September 24, 2018 15:48
ตอบโดย
สุพิชชา แสงทองพราว (พญ.)
อาการหน้ามืด เกิดได้จากหลายสาเหตุมากค่ะ ควรต้องมีการตรวจร่างกายและตรวจทางห้องปฏิบัติการ เพื่อช่วยในการวินิจฉัยโรค ได้แก่
1. ความผิดปกติของหัวใจ ที่ทำให้การสูบฉีดเลือดผิดปกติไป และอาจมีผลกระทบต่อความดันโลหิต เช่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดจากเส้นเลือดหัวใจตีบ โรคลิ้นหัวใจรั่ว เป็นต้น
2. โรคโลหิตจาง หรือโรคซีด จากสาเหตุต่างๆ เช่นการเสียเลือดจากประจำเดือนที่มามากผิดปกติ หรือการถ่ายดำ มีแผลเลือดออกในกระเพาะอาหาร โลหิตจางแต่กำเนิด เช่นโรคธาลัสซีเมีย เป็นต้น ซึ่งทำให้เกิดการขาดธาตุเหล็ก หรือมีเม็ดเลือดแดงผิดปกติไป ไม่สามารถสร้างเม็ดเลือดแดงที่สมบูรณ์พอขนส่งออกซิเจนให้กับร่างกายได้เพียงพอ จึงทำให้เกิดอาการหน้ามืด
3. โรคทางเมตาบอลิกต่างๆ เช่น เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง ก็ทำให้เกิดอาการได้เช่นกัน หากไม่เคยตรวจแนะนำว่าควรตรวจสุขภาพประจำปีร่วมด้วย
4. โรคเครียดวิตกกังวล ก็ทำให้มีอาการได้เช่นเดียวกัน
5. การพักผ่อนไม่เพียงพอ อดนอน
6. การเสียเหงื่อและน้ำในร่างกายมากเกินไป เช่นออกกำลังกายอย่างหนัก ท้องเสีย อากาศร้อน
7. การตั้งครรภ์ ในช่วงเดือนแรกของการตั้งครรภ์ จะทำให้มีอาการเหล่านี้ได้ เช่น หน้ามืด เวียนศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน เหม็นเบื่ออาหาร เป็นต้น หากมีความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ หรือประจำเดือนขาด ควรตรวจทดสอบการตั้งครรภ์ร่วมด้วยค่ะ
แนะนำว่าควรไปตรวจกับแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่ถูกต้องและรักษาต่อไปค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
คือเม็ดเลือดขาวมากกว่าเป็นเลือดแดงอยู่แล้วค่ะต้องทานอะไรหรือไม่ควรทานอะไรบ้างค่ะ
ส่วนเดือนนี้ประจำเดือนนุงไม่มาค่ะประจำเดือนมาเมื่อต้นเดือนและกลางเดือนมา2ครั้งค่ะเกิดจากอะไรค่ะ แล้วตะเป็นอะไรไหมค่ะ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ตอบโดย
พิศุทธิกาญจญ์ รังคกูลนุวัฒน์ (พญ.)
โดยปกติ รอบเดือนของเรา จะคลาดเคลื่อนอยู่ระหว่าง 21-35 วัน (บวกลบเจ็ดวันจากรอบก่อนๆ ) อยู่แล้วค่ะ ถ้ายังอยู่ในช่วงนี้ ก็ยังถือว่าปกติค่ะ แต่ถ้ามีความเครียด วิตกกังวล ซึ่งเกิดขึ้นได้ในคนทั่วไป ก็อาจทำให้คลาดเคลื่อนไปได้อีกค่ะ
-ถ้าคนไข้มีความเสี่ยงเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ เช่น การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน ก็อาจตั้งครรภ์ได้ เบื้องต้นแนะนำว่า ให้ตรวจการตั้งครรภ์ก่อนนะคะ โดยการตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะด้วยตนเอง สามารถตรวจได้ตั้งแต่ 14 วันหลังมีเพศสัมพันธ์ค่ะ
-ถ้าคนไข้ไม่มีความเสี่ยงเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ เลยหรือตรวจการตั้งครรภ์แล้วไม่พบการตั้งครรภ์ปัจจัยที่จะทำให้ประจำเดือนที่เคยมา แล้วไม่มา หรือผิดปกติ มีหลายอย่างค่ะ ตัวอย่าง เช่น
1.ความเครียด การอดอาหารนานๆ และการออกกำลังกายอยางหักโหมมากเกินไป ทำให้ประจำเดือนขาดได้ค่ะ พบได้บ่อยที่สุด
2.การใช้ยาฮอร์โมนต่างๆ เช่น ยาคุมกำเนิด แบบฉีด หรือยาบางอย่าง เช่น ยารักษาโรคทางจิตเวช
3.โรคทางระบบสืบพันธ์บางชนิด เช่น ถุงน้ำรังไข่ ( PCOS) อาจทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติได้
4.ฮอร์โมน ไทรอยด์ผิดปกติ ซึ่งจะต้องทีอาการอื่นๆร่วมด้วย เช่น ใจสั่น กินจุ น้ำหนักลด หรือ ฮอร์โมนจากรังไข่ผิดปกติ อาจทำให้ไม่เกิดการตกไข่ ทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ ไม่มา หรือมาแบบกระปริบกระปรอย เป็นต้นค่ะ
5. โรคทางการกินที่ผิดปกติ (anorexia) ซึ่งเป็นโรคทางจิตเวชอย่างหนึ่ง หากอดอาหาร หรือทานอาหารไม่ถูกวิธีนานๆ จะทำให้ขาดประจำเดือนได้ค่ะ
ถ้าคนไข้มีอาการต่างๆที่ผิดปกติดังที่กล่าวไป แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายหรือตรวจภายในเพิ่มเติมนะคะ
หากประจำเดือนมาล่าช้ากว่าปกติ และไม่ได้เป็นมาติดต่อกันนานเกิน 3 ครั้ง ก็ให้รอดูอาการก่อนได้ค่ะ หากเกิน 3 เดือนประจำเดือนไม่มา แนะนำให้ไปตรวจร่างกาย และตรวจภายในเพิ่มเติมนะคะ
อนึ่ง การทำใจให้สบาย พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ระมัดระวังเรื่องการใช้ยาหรืออาหารเสริมที่แพทย์ไม่ได้สั่ง และออกกำลังกาย จะช่วยให้สมดุลฮอร์โมนดีและทำให้ประจำเดือนมาสม่ำเสมอค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
แล้วกาีมีเพศสัมแบบเราใส่กางเกงในไว้อยู่แล้วแฟนไม่ได้ใส่จะเป็นอะไรไหมค่ะแบ้วจะพลาดไหมค่ะ
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
พิศุทธิกาญจญ์ รังคกูลนุวัฒน์ (พญ.)
