November 04, 2018 14:09
ตอบโดย
อนรรฆวี ฉง (พญ.)
สงสัยภาวะโรคเท้าเหม็น (Pitted keratolysis) เป็นโรคของการติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนังชั้นนอก สุดของฝ่าเท้า ทำให้มีเท้าลอกและมีกลิ่นเหม็น พบได้บ่อยในผู้ที่ใส่รองเท้าหุ้มส้นเป็นเวลา นาน ทำให้มีความอับชื้น อันเอื้อให้เกิดสภาวะเหมาะสมต่อการเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย เมื่อ เปรียบเทียบกับโรคของผิวหนังที่พบได้บ่อยในผู้ที่มีภาวะเท้าชื้นแฉะเช่นเดียวกันอีกโรคคือ โรค น้ำกัดเท้า ซึ่งมีข้อแตกต่างกันคือ
โรคเท้าเหม็นนั้น เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย มักไม่มีอาการคัน แต่มีเท้าลอก ผิวหนังดูชื้นแฉะ มีกลิ่นเหม็น และโรคเริ่มเกิดที่ฝ่าเท้าก่อน
ส่วนโรคน้ำกัดเท้านั้นเกิดจากเชื้อรา มักมีอาการคัน ผิวหนังลอกเป็นขุยและโรคมักเริ่มเกิดที่ซอกนิ้วเท้าก่อน
ดังนั้น การวินิจฉัยที่ถูกต้องจึงเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากทั้งสองโรคนี้มีเชื้อต้นเหตุต่างกัน จึงใช้ยาในการรักษาที่ต่างกัน
โรคเท้าเหม็นนั้นเป็นโรคที่พบได้บ่อยในเขตร้อนและเขตศูนย์สูตร ประมาณ 95% ของผู้ ป่วยเป็นเพศชาย เนื่องจากผู้ชายมักมีเหงื่อออกมากกว่าผู้หญิง
เกิดจากแบคทีเรีย ชื่อ Micrococcus Sedentarius (เมื่อย้อมสีและตรวจดูด้วยกล้องจุลทรรศน์ แบคทีเรียชนิดนี้จะมีรูปร่างกลม ย้อมติดสีม่วง และมีลักษณะอยู่เรียงกันเป็นสาย) ซึ่งพบอยู่ทั่วไปในสิ่งแวดล้อมรอบๆตัวเรา เช่น ในน้ำ ในดิน และในฝุ่นละออง นอก จากนั้นยังพบได้ที่ผิวหนังของเราและของสัตว์ต่างๆ ทั้งนี้ อาจเกิดจากแบคทีเรียชนิดอื่นได้ แต่พบว่าเป็นสาเหตุที่น้อยกว่า เช่น จากแบคทีเรีย Corynebacterium species
โรคเท้าเหม็นนี้พบได้บ่อยในผู้ที่สวมใส่รองเท้าหุ้มส้นเป็นเวลานาน เนื่องจากทำให้มี เหงื่อออกที่เท้ามาก เท้าอับชื้น ส่งผลให้ผิวหนังชั้นนอกสุดของฝ่าเท้า เปื่อยยุ่ย และมีค่าความ เป็นด่างสูงขึ้น เอื้อต่อการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ซึ่งแบคทีเรียจะสร้างเอนไซม์ชื่อ Protease มาย่อยสลายผิวหนังส่วนนอกสุดของฝ่าเท้า เกิดเป็นหลุมเล็กๆจำนวนนับไม่ถ้วน หากมองด้วยแว่นขยาย
ส่วนกลิ่นเหม็นนั้น เกิดมาจากผลที่เกิดจากการย่อยผิวหนังที่ฝ่าเท้าของแบคทีเรีย ที่ส่ง ผลให้ได้สารในกลุ่มซัลเฟอร์ (Sulfur compound) ซึ่งเป็นสารให้กลิ่น
ทั้งนี้ ปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคนี้นั้น ประกอบด้วย 2 ปัจจัย คือ เชื้อแบคทีเรียที่มีอยู่ที่เท้า ที่ถุงเท้า ที่รองเท้า และ ภาวะที่เอื้อต่อการเจริญของแบคทีเรีย คือ การเปียก อับชื้นของเท้า ดัง นั้น การรักษาความสะอาดของเท้า ถุงเท้า รองเท้า และการลดการเปียกชื้นของเท้า จึงช่วยป้อง กันการเกิดโรคนี้ได้
