November 19, 2018 18:49
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
จากอาการข้างต้นนั้นอาจจะยังไม่สามารถบอกได้อย่างชัดเจนว่าเกิดจากสาเหตุใดครับ แต่โดยทั่วไปแล้วอาการของทั้ง 2 โรคจะเป็นดังนี้
โรคนิ่วในถุงน้ำดี จะทำให้มีอาการปวดท้องในลักษณะปวดจุกแน่นที่บริเวณใต้ชายโครงขวา ปวดนานครั้งหนึ่งหลายชั่วโมงก่อนที่อาการจะกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง อาการมักเป็นมากขึ้นหลังรับประทานอาหาร
โรคกระเพาะจะทำให้มีอาการปวดท้องในลักษณะจุกแสบที่บริเวณลิ้นปี่ ถ้าหากอาการเป็นมากๆก็อาจทำให้มีอาการคลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วยได้ อาการมักสัมพันธ์กับการรับประทานอาหารที่ไม่ตรงเวลา
ในเบื้องต้นนั้นถ้าหากอาการไม่รุนแรงมากหมอก็แนะนำให้พยายามรับประทานอาหารให้ตรงเวลา ไม่รับประทานอาหารเผ็ดจัดเปรี้ยวจัด หลีกเลี่ยงการดื่มชา กาแฟ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รับประทานผักให้มากขึ้นก็จะช่วยให้อาการดีขึ้นได้บ้างในกรณีที่เป็นโรคกระเพาะครับ
แต่ถ้าหากอาหารปวดท้องนั้นเป็นอยู่บ่อยๆหรือมีอาการปวดอย่างรุนแรงก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมครับ และในกรณีที่สงสัยว่าอาจเป็นนิ่วในถุงน้ำดีได้ก็ต้องอาศัยอัลตราซาวด์ในการรตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติมครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
หนูรู้สึกปวดท้องค่ะแต่ไม่มากเท่าไรท้องป่อง คลื่นไส้ด้วยค่ะบางวันก็อยากจะเรอแต่เรอไม่ออกค่ะหนูอยากรู้ว่าหนูเปนถุงน้ำดีรึแาวเพราะหนูเป็นโรคกะเพราะบ่อยค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)