เราจะตั้งครรภ์ตามธรรมชาติได้เมื่อมีเพศสัมพันธ์โดยมีการสอดใส่อวัยวะเพศชายและหลั่งน้ำอสุจิในช่องคลอดเท่านั้นค่ะ ถ้าไม่ได้มีการสอดใส่เลย หริอมีเครื่องนุ่งห่ม หรือ การหลั่งน้ำอสุจิบริเวณอื่นๆที่ไม่ใช่ช่องคลอด หรือแค่โดนบริเวณปากช่องคลอด หรือด้านนอกอวัยวะเพศอื่นๆ**รวมถึงการสัมผัสอสุจิแล้วมาสัมผัสข่องคลอด โอกาสที่อสุจิจะเข้าไปผสมกับไข่ ทำให้เกิดการตั้งครรภ์แทบจะเป็นไปไม่ได้ค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
อสุจิจะหรั่งออกมาตอนไหนค่ะ
ตอบโดย
พิศุทธิกาญจญ์ รังคกูลนุวัฒน์ (พญ.)
อสุจิ มักจะหลั่งออกมาปริมาณมากที่สุดตอนผู้ชายถึงจุดสุดยอด (orgasm) ค่ะ แต่ระหว่างมีเพศสัมพันธฺ และมีการหลั่งน้ำหล่อลื่น ก็จะมีตัวอาุจิ ปนออกมาได้บ้างเหมือนกันค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
เกี่ยวไหมค่ะการที่เราอยู่กับหน้าจอโทรศัพทั้งวันอาจทำให้เราปวดหัวบ่อยๆใช่ไหมค่ะ
เป็นเลือดจางห้ามทานอะไรบ้างค่ะและควรทานอะไร
ตอบโดย
พิศุทธิกาญจญ์ รังคกูลนุวัฒน์ (พญ.)
การอยู่หน้าจอโทรศัพท์ทั้งวัน หรือตลอดเวลา ทำให้สายตาเมื่อยล้าและปวดหัวได้ค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
พิศุทธิกาญจญ์ รังคกูลนุวัฒน์ (พญ.)
สาเหตุของภาวะเลือดจางแบ่งได้ 3 ประเภทค่ะ ได้แก่
-สาเหตุเรื่องการสร้างเม็ดเลือดได้น้อย ได้แก่ ปัญหา ที่ไขกระดูก การขาดธาตุเหล็ด การขาดกรดโฟลิค การขาดวิตามินบี 12 โรคไตเรื้อรัง และโรคธาลัสซีเมียก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่ถ้าเป็นพาหะ อาการเลือดจางอาจจะไม่มากค่ะเป็นต้น
ดังนั้น ถ้าจะแนะนำอาหาร อาจต้องทราบก่อนว่าคนไข้ซีดจากสาเหตุอะไร จะดีที่สุดค่ะ
-สาเหตุของการทำลายเม็ดเลือด เช่น การติดเชื้อ เม็ดเลือดแดงแตกตัวจากสาเหตุต่างๆ เช่น การได้รับยาบางชนิด การติดเชื้อยาวชนิด
-สุดท้าย คือ การเสียเลือด เช่น ประจำเดือนมามาก การถ่ายเป็นเลือด (stool occult blood) เป็นต้น
ดังนั้น หากผู้ใหญ่มีภาวะซีดจากการตรวจคัดกรอง จะต้องส่วตรวจต่างๆเพิ่ทเติม เช่น การตรวจเลือดเกี่ยวกับธาตุเหล็ก การส่งอุจจาระตรวจ เป็นต้นค่ะ
หากมีอาการหน้ามืด ใจสั่น เป็นลมบ่อย เหนื่อยง่าย น้ำหนักลดผิดปกติ ยิ่งเป็นภา
วะที่ต้องค้นหาสาเหตุต่างๆที่อาจทำให้เกิดอาการซีดร่วมกับอาการเหล่านี้ค่ะ จึงจะรักษาและเพิ่มค่าความเข้มข้นเลือดได้ตามสาเหตุ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
เดือนนี้.ปจดมาแค่2วันเองค่ะแต่เดือนที่สิงหามา2ครั้งมาวันที่1-3รอแรกรอบที่2มาประมาณ20กว่าๆ.และเดือนกันยามาแค่2วันเองค่ะวันที่29-30.จะเป็นอะไรไหมค่ะ
มีอาการปวดหัวและเหมือนจะอวกแต่ไม่คลื่นไส้นะค่ะและก็หน้ามืดบ่อยค่ะเป็นบ่อยเกิดจากอะไรค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)