November 01, 2018 14:20
ตอบโดย
พิศุทธิกาญจญ์ รังคกูลนุวัฒน์ (พญ.)
สวัสดีค่ะ สำหรับอาการหัวใจเต้นเร็ว/ใจสั่นอาจเป็นผลมาจากหลายอย่าง เช่น
1.สาเหตุจากหัวใจ เช่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ
2.การขาดน้ำหรือดื่มน้ำไม่เพียงพอ เช่น มีการอาเจียน ถ่ายเหลว
3.การใช้ยาหรืออาหารบางอย่าง เช่น ชา กาแฟ
4.ฮอร์โมนผิดปกติ เช่น thyroid สูง อาจมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น กินจุ น้ำหนักลด
5.ภาวะทางจิตใจ เช่น ตื่นเต้น วิตกกังวล เป็นต้น
ดังนั้น หากยังคงมีอาการหัวใจเต้นเร็ว ใจสั่น นอนไม่หลับ แนะนำให้ไปตรวจเพิ่มเติมที่ รพ นะคะ อาจต้องมีการทำคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ตรวจเลือด เพื่อยืนยันการวินิจฉัยด้วยค่ะ
ส่วนอาการปวดศรีษะ
อาการเวียนหัวและปวดหัว ต้องได้รับการซักประวัติอย่างละเอียด เกี่ยวกับลักษณะการปวดเพิ่มเติม อาการร่วมกับปวดหัว เช่น ตามัว อาเจียน แขนขาอ่อนแรง การเห็นแสงสิบวับ เป็นต้นค่ะ รวมถึงต้องตรวจร่างกายทางระบบประสาทอย่างละเอียดด้วยค่ะ จึงตะสามารถวินิจฉัยและรักษาได้อยาางตรงจุด ตัวอย่างโรคเกี่ยวกับการปวดหัว ที่สามารถเป็นได้ ได้แก่
1. โรคไมเกรน (migrain)ค่ะ คือ โรคชนิดหนึ่งซึ่งยังหาสาเหตุที่แน่ชัดไม่ได้ แต่น่าเชื่อได้ว่าอาจมีจุดกำเนิดจากก้านสมองที่ทำงานผิดปกติ หรือเกิดจากภาวะที่สารเคมีในสมองไม่สมดุล ส่งผลให้หลอดเลือดมีความไวต่อการกระตุ้นมากเป็นพิเศษกล่าวคือ มีการหด และขยายตัวของหลอดเลือดอย่างผิดปกติ ทำให้เกิดอาการปวดศรีษะได้
โดยลักษณะอาการปวดศรีษะจะมีลักษณะ ปวดบริเวณขมับโดยอาจจะปวดข้างเดียว หรือทั้งสองข้างก็ได้ บางกรณีอาจมีการปวดวนกันไป และมักจะปวดข้างเดิมอยู่ซ้ำ ๆ
ส่วนอีกบริเวณหนึ่งที่พบมาก ได้แก่ บริเวณเบ้าตา ลักษณะของการปวด ก็มักจะปวดตุ้บๆ ตามจังหวะของชีพจร ในผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย
การรักษาโดยการกินยาลดอาการปวด การกินยาป้องกันไม่ให้หลอดเลือดหดและขยายตัวซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดเกิดขึ้น
หลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้เกิดโรคกำเริบซึ่งจะแตกต่างกันออกไปในแต่ละบุคคล เช่นความเครียด บางคนเจออาการร้อนหรือที่ๆแสงสว่างมากๆก็กระตุ้นได้ ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มชูกำลัง หรือเครื่องดืมที่มีคาเฟอีนค่ะ
