November 05, 2018 15:00
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
สาเหตุของการขาดประจำเดือนนั้นอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุนอกเหนือจากการตั้งครรภ์ครับ เช่น
- มีการตกไข่ที่ไม่สม่ำเสมอ
- ระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ
- มีความผิดปกติของรังไข่หรือมดลูก
- ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ
- ผลข้างเคียงของยาบางชนิด
- ความเครียด
- การออกกำลังกายอย่างหักโหม
- น้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยเกินไป
ในกรณีที่ต้องการทราบสาเหตุที่ทำให้ประจำเดือนขาดและทำให้ประจำเดือนมาสม่ำเสมอมากขึ้นได้ก็จำเป็นต้องมีการตรวจหาสาเหตุจากแพทย์นรีเวชเพื่อให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดก่อน จึงจะให้การรักษาที่เหมาะสมได้ครับ โดยเฉพาะถ้าประจำเดือนขาดไปนานกว่า 3 เดือน
ส่วนการตรวจการตั้งครรภ์ที่ผ่านมานั้นจะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับวิธีการและช่วงเวลาที่ตรวจครับ ถ้าหากตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ
แต่ถ้าหากตรวจในช่วงเวลาที่ยังไม่เหมาะสมก็แนะนำให้ตรวจใหม่อีกครั้งในช่วงเวลาที่เหมาะสมครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตรวจตั้งครรภ์ไปหลังจากมีเพศสัมพันธ์7วัน แล้วก็ตรวจใหม่ต่อจากนั้นอีก7วันคะ แต่ขึ้นขีดเดียวตลอด ทุกครั้งที่มีเพศ7สัมพันธ์จะใส่ถุงยางตลอดคะ แต่ประจำเดือนไม่มาไม่แน่ใจว่าเครียดหรือเปล่าแต่พยายามทำปกติก็ยังไม่มา ไปปรึกษาร้านขายยาเขาแนะนำให้กินยาคุมแต่ยังไม่ได้ลองซื้อมากินนะคะ ไม่เคยกินกลัวผลข้างเคียง คุณหมอพอแนะนำอะไรได้บ้างคะ
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
หมายถึงว่า ได้ตรวจการตั้งครรภ์ครั้งแกรหลังมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้าย 7 วัน และหลังจากนั้นก็ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์อีกเลย แล้วได้มาตรวจการตั้งครรภ์อีกครั้งหลังจากนั้น 7 วันใช่ไหมครับ
ในกรณีนี้ก็จะเท่ากับว่าได้ตรวจการตั้งครรภ์ห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วัน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่จะเริ่มตรวจการตั้งครรภ์ได้ครับ ทั้งนี้ต้องพิจารณาด้วยว่าได้ใช้ปัสสาวะหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจหรือไม่ เพราะปัสสาวะในช่วงเวลานี้จะเป็นปัสสาวะที่มีความเข้มข้นของฮอร์โมนการตั้งครรภ์มากที่สุด ทำให้ตรวจให้ผบที่เชื่อถือได้มากที่สุด ถ้าหากไม่ได้ใช้ปัสสาวะหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจก็อาจให้ผลตรวจที่ผิดพลาดได้มากครับ
ส่วนการรับประทานยาคุมเพื่อปรับประจำเดือนนั้นสามารถทำได้ครับ และถือว่ามีข้อดีสำหรับตัวคุณเองที่ต้องการการคุมกำเนิดอยู่แล้วด้วย แต่จะใช้ได้ผลในกรณีที่ประจำเดือนไม่สม่ำเสมอจากฮอร์โมนที่ไม่คงที่เท่านั้น ไม่สามารถใช้ปรับประจำเดือนที่ผิดปกติจากสาเหตุอื่นๆได้ ดังนั้นอาจต้องไปพบแพทย์เพื่อตรวจให้ทราบสาเหตุของประจำเดือนที่ผิดปกติให้แน่ชัดก่อนว่าสามารถรักษาด้วยยาคุมได้หรือไม่ครับ
นอกจากนี้ก่อนรับประทานยาคุมกำเนิดก็ควรมั่นใจก่อนว่าไม่มีการตั้งครรภ์ คือ
- ได้ตรวจการตั้งครรภ์อย่างถูกต้องแล้วไม่พบการตั้งครรภ์ หรือ
- มีประจำเดือนมาแล้ว
ในกรณีที่ต้องการรับประทานยาคุมกำเนิดเพื่อหวังผลในการป้องกันการตั้งครรภ์ร่วมด้วย ก็แนะนำให้เริ่มรับประทานภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือนเพื่อให้ยาคุมสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ทันทีตั้งแต่วันแรกที่รับประทานยา หรือถ้าหากเริ่มรับประทานยาช้ากว่า 5 วันแรกของการมีประจำเดือนก็จะต้องรับประทานยาต่อเนื่องกัน 7 วันก่อนยาคุมจึงจะเริ่มป้องกันการตั้งครรภ์ได้ โดยในช่วง 7 วันแนกของการรับประทานยาจะต้องงดการมีเพศสัมพันธ์หรือใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยไปก่อนครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ประจำเดือนขาด เป็นครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่16กันยายน จนปัจจุบันนี้ประจำเดือนยังไม่มาเลยคะ ตรวจไป2รอบแล้วขึ้นขีดเดียวคะ อยากทราบว่าทำไมประจำเดือนยังไม่มาคะ มีวิธีทำให้ประจำเดือนมาสม่ำเสมอไหมคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)