ไข้ต่ำมา 1 สัปดาห์เเล้วครับเสี่ยงเป็น HIV ไหมครับ มีเพศสัมพันธ์ล่าสุด 1 เเละ 2 สัปดาห์ เเละ ต้นเดือน กค. ที่เเล้วครับ โดยมีการป้องกันโดยการใส่ถุงยางอนามัยตลอด เเล้วมีการจูบเเลกลิ้นเเละ การ Oral sex ด้วยกันทั้งสองฝ่าย ผมทำให้เขาเขาทำให้ผม(ชาย-หญิง) ตอนนี้เป็นไช้ต่ำมา 1สัปดาห์เเล้วครับ ที่ว่าไข้ต่ำคือ ช่วงเวลากลางวันจะ ปกติทั่วไปตัวไม่ร้อน เเต่พอตกเย็เริ่มมีอาการตัวอุ่นๆ วนลูปไปครับเเล้วก็2-3วันเเรกที่เป็นไข้มีอาการเจ็บคอ พอกินยาเเก้เเพ้อาการเจ็บคอก็หายไป เหลือเเต่ไข้ต่ำๆ ต่อมน้ำเหลืองอาการปกติไม่โต กินข้าวไปเยอะปกติทุกอย่างครับ ส่วนเวลาเล่นกีฬาจะปกติไม่มีอาการไข้หรืออ่อนเเรง ผมเข้าข่ายเป็นโรค HIV รึโรคทางเพศไหมครับ ปล.ก่อนเป็นไข้ผมตากฝนประมาน 2-3รอบ

70% ของผู้ป่วยหลังติดเชื้อ HIV 2-3 สัปดาห์ ผู้ติดเชื้อส่วนมากจะมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ คือมีอาการอ่อนเพลีย มีไข้ ต่อมน้ำเหลืองบริเวณคอและรักแร้โต มีผื่นที่ตัวแและหลัง เจ็บคือ คลื่นไส้ ท้องเสีย โดยอาการเหล่านี้จะดีขึ้นเองหนึ่งสัปดาห์ ดังนั้นอาการของคนไข้ บอกยากครับอาจเป็นไข้จากอย่างอื่นก็ได้ครับ ทั้งไวรัสทั้วไป หรือเชื้ออื่นที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์(เนื่องจากมีการOral sex) ถ้ากังวลเเนะนำให้ไปตรวจเลือดครับ (ยิ่งถ้ามีอาการอื่นเช่น หนองไหลจากอวัยวะเพศ มีแผลบริเวณอวัยวะเพศ ควรไปดูอย่างอื่นด้วครับ เช่น หนองใน ซิฟิลิส) หลังจากมีพฤติกรรมเเสี่ยงประมาณ 5-7 วัน ก็สามารถไปตรวจได้ครับ เช่นที่ คลินิคนิรนาม หรือ รพ รัฐ เดี๋ยวนี้ส่วนใหญ่ตรวจได้เกือบหมดครับ โดย หลังจากได้รับเชื้อ ในช่วงแรก สารพันธุกรรมของไวรัส (RNA และ DNA) ก็แบ่งตัวจะขยายจำนวนเพิ่มขึ้นจนมากพอที่เราสามารถใช้เทคนิคที่เรียกว่า NAAT (nucleic acid amplification testing) ตรวจได้หลังมีพฤติกรรมเสี่ยง 5-7 วัน หลังจากนั้นจะมีการตรวจเพิ่มเติมเพื่อยืนยันการวินิจฉัย เช่น ตรวจหาAntigen(p24) Antibodyซึ่งคือภูมิคุ้มกันที่ร่างกายมีต่อเชื้อ(Anti HIV) ซึ่งมักตรวจได้หลังรับเชื้อประมาณ 1 เดือนขึ้นไปครับ