July 08, 2019 07:00
ตอบโดย
สารินทร์ สีหมากสุก (นพ.)
สำหรับโรคหมอนรองกระดูกเคลื่อน หรือ Herniated nucleus pulposus (HNP)
วิธีการรักษาหมอนรองกระดูกเคลื่อน ผู้ป่วยส่วนมาก ประมาณ 90% จะสามารถดีขึ้นได้โดยไม่จำเป็นต้องผ่าตัด ซึ่งวิธ๊การรักษาโดยการไม่ผ่าตัดได้แก่
1.ให้นอนพักช่วงที่มีอาการปวดรุนแรง เมื่ออาการปวดดีขึ้นควรให้เริ่มออกแรงบ้าง เพื่อป้องกันการฝ่อลงของกล้ามเนื้อมัดต่างๆ รวมถึงกล้ามเนื้อต่างๆที่ช่วยพยุงกระดูกสันหลัง แต่ไม่ควรให้ยกของหนักหรือออกกำลังกายอย่างหักโหม โดยเฉพาะท่าก้ม เพราะจะทำให้หมอนรองกระดูกเคลื่อนมากขึน้ครับ
2.ให้ยาคลายกล้ามเนื้อ
3.ให้ยาแก้ปวดต่างๆ เช่น Paracetamol, NASIDs และยากลุ่ม opioid
4.การฉีดยาสเตียรอยด์
5.การกายภาพบำบัด (สามารถปรึกษาขอคำแนะนำได้ที่แผนกกายภาพบำบัด)
ในกรณีที่รักษาแล้วไม่ดีขึ้น แพทย์อาจพิจารณาการรักษาด้วยวิธีการผ่าตัดครับ โดยมีข้อบ่งชี้ในการผ่าตัดดังนี้
1.ผู้ป่วยมีอาการปวดรุนแรงมาก ซึ่งรักษาด้วยวิธีการไม่ผ่าตัดแล้วยังไม่ดีขึ้น
2.มีอาการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อ
3.มีอาการ Cauda equina syndrome หมายถึงรากประสาทระดับเอวและกระเบนเหน็บได้รับบาดเจ็บ ทำให้กล้ามเนื้อขา กล้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะ หูรูดและลำไส้ใหญ่อ่อนแรงหรือเป็นอัมพาตชนิดอ่อนปวกเปียก รีเฟล็กซ์ลดลงหรือหายไป ซึ่งกรณนี้ต้องได้รับการผ่าตัดอย่างเร่งด่วน ภายใน 24 ชั่วโมง
4.รักษาโดยการไม่ผ่าตัดแล้ว 4 สัปดาห์ แต่ยังมีอาการปวดซึ่งรบกวนชีวิตประจำวันมาก
อย่างไรก็ตามวิธีการรักษาต่างๆ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เจ้าของไข้จะดีที่สุดนะครับ เพราะแพทย์เจ้าของไข้จะมีข้อมูลต่างๆของผู้ป่วย ซึ่งผู้ป่วยแต่ละคนอาจมีข้อจำกัดบางอย่าง จึงทำให้การรักษาแต่ละคนไม่เหมือนกันครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
สวัสดีค่ะ รบกวนสอบถามค่ะ. คุณแม่อายุ 83 ปี มีอาการปวดเอว ลงมาถึงขา เดินไม่ค่อยได้ ขาชา เคยไปตรวจมาแล้ว ว่าเป็น หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท 2 จุด อยากสอบถามว่า สามารถผ่าตัดได้ไหมค่ะ ถ้าได้ผ่าแบบไหนค่ะ และถ้าไม่ได้ ควรทำยังไงค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)