สวัสดีค่ะคุณหมอที่น่ารักทุกท่าน ดิฉันอายุ 27 ปี มีอาการปวดท้องข้างซ้ายล่าง บางครั้งปวดมากร้าวไปถึงหน้าขา ปวดมาประมาณปีกว่า ปวดบิดๆ ปวดจี๊ดๆ แล้วแต่ครั้งค่ะ บางครั้งปวดก็ทานยาพาราอาการก็ดีขึ้น ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมานี้ปวดบ่อยขึ้นหรือแทบจะทุกวัน แต่ปวดสักพักอาการก็จะหายไปเองและเป็นรู้สึกหน่วงๆแทน มีตกขาว/มีกลิ่น ทั้งที่ไม่เคยมี และตั้งแต่จำความได้ท้องผูกมาตลอดเลยค่ะบางทีเป็นอาทิตย์ถึงถ่าย ต้องใช้ที่สวนออก หรือทานดีท็อก ไม่งั้นจะไม่ถ่ายเองเลยค่ะ เวลาถ่ายก็รู้สึกว่าออกมาไม่หมดอึดอัด และในบางครั้งก็มีเลือดบนออกมาแดงสดหรือแดงคล่ำบ้างค่ะ ;)

อาการปวดบริเวณท้อง เกิดได้จากหลายสาเหตุค่ะ ถ้าเป็นบริเวณท้องน้อย จะเกิดได้จาก 1. ลำไส้ใหญ่ 2. กระเพาะปัสสาวะ และ ระบบสืบพันธุ์ 3. ปวดกล้ามเนื้อ หน้าท้อง การจะแยกว่า เกิดจากอะไรนั้น ต้องดูจากลักษณะที่ปวดค่ะ เช่น ถ้าปวดเป็นพักๆ ปวดมาก สลับ ปวดน้อย หายปวด ไม่กี่นาที กลีบมาปวดใหม่ ลักษณะแบบนี้ เหมือนอาการของลำไส้ มักมีการขับถ่ายผิดปกติร่วมด้วย ถ้าปวด ร่วมกับ ปัสสาวะผิดปกติ เช่น แสบขัด มักเกิดจากทางเดินปัสสาวะ ถ้าปวด และปวดมากขึ้น เวลาขยับ มักเป็นอาการปวด ของกล้ามเนื้อค่ะ ปวดท้องน้อยเรื้อรัง ในผู้หญิง พบได้บ่อยค่ะ ส่วนใหญ่ หาสาเหตุที่ชัดเจนไม่ได้ แต่สาเหตุที่พบบ่อยคือ เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (endometriosis) ที่ทำให้มีอาการปวดท้องน้อยเรื้อรัง ปวดประจำเดือน เจ็บลึกๆ เวลามีเพศสัมพันธ์ ได้ บางคนมีอาการปวดเวลาปัสสาวะ อุจจาระ ช่วงที่มีประจำเดือนเดือนได้ค่ะ การวินิจฉัย คือ วินิจฉัยจากประวัติ ตรวจภายใน และอัลตราซาวด์ การรักษา ก็มีตั้งแต่ การรักษาด้วยยา ไปจนถึง การผ่าตัด ขึ้นอยู่กับรายละเอียดของคนไข้ และ โรค แนะนำ พบแพทย์ เพื่อตรวจภายใน และ อัลตราซาวด์นะคะ เพื่อตัดสาเหตุที่อาจมีอันตราย เช่น ก้อน หรือ ถุงน้ำรังไข่ ถ้าตรวจแล้วปกติดี จะได้สบายใจ การรักษา ก็ใช้ยา รักษาตามอาการเอาค่ะ