คุณหมอค่ะ อยากทราบถามหน่อยค่ะ พอดีประจำเดือนไม่มาประมาณ3เดือนแล้วค่ะ ซื้อที่ตรวจครรภ์มาแล้วตรวจไป5รอบขึ้นขีดเดียวค่ะ ก่อนนี้กินยาคุมฉุกเฉินประจำเดือนมาปกติค่ะ ระยะเวลาเกือบ3เดือน มีน้ำหนักขึ้นมาเกือบ3-4โล เวลานอนไม่เป็นเวลา เคลียดด้วยค่ะ ตอนนี้มีอาการปวดท้องน้อยนิดหน่อย ปัสสาวะขัดๆค่ะ เวลาปัสสาวะมีอาการแสบๆค่ะ ต้องทำอย่างใงดีค่ะ มียาแนะนำมั้ยค่ะ หรือจะแนะนำแนวทางให้แก้ปัญหาก็ได้ค่ะ

สวัสดีครับ
อาการขาดประจำเดือนอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุครับ เช่น
- มีระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ
- ไม่มีการตกไข่
- ภาวะมีถุงน้ำหลายใบในรังไข่ (PCOS)
- ไทรอยด์เป็นพิษ
- การออกกำลังกายอย่างหักโหม
- น้ำหนักตัวที่มากเกินไป
- ผลข้างเคียงของยาบางชนิด

ส่วนอาการปัสสาวะแสบขัดก็อาจเกิดจากการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะได้ครับ

ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรไปพบแพทย์นรีเวชเพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดก่อนเพื่อที่จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมครับ

1.เรื่องประจำเดือน
ปกติประจำเดือนจะมาช้าได้ไม่เกิน 7 วัน การที่ประจำเดือนมาไม่ตรงรอบหรือขาด อาจเกิดได้จาก
- ความเครียด ทำให้ระดับฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง
- โรคถุงน้ำรังไข่อาการคือ ประจำเดือนมักมาไม่สม่ำเสมอร่วมกับพบลักษณะของฮอรโมนเพศชาย(มีสิว มีขนเยอะ)
- เยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่(ช็อคโกเเลตซีสต์) อาการคือ ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ เจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ เป็นต้นครับ
- การที่อายุเริ่มเยอะ เช่น 40-45 ปี จะเข้าสู่ช่วงก่อนวัยทอง ประจำเดือนก็มาไม่สม่ำเสมอได้ครับ
- ความผิดปกติของต่อมใต้สมองซึ่งมีหน้าที่หลั่งฮอร์โมนมากระตุ้นรังไข่ก็ทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติได้ครับ หากประจำเดือนขาดนานๆร่วมกับบีบหัวนมเเล้วมีน้ำนมไหล

หากเดิมประจำเดือนมาปกติ เเล้วประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ โดยที่ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์เเบบสอดใส่ หรือตรวจเเล้วไม่ท้อง (ปกติประจำเดือนขาดก็ตรวจได้เเล้วครับว่าท้องหรือไม่) ควรไปพบสูตินรีเเพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุครับ

2.ถ้ามีอาการ ปัสสาวะเเสบขัด ปวดท้องน้อย
น่าจะเกิดจากติดเชื้อทางเดินปัสสาวะได้ครับ โดยเฉพาะถ้าไม่ค่อยได้ล้างทำความสะอาดหรือมีประวัติกลั้นฉี่บ่อยๆ
เเนะนำพบเเพทย์ ตรวจปัสสาวะดูครับถ้ามีลักษณะของการติดเชื้อ ต้องกินยาฆ่าเชื้อครับเช่น Ciprofloxacin
เบื้องต้นดื่มน้ำให้เพียงพอ วันละ 6-8 เเก้ว งดกลั้นปัสสาวะครับ
แต่ถ้ามีไข้สูงหนาวสั่น ร่วมด้วย ควรพบเเพทย์ทันที เพราะการติดเชื้ออาจลุกลามไปกรวยไตครับ

ในแง่ของการตรวจครรภ์นั้นหากเป็นการทดสอบหลังมีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดเกิน 14 วันแล้วค่อนข้างจะเชื่อถือได้ว่าไม่ได้ตั้งครรภ์ค่ะ

สำหรับเรื่องของประจำเดือนมาไม่ปกตินั้นก็สามารถเป็นได้ตั้งแต่ผลจากยาคุมฉุกเฉินแต่มักเป็นในช่วงแรกๆเท่านั้น หรือเรื่องของน้ำหนักตัว ความเครียดก็เป็นเหตุได้เช่นกัน รวมทั้งเหตุอื่นๆเช่น ถุงน้ำในรังไข่หลายใบ ฮอร์โมนแปรปรวน เป็นต้น ซึ่งงควรจะทำการตรวจประเมินกับสูตินรีแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัดต่อไปค่ะ

ถ้าหากที่ผ่านมาได้ตรวจการตั้งครรภ์ห่างขากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายไปอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจแล้ว ก็มั่นใจได้แล้วว่าไม่มีการตั้งครรภ์ครับ