May 02, 2019 11:43
ตอบโดย
กอบศักดิ์ ชัยชะแตง (นพ.)
ตามปกติฮอร์โมนของยาคุมฉุกเฉินที่ขายกันในท้องตลาดมักเป็นชนิดฮอร์โมนเดี่ยว คือฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนครับ ซึ่งการกินยานั้น จะกิน2เม็ดทีเดียว หรือ1เม็ดทุก12ชม ก้ได้ครับ ผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยพายหลังรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินคือ มักพบว่ามีเลือกออกได้ภายหลังกินยา ประมาณ1อาทิตย์ภายหลังครับ ซึ่งไม่ใช่ประจำเดือน จากประวัติคนไข้นั้นสามารถเกิดได้จากผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉินครับ
ฉะนั้นควรรอรอบเดือนตามปกติ หากมาล่าช้ากว่ากำหนดเกิน1อาทิตย์สามารถตรวจการตั้งครรภ์โดยปัสสาวะได้ครับ
หรืออาจตรวจการตั้งครรภ์ถายหลังมีเพศสัมพันธ์ที่มีความเสี่ยงประมาณ2อาทิตย์ขึ้นไปได้ครับ
สาเหตุที่ทำให้ประจำเดือนเลื่อนหรือมาช้ากว่าปกติ ที่พบได้บ่อยเช่น
1.ความเครียด ความกังวล
2.การพักผ่อนไม่เพียงพอ ทำงานหนัก
3.การใช้ยาคุมกำเนิด เช่น ยาเม็ด ยาฉีด และยาฝัง
4.เนื้องอก ซีสต์หรือก้อนบริเวณมดลูกและรังไข่
5.ฮอร์โมนเพศไม่สมดุล
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
ปวริศ ยืนยง (นพ.)
สวัสดีครับ เลือดที่ออกมาอาจจะเกิดจากผลของยาคุมฉุกเฉินได้ครับ ระยะเวลาประมาณ 6 วัน หลังกินยาซึ่งเป็นไปได้ครับ ที่จะเป็นเลือดจากผลของยาคุมครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
การมีเลืออดทางช่องคลอดไม่ได้เป็นอาการที่จะบ่งชี้ถึงการตั้งครรภ์ได้ครับ
การรับประทานยาคุมฉุกเฉินอาจมีผลข้างเคียงทำให้มีเลือดออกกระปริดกระปรอยทางช่องคลอดตามมาได้ครับ ผลข้างเคียงนี้มักเกิดขึ้นหลังรับประทานยาไปประมาณ 1 สัปดาห์แล้ว และเลือดนี้ก็มักออกมาติดต่อกันประมาณ 3-7 วัน
ส่วนเลือดล้างหน้าเด็กนั้นเป็นเลือดที่เกิดจากการฝังตัวของตัวอ่อนกับเยื่อบุโพรงมดลูก ลักษณะเลือดมักเป็นเลือดสีชมพูจางๆออกมาในปริมาณเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และมักไม่จำเป็นต้องใช้ผ้าอนามัย จากลักษณะเลือดข้างต้นจึงมีโอกาสเป็นเลือดล้างหน้าเด็กได้น้อยครับ
ลักษณะเลือดตามที่เล่ามานั่นยังมีโอกาสเป็นได้ทั้งประจำเดือนและผลข้างเคียงที่เกิดจากยาคุมฉุกเฉิน ทั้งนี้คงต้องรอสังเกตอาการไปก่อนว่าลักษณะเลือดเหมือนกับประจำเดือนในเดือนที่ผ่านมาหรือไม่ ถ้าเหมือนประจำเดือนเดือนที่ผ่านมาก็มีโอกาสที่จะเป็นประจำเดือนตามปกติได้ และการที่มีประจำเดือนมาแล้วก็จะบ่งบอกว่าไม่มีการตั้งครรภ์ครับ
แต่ถ้าหากไม่มั่นใจว่าได้มีประจำเดือนมาตามปกติหรือยัง หมอก็แนะนำให้ลองตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันดูเพื่อความแน่ใจ โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ขอบคุณ คุณหมอทั้ง 3 ท่านมากๆ ครับ ที่เข้ามาแนะนำและอธิบายให้ผมเข้าใจ
รบกวนสอบถามคุณหมอเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ครับ ประจำเดือนเริ่มต้นมาวันที่ 5/04 -เมื่อวันที่ 21/04 ผมกับแฟนมี พสพ.กัน ป้องกันโดยถุงยางอนามัย -วันที่ 23/04 ผมเกิดตะหงิดใจถุงยางอนามัยว่าแตกหรือมีรอยรั่วหรือไม่(ก่อนหน้านี้เคยเกิดถุงแตก) และหลังจากตรวจสอบว่าถุงยางมีรอยรั่วอยู่ 1 จุดอยู่ทางด้านข้างของถุงยาง(ไม่แน่ใจว่าเกิดจากอะไร แต่ถุงยางซื้อมานานแล้วเกือบปีได้) ผมจึงให้แฟนกินยาคุมฉุกเฉิน ซึ่งยังอยู่ใน 72 ชั่วโมงนับจากมี พสพ. -วันที่ 30/04 แฟนบอกว่ามีเลือดออกมาเล็กน้อย ถ้านับแล้วมีเลือดออกมา คือ 6 วันก่อนที่ประจำเดือนควรจะมา (ในใจคิดว่าอาจจะเป็นเลือดล้างหน้าเด็ก) -วันที่ 1/05 ประจำเดือนมาเยอะกว่าวันที่ 30/04 ซึ่งมาในลักษณะสีแดงเกือบๆจะเต็มแผ่น -วันที่ 2/05 ประจำเดือนมาเล็กน้อย ผมสงสัยว่าลักษณะอาการแบบนี้โอกาสที่จะท้องหรือไม่ครับ -เลือดที่ออกมาเล็กน้อยในวันที่ 30/04 เป็นไปได้มั้ยว่า เป็นผลกระทบของยาคุมฉุกเฉิน เพราะว่าวันที่ 2 ของกระมีประจำเดือน ประจำเดือนมามาก ถ้าเป็นเลือดล้างหน้าเด็กควรจะมา 2-3 วันและมีปริมาณเล็กน้อย รบกวนคุณหมออธิบายให้หน่อยนะครับ ขอบคุณมากครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)