April 10, 2020 00:47
ตอบโดย
วชิรวิทย์ สุทธิศักดิ์ (แพทย์ทั่วไป) (นพ.)
1.ถ้ากินมานานๆเป็นปีๆหลายๆเเผงก็เป็นได้ครับ เนื่องจาก ต่อมใต้สมองที่ทำหน้าที่หลั่งฮอร์โมนให้ตกไข่โดนฤทธิ์ยากดมานาน ต้องรอให้กลับมาทำงาน เข้าสู่สมดุลย์รอบเดือนเดิมอีกครั้ง โดยทั่วไปไม่เกิน6เดือนครับ
เเต่ถ้าเพิ่งกินมาไม่กี่เเผงก็ไม่น่าครับ เป็นสาเหตุอื่นมากกว่า เช่น การตั้งครรภ์ หรือความผิดปกติของรังไข่ ที่ทำให้ประจำเดือนไม่มา
ซึ่งในกรณีคนไข้ เเนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์เพื่อเเยกภาวะตั้งครรภ์ออกไปก่อน ถ้าไม่ท้อง ก็เว้นสักสัปดาห์ค่อยตรวจซ้ำ ถ้าตรวจเเล้วไม่ท้องจริงๆ เเต่ประจำเดือนยังไม่มาเป็นเดือนๆ ให้พบสูตินรีเเพทย์ตรวจหาสาเหตุครับ
2.อาการกรดไหลย้อน ถ้าไม่ได้ท้องจนท้องโตเเล้ว ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับการตั้งครรภ์ครับ(ถ้าท้องเเก่ๆ สัปดาห์ท้ายๆ มดลูกโตๆ จะไปเบียดกระเพาะได้ ทำให้กรดไหลย้อนกำเริบ)
3. ภาวะกรดไหลย้อนมีสาเหตุจาก หูรูดบริเวณกระเพาะอาหารไม่ดีครับ
อาการคือ จุกแน่นลิ้นปี่ เรอเปรี้ยว เเสบร้อนหน้าอก เป็นมากเวลากินเสร็จเเล้วนอนทันที ถ้าอาการประมาณนี้น่าจะใช่ครับ เบื้องต้นปรึกษาเภสัชกรเรื่องยาลดกรด ยาเคลือบกระเพาะ เช่น Omeprazole Gaviscon Gasmotin Gastrobismol เป็นต้นครับ ถ้าไม่ดีขึ้น ให้พบเเพทย์ครับ
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการดำเนินชีวิต ที่สามารถทำให้โรคกรดไหลย้อนดีขึ้นได้
- การนอนยกหัวให้สูงขึ้น ประมาณ 6-8 นิ้ว หรือ 15 เซนติเมตร ประมาณหมอน1-2ใบครับ จะช่วยบรรเทาอาการได้โดยเฉพาะคนที่มีอาการมากในเวลากลางคืน
- การนอนตะแคงด้านซ้าย จะเกิดอาการได้น้อยกว่านอนหงายหรือนอนตะแคงขวาครับ
- หลีกเลี่ยงการนอนหลังรับประทานอาหารทันที ควรเว้นเวลาหลังมื้ออาหารประมาณ 3 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารมื้อใหญ่ ให้ทานอาหารทีละน้อย ๆ แต่เพิ่มจำนวนมื้อได้
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่กระตุ้นให้เกิดอาการได้ เช่น อาหารที่มีไขมันสูง อาหารรสจัด ชา กาแฟ chocolate มะเขือเทศ หัวหอม กระเทียม มินต์
- งดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์และงดสูบบุหรี่
- ลดน้ำหนัก
- หลีกเลี่ยงการสวมใส่เสื้อผ้า กางเกงที่รัดแน่นเกินไปครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ทานยาคุมมาปีครึ่งแล้วค่ะ ต้องตรวจครรภ์เมื่อไหร่หรอคะ
ทานยาคุมมาปีครึ่งแล้วค่ะ แล้วควรจะตรวจครรภ์วันไหนหรอคะ
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
นิชดา พงษ์ธัญญกรณ์ (แพทย์ทั่วไป) (พญ.)
ถ้าทานยาคุมมาเพียงครึ่งปีเมื่อหยุดยาคุมไปแล้วมีเพศสัมพันธ์จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้สูงค่ะ เพราะไข่มักจะกลับมาตกตามปกติหลังหยุดไป กรณีนี้หมอแนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์ดูค่ะ โดยสามารถตรวจได้เมื่อมีเพศสัมพันธ์ผ่านมาแล้ว 14 วันและให้ตรวจในตอนเช้าจะได้ผลที่น่าเชื่อถือมากที่สุด ส่วนสาเหตุอื่นๆที่ทำให้ประจำเดือนขาดได้ เช่น ฮอร์โมนแปรปรวน ความเครียด ออกกำลังหักโหม ภาวะ PCOS เนื้องอก เป็นต้นค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทานมา 1 ปีครึ่ง เกือบๆ 2 ปีแล้วค่ะ จะมีผลอะไรไหมคะ
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ทานมา 1 ปีครึ่ง เกือบๆ 2 ปีแล้วค่ะ จะมีผลอะไรไหมคะ
เพิ่งหยุดทานยาคุมไปค่ะ ปกติทานยี่ห้อ yaz หยุดทานไปเมื่อวันที่13 มีนาค่ะ จนตอนนี้ประจำเดือนยังไม่มาเลยค่ะ มีเพศสัมพันธ์กับแฟนไปเมื่อวันที่ 3 เมษาค่ะ ใช้ถุงยางอนามัยและตรวจสอบดูแล้วว่าไม่รั่วค่ะ แล้วตอนนี้มีอาการแสบร้อนกลางหน้าอกเหมือนเป็นกรดไหลย้อนร่วมด้วยค่ะ อยากทราบว่าที่ประจำเดือนไม่มาเป็นผลจากการหยุดทานยาคุม หรือมีสิทธิ์ตั้งครรภ์ไหมคะ ควรจะตรวจครรภ์ไหมคะ แล้วอาการกรดไหลย้อนอาจเกิดจากการตั้งครรภ์ไหมคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)