—อย่างที่สองที่นึกถึงได้ คือ การติดเชื้อค่ะ โดยเฉพาะ การติดเชื้อที่ระบบทางดินหายใจส่วนบน เช่น ไซนัสอักเสบ ไข้หวัดใหญ่ อาจทำให้มีอาการปวดศรีษะ บางรายอาจมีอาการปวดบริเวณใบหน้า ปวดรอบเบ้าตา อาจมีน้ำมุกสีเขียวผิดปกติ คัดจมูก มาก หรือบางคนอาจมีการได้กลิ่นลดลงได้ค่ะ เป็นต้น
การรักษาคือ การให้ยาฆ่าเชื้อค่ะ และการล้างจมูกบ่อยๆ
3.Tension headache เป็นการปวดศรีษะชนิดหนึ่ง ที่พบได้บ่อยที่สุด วินิจฉัยโดยอาศัยลักษณะ อาการปวดโดยมักจะปวดตื้อๆ บีบๆเริ่มจากบริเวณท้ายทอยร้าวไปขมับ สองข้าง
บางครั้งอาจจะกดเจ็บบริเวณหนังศรีษะร่วมด้วย มักมีสาเหตุเกิดจากความเครียด การทำงานหนัก พักผ่อนไม่เพียงพอค่ะ
อย่างไรก็ตาม โรคปวดศรีษะ มีมากมายหลากหลาย ต้องอาศัยการซักประวัติและการตรวจร่างกายทางระบบระสาทอย่างละเอียดค่ะซึ่งการรักษาก็ขึ้นกับว่าวินิจฉัยเป็นโรคอะไรค่ะ หากไม่แน่ใจว่าอาการที่เป็นนั้นเข้าได้กับอาการที่กล่าวทางด้านต้น แนะนำให้ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลเพื่อเข้ารับการตรวจและวินิจฉัยที่ถูกต้องค่ะ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากมีอาการเหล่านี้ ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษค่ะ
1.ปวดมาก ปวดตลอดเวลาไม่มีช่วงที่หายสนิทเลย
2.ปวดจนสะดุ้งตื่น ขึ้นมากลางดึก หลังจากที่หลับไปแล้ว
3.มีอาการทางระบบประสาทร่วมด้วย เช่นชักเกร็งกระตุก คลื่นไส้ มีอาเจียนพุ่ง หนังตาตก แขนขาอ่อนแรงหรือชาเป็นต้น
4.มีไข้
5.มีอุบัติเหตุกระทบกระแทกศรีษะ
5.มีโรคประจำตัวบางอย่างเช่น มะเร็งชนิดต่างๆ โรคเลือด โรคติดเชื้อ HIV เป็นต้น
**ดังนั้น หากอาการต่างๆที่คนไข้เล่ามา รบกวนชีวิตประจำวันค่อนข้างมาก จึงควรไปตรวจเพิ่มเติมตะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอนปวดหัวจะปวดข้างเดียวบ้าง หรือบางทีก็ปวดไปหมดถึงท้ายทอยเลยค่ะ เบ้าตาก็ปวด เวลาเจอแสงปกติ ไม่ได้จ้ามาก ก็รู้สึกปวดเหมือนกันค่ะ พรุ่งนี้จะไปตรวจตามที่คุณหมอแนะนำค่ะ ขอบพระคุณมากๆเลยค่ะ🙏
มีอาการหัวใจเต้นเร็ว มือสั่น ปวดหัว ส่วนมากมักเป็นตอนที่ตื่นจากงีบเวลากลางวันค่ะ หัวใจเต้นเร็วเหมือนหนีอะไรมา แบบตกใจค่ะ จะรู้สึกเหนื่อยมาก ระหว่างวันบางทีก็ปวดหัวขึ้นมาแบบไม่ทราบสาเหตุ เป็นสะสมมาหลายปีแล้วค่ะ แต่พักหลังไปรู้สึกแรงขึ้น ส่วนตัวเป็นคนไม่กินเนื้อสัตว์ แล้วก็ไม่ค่อยออกกำลังกาย อาทิตย์นึงมีออกไปเดินบ้าง2-3ครั้ง แบบนี้เพราะขาดวิตามิน สารอาหาร หรือเป็นโรคอะไรหรือเปล่าคะ ควรไปตรวจมั้ยคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)