August 24, 2019 14:53
ตอบโดย
วชิรวิทย์ สุทธิศักดิ์ (แพทย์ทั่วไป) (นพ.)
1.อาจจะเป็นผลจากฮอร์โมนได้ครับ
ถ้าไม่ได้มีอาการคันเเสบช่องคลอด ไม่ได้มีกลิ่นเหม็น ก็น่าจะปกติครับ ไม่ต้องรักษา
ถ้าตกขาว ขาวข้นเป็นก้อนคล้ายๆนม ร่วมกับคันช่องคลอด แสบช่องคลอด อาจเป็นอาการของการติดเชื้อราในช่องคลอดครับ ส่วนถ้าตกขาวขุ่นเขียวเหลืองๆ จะมีเลือดปนด้วยหรือไม่มี อาจเป็นการติดเชื้อเเบคทีเรียเช่นหนองใน หรือโปรโตซัวพวก Trichomonas ซึ่งอาจเกิดจากการที่เราสวนล้างช่องคลอด หรือ กินยาฆ่าเชื้อเเบคทีเรีย ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้สมดุลเเบคทีเรียในช่องคลอดเสียครับ เชื้อก่อโรคในช่องคลอดจึงเเบ่งตัวเเละเกิดการติดเชื้อได้ หรืออาจติดเชื้อมาจากคู่นอนก็เป็นไปได้ครับ
การรักษาเรื่องตกขาวติดเชื้อ คันช่องคลอดคือการรับประทานหรือสอดยาฆ่าเชื้อครับขึ้นกับว่าติดเชื้ออะไร เช่น ถ้าเเบคทีเรีย ส่วนใหญ่ให้ Metronidazole ส่วนเชื้อรามักใช้เป็น Clotrimazoleสอดครับ
ปรึกษาเภสัชกรลองเรื่องยาก่อนได้ครับ เเต่ถ้ามีไข้ มีปวดท้องน้อยร่วมด้วยเเสดงว่ามีการติดเชื้อถึงมดลูกเเล้วควรไปพบเเพทย์ทันทีครับ เพราะอาจต้องได้ยาฆ่าเชื้อทางเส้นเลือดหรือฉีดเข้ากล้ามเนื้อครับ
2.เรื่องประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ หรือขาด
โดยปกติประจำเดือนสามารถมาเร็วมาช้าได้บวกลบ7วันครับ ถ้ายังไม่เกิน7วันหมอว่ายังรอไปก่อนได้ครับ
ปกติจะมาประมาณ2-6วัน ปริมาณประมาณ 20-60ml
.............
การที่ประจำเดือนมาไม่ตรงรอบหรือขาด อาจเกิดได้จากความเครียด ทำให้ระดับฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง ,การตั้งครรภ์ ,การฉีดยาคุมกำเนิดชนิดสามเดือน ,ยาฝังคุมกำเนิด หรือ ห่วงคุมเนิดชนิดฮอร์โมน ครับ
หรือเกิดได้จากโรคอื่นๆ กรณีที่ประจำเดือนขาดนานๆ หรือมาไม่สม่ำเสมอครับ เช่น โรคถุงน้ำรังไข่อาการคือ ประจำเดือนมักมาไม่สม่ำเสมอร่วมกับพบลักษณะของฮอรโมนเพศชาย(มีสิว มีขนเยอะ) หรือ บางครั้งความผิดปกติของต่อมใต้สมองซึ่งมีหน้าที่หลั่งฮอร์โมนมากระตุ้นรังไข่ก็ทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติได้ครับหากประจำเดือนขาดนานๆ ร่วมกับบีบหัวนมเเล้วมีน้ำนมไหลออกมา หรืออาจเกิดจากการตกไข่ผิดปกติจากสาเหตุของรังไข่เอง
อื่นๆ เช่น เยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่(ช็อคโกเเลตซีสต์) อาการคือ ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ เจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ เป็นต้นครับ
.............
หากเดิมประจำเดือนมาปกติ เเล้วประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ โดยที่ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ หรือตรวจเเล้วไม่ท้อง (ปกติประจำเดือนขาดก็ตรวจได้เเล้วครับว่าท้องหรือไม่) หรือ ไม่ได้มีความเครียดอื่นๆ ควรไปพบสูตินรีเเพทย์ครับ อาจพิจารณารับประทานยาคุมกำเนิดเพื่อปรับฮอร์โมน ร่วมกับหาสาเหตุด้วยครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
ในช่วงที่รับประทานยาปรับฮอร์โมนนั้นอาจมีผลข้างเคียงทำให้มีตกขาวมากขึ้นได้ครับ โดยถ้าหากตกขาวนั้นไม่ได้เปลี่ยนเป็นสีเหลืองเขียว มีกลิ่นเหม็น หรือก่อให้เกิดอาการคันก็มักไม่ได้มีปัญหาอะไรครับ
ในกรณีนี้หมอแนะนำให้รับประทานยาปรับฮอร์โมนตามที่แพทย์ได้แนะนำไปก่อนและถ้าหากรับประทานยาหมดแล้วประจำเดือนยังไม่มาก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการอีกครั้งครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
แบบนี้คือไม่มีโอกาสตั้งครรภ์ใช่ไหมคะ
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
Shintai Thavonlun (นพ.)
ถ้าคันและมีตกขาว เป็นก้อนเปียก กลิ่นคล้ายนมบูด อวัยวะเพศอาจบวมแดง น่าจะเป็นจากติดเชื้อราครับ การรักษาจะมีให้เลือกทั้งยาเหน็บ และยารับประทานครับ
แนะนำให้ ไปพบแพทย์หรือสูตินรีแพทย์ เพื่อตรวจร่างกาย ตรวจภายใน เพิ่มเติมเพื่อจะได้วินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้องครับ
การปฏิบัติตัวเบื้องต้นแนะนำ ไม่ใส่เสื้อผ้าอับชื้น งดสวดล้างช่องคลอด งดมีเพศสัมพันธ์ ดื่มน้ำมากๆ ไม่กลั้นปัสสาวะ และลองเปลี่ยนสบู่ หรือแป้งที่ใช้ ดูครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
พอดีประจำเดือนไม่มา2เดือนไปหาหมอคลินิกมาหมอให้กินยาปรับฮอร์โมน แต่พอกินมาถึงวันที่3 เป็นตกขาวลักษณะเหมือนแป้งเปียก ไม่มีกลิ่น ไม่รู้สึกคัน 1-2วันก่อนหน้าที่กินยาก็ไม่เป็นนะคะ อยากทราบว่าเพราะอะไร หรือเพราะว่ากินยาปรับฮอร์โมน แต่เป็นไม่เยอะนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)