หรือการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิด
- การกระตุ้นทางประสาทสัมผัส เช่น แสงจ้า เสียงดัง กลิ่นฉุน กลิ่นบุหรี่
- การนอนหลับที่เปลี่ยนไป เช่น นอนดึก นอนไม่พอ หรือนอนมากเกินไป
- สภาวะแวดล้อม เช่น อากาศร้อน ฝุ่นควัน
- การใช้ยาบางชนิด
การใช้ยารักษาบรรเทาอาการปวดไมเกรนแบบเฉียบพลัน ได้แก่
- ยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล แอสไพริน ยาแก้ปวดชนิด NSAIDs
- ยากลุ่มเออร์กอต (Ergot-based drug) ยากลุ่มนี้มีผลข้างเคียงพอสมควร ควรใช้ในการรักษาเฉพาะอาการปวดไมเกรนที่รุนแรงและเป็นนาน ๆครั้ง ซึ่งการใช้ยาบ่อย จะทำให้ปวดศีรษะมากขึ้นและอาจติดยา
- ยากลุ่มทริปแทน (Triptan) เป็นยาที่ใช้รักษาอาการปวดศีรษะไมเกรน ไดัเช่นกันแต่มีราคาแพง
สำหรับการใช้ยานอนหลับชนิดต่าง ๆ ก็สามารถใช้ในการรักษาไมเกรนได้ แต่ไม่ควรใช้บ่อยและควรใช้อย่างระมัดระวังเพราะจะมีปัญหาติดยาเกิดขึ้น
หากอาการปวดศีรษะเป็นบ่อยครั้ง และรบกวนชีวิตประจำวัน ควรได้รับการรักษาต่อเนื่องโดยแพทย์เพื่อใช้ยารักษาควบคุมอาการครับ
หรือหากมีอาการปวดรุนแรงขึ้นร่วมกับมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น มีไข้สูง ตาเห็นภาพซ้อน ตาเหล่ ปากเบี้ยว พูดไม่ชัด หรืออาการปวดศีรษะแบบที่ไม่เคยปวดมาก่อน เช่น ปวดต่อเนื่องไม่ดีขึ้นแม้จะใช้ยา แขนขาอ่อนแรง ชาครึ่งซีก พูดไม่ออก ถ้ามีอาการแบบนี้ต้องรีบไปพบแพทย์ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
นิชดา พงษ์ธัญญกรณ์ (แพทย์ทั่วไป) (พญ.)
ปัจจัยกระตุ้นการเกิดไมเกรนได้แก่ อาหารบางชนิด เช่น ชีส ไวน์แดง ช็อคโกแล็ต น้ำตาลเทียม ผงชูรส ชา และกาแฟ หรือการกระตุ้นจากกลิ่นบุหรี่ แสงจ้า เสียงดัง การนอนที่ผิดปกติ เช่นนอนดึก นอนมากเกินไป ขาดนอน จากฝุ่น ควัน จากยาบางชนิด เช่น ยาคุมกำเนิด
การรักษาอาการปวดหัวมีดังนี้
-กินยาบรรเทาปวด เช่น พาราเซตามอล ครั้งละ 1-2 เม็ด ทันทีที่เริ่มมีอาการ อย่ารอให้ปวดนานเกิน 30 นาที จะได้ผลน้อย ในกรณีที่ใช้พาราเซตามอลไม่ได้ผล แพทย์อาจให้ยาบรรเทาชนิดอื่น เช่น ไอบูโพรเฟน (ibuprofen) ทามาดอล (tamadol) เออร์โกทามีน (ergotamine) ชูมาทริปแทน (sumatriptan) เป็นต้น ซึ่งควรกินเป็นครั้งคราวเฉพาะเวลาปวด ถ้าคลื่นไส้มาก ให้กินยาแก้คลื่นไส้อาเจียน ตามคำแนะนำของหมอ การกินยาควรปรึกษาแพทย์ก่อน ไม่ควรซื้อมากินเอง
-นอนพัก นวดเบาๆที่ศีรษะ
-หลีกเลี่ยงที่ที่อบอ้าว มีแสงจ้าหรือเสียงดัง หยุดการเคลื่อนไหวร่างกาย และการเดินขึ้นลงบันได
ถ้าคลื่นไส้มาก ให้กินยาแก้คลื่นไส้อาเจียน (ตามคำแนะนำของหมอ) ควบไปด้วย ในกรณีที่ใช้พาราเซตามอลไม่ได้ผล (พบได้ประมาณร้อยละ 20-30) แพทย์อาจให้ยาบรรเทาชนิดอื่น เช่น ไอบูโพรเฟน (ibuprofen) ทามาดอล (tamadol) เออร์โกทามีน (ergotamine) ชูมาทริปแทน (sumatriptan) เป็นต้น ซึ่งควรกินเป็นครั้งคราวเฉพาะเวลาปวด
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
เป็นไมเกรนควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทไหนบ้างคะ มีวิธีบรรเทาอาการไหมคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)