โดยปกติแล้วโรคเท้าเหม็นนั้น มักไม่มีอาการอื่น และไม่มีอาการที่อวัยวะอื่น นอกจากอา การที่เท้า จึงทำให้ผู้ที่เป็นโรคเท้าเหม็นจำนวนน้อยเท่านั้นที่จะมาพบแพทย์ โดยอาการที่พบได้ที่เท้า มีดังนี้ คือ
ประมาณ 70% ของผู้ป่วยมาด้วยอาการฝ่าเท้าชื้น ลอก ทำให้ถุงเท้าติดกับผิวฝ่าเท้าประมาณ 90% มีกลิ่นเหม็นที่เท้าประมาณ 10% มีอาการคันเท้า
ทั้งนี้ ลักษณะของรอยโรค จะเห็นเป็นรอยเปื่อยถลอกที่เท้า โดยเฉพาะฝ่าเท้า เวลาถอด ถุงเท้าออก จะรู้สึกว่าถุงเท้าติดกับฝ่าเท้า รอยถลอกที่ฝ่าเท้าจะมีลายคล้ายแผนที่ หากส่องดู ด้วยแว่นขยายจะพบว่า รอยถลอกเหล่านี้ประกอบไปด้วยหลุมเล็กๆความลึกประมาณ 0.5-0.7 มิลลิเมตร ปริมาณนับไม่ถ้วน ที่เกิดจากแบคทีเรียย่อยสลายผิวหนังฝ่าเท้าชั้นนอกสุด รอยโรค นี้มักพบมากที่ฝ่าเท้าบริเวณที่รับน้ำหนักมาก เช่น ฝ่าเท้าส่วนนิ้วโป้ง ส้นเท้า แต่บริเวณง่ามนิ้ว เท้าที่ไม่ได้รับน้ำหนัก แต่มีความอับชื้นมาก ก็พบได้มากเช่นกัน
เนื่องจากปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคนี้ มี 2 ประการคือ เชื้อแบคทีเรีย และภาวะอับชื้นของเท้า การรักษาจึงต้องรักษาดูแลทั้ง 2 ปัจจัย
•การรักษาแบคทีเรียนั้น ใช้เป็นยาฆ่าเชื้อชนิดทา เช่น ยาClindamycin ยา Erythro mycin และ/หรือ ยาทาที่ช่วยให้ผิวหนังลอกตัวเพื่อสร้างผิวหนังขึ้นใหม่และมีฤทธิ์เป็นยาฆ่าเชื้อร่วมด้วย เช่น ยาBenzoyl peroxide หรือ ยาที่เป็นแป้งผงฆ่าเชื้อ โดยทายา เช้า-เย็น จน กว่ารอยโรคจะหาย ซึ่งขึ้นอยู่กับการหลีกเลี่ยงภาวะอับชื้นของเท้าด้วย
•ส่วนการป้องกันภาวะอับชื้นนั้น ทำได้โดย
◇การลดเวลาในการใส่รองเท้าหุ้มส้นให้เหลือน้อยๆที่สุด หรืออาจโดยถอดรองเท้าบ่อยๆ
◇ใส่ถุงเท้าที่มีการระบายอากาศได้ดี เช่น ผ้าฝ้าย 100% แต่หากมีเหงื่อออกมาก ควรเปลี่ยนถุงเท้าระหว่างวัน เพื่อลดความอับชื้น
◇ใช้แป้งผง 20% Aluminium chloride โรยเท้าวันละ 1-2 ครั้ง หรือตามแพทย์ผู้ รักษาแนะนำ หลังทำความสะอาดเท้าด้วยสบู่ที่มียาฆ่าเชื้อเป็นส่วนผสม แล้วเช็ดเท้าให้แห้ง
◇หากยังมีเหงื่อออกมากอยู่ แพทย์อาจพิจารณารักษาอาการเหงื่อออกมากที่เท้า โดยใช้การฉีดยา Botulinum toxin ที่ฝ่าเท้า
โดยทั่วไป ใช้เวลารักษาให้โรคหายประมาณ 2 อาทิตย์ ถึง 1 เดือนเชื้อโรคนี้ มักเป็นเฉพาะที่เท้า ไม่ลุกลามไปย้งอวัยวะอื่น เช่น มือ หรือ ผิวหนังส่วนอื่นๆโรคนี้ไม่ติดต่อไปสู่ผู้อื่น
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
เป็นคนเท้าเหม็นมากครับ เคยลองวิธีการต่างๆ มาหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเอาเดทตอลแช่เท้า แช่เท้าผสมน้ำยาบ้วนปาก เอาโรลออนทา แป้งตราเต่ามาทา เอาขี้ผึ้งทา สเปรย์ขจัดกลิ่นก็ยังไม่หาย เปลี่ยนถุงเท้ารองเท้าใหม่ สักพักเดียวก็มีกลิ่น ควรแก้ปัญหาอย่างไรดีครับเครียดมาก ไม่อยากออกไปข้างนอกเลย
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)