สวัสดีครับ คุณหมอ ผมอายุ 21 ปี เพศชายครับ ตอนนี้ ผมมีอาการเจ็บคอเหมือนคอแห้งตลอดเวลาและมีอะไรติดคอ เสลดไม่ค่อยมีครับ แต่เวลาคากเสลดเหมือนจะเป็นสีเหลืองๆอยู่ครับ แล้วก็มีอาการปวดหน้าอกบริเวณด้านขวาและกลางหน้าอก มีอาการเรอร่วมด้วยเป็นเรอเปรี้ยวๆขมๆ แน่นท้องของเมื่อวันที่ 13 พ.ย. 2561 และเริ่มมีอาการตั้งแต่เมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 พ.ย. 2561 ผมตื่นมามีอาการเจ็บคออย่างมากจึงลองคากเสลดออกจากคอ ปรากฏว่า มีเสมหะสีเหลือง จึงได้ลองคากเสลดอีกรอบจึงเปลี่ยนเป็นสีแดงเหมือนมีเลือดผสมอยู่ จึงได้ไปพบคุณหมอที่คลินิกใกล้เคียงหอพัก คุณหมอให้ยาขับเสมหะ และยาแก้แพ้มาครับ ซึ่งก่อนหน้าวันที่มีอาการผมได้ไปรับประทานหมูกระทะมาครับ นี่อาจจะเป็นสาเหตุอย่างนึงรึปล่าวครับ ? คือ ผมกลัวเป็นมะเร็งหลอดอาหารอะครับ เพราะว่าผมทานหมูกระทะค่อนข้างบ่อย แต่ผมไม่ค่อยมีอาการไอครับ แล้วก็ผมเคยเป็นกรดไหลย้อนเมื่อช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมาครับ โดยเริ่มแรกผมมีอาการไอและปวดหน้าด้านขวาต้นเดือน แล้วก็ลองไปหาคุณหมอที่รพ.สิรินธรครับ เพราะวันนั้นเหมือนผมจะเป็นไข้แล้วก็มีเสลดปนเลือดครับ คุณหมอให้แสกนปอด ปอดปกติดีครับ จึงได้ยาแก้ไข้และลดอักเสบมาทานรอหมอนัดในวันถัดไป พอวันที่หมอนัด คุณหมอให้ยาในเรื่องของกรดไหลย้อนครับแล้วก็อาการก็หายไปครับ ซึ่งผมสงสัยว่าอาการดังกล่าวข้างต้นที่เกิดมานั้นจะเป็นอาการของกรดไหลย้อน หรือ มะเร็งหลอดอาหารรึปล่าวครับ ? จากอาการที่เกิดขึ้นณปัจจุบัน

สวัสดีค่ะ อาการจุกแน่นในลำคอ เรอบ่อย เรอเปรี้ยว เป็นอาการแสดงที่พบได้บ่อยของโรคกรดไหลย้อน อาการของกรดไหลย้อน ที่พบร่วมได้ เช่น อาการจุกแสบกลางอก แน่นกลางหน้าอก และแสบร้อนยอดอก เจ็บคอ รู้สึกจุกในลำคอ เรอเปรี้ยว เนื่องจากกรดจากกระเพาะท้นขึ้นมา และเกิดการระคายเคืองในคอหอย ทำให้รู้สึกเจ็บคอ จุกในคอได้ ได้ อาจมีเสียงแหบ มีเสมหะ ความรุนแรงของอาการ จะขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการรับประทานอาหารด้วยค่ะ แนะนำปรับพฤติกรรมและลดปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่กระตุ้นให้อาการกำเริบ ได้แก่ - งดเครื่องดื่มมีคาเฟอีน ชา กาแฟ น้ำอัดลม เคื่องดื่มแอลกอฮอล์ - ทานอาหารให้ตรงเวลา เคี้ยวอาหารให้ละเอียดก่อนกลืน - ไม่ควรนอนหรือเอนตัวหลังรับประทานอาหารอิ่มใหม่ๆ เนื่องจาก อาหารจะยังอยู่ในกระเพาะก่อนจะลงไปที่ลำไส้ ประมาณ 3-4 ชั่วโมง หากทานเสร็จแล้วนอน จะทำให้อาหารรวมทั้งกรด ท้นขึ้นมาที่หลอดอาหาร จึงทำให้เกิดอาการของโรคกรดไหลย้อนขึ้น - งดอาหารที่มีรสเผ็ดจัด เปรี้ยวจัด ทานอาหารย่อยง่ายเช่น ปลา ไก่ ทานผักเป็นประจำ - งดทานมื้อดึก และไม่ทานจนอิ่มมากเกินไป - ความเครียดมีผลทำให้กรดในกระเพาะหลั่งออกมามากขึ้น จึงมีอาการแสบท้องได้ค่ะ - หากมีภาวะอ้วน ควรลดน้ำหนัก เนื่องจากโรคอ้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงของกรดไหลย้อนค่ะ - ควรออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อช่วยปรับสมดุลของระบบย่อยอาหาร หากอาการเป็นมาก แนะนำให้ไปพบแพทย์ค่ะ สามารถใช้ยากลุ่มลดกรดในกระเพาะเช่น มิราซิด(Miracid) ยาช่วยย่อย ยาขับลมแก้ท้องอืด(Air-x) ยาแก้คลื่นไส้อาเจียน หากมีอาการ เพื่อช่วยบรรเทาอาการก่อนได้ค่ะ โดยทั่วไปแล้วการรักษากรดไหลย้อน ด้วยยารับประทาน ควบคู่กับการปรับพฤติกรรม อาการจะหายได้ประมาณ 2 สัปดาห์ค่ะ กรณีมีอาการอื่นร่วมด้วยเช่น จุกในคอร่วมกับอาการกลืนติด กลืนลำบาก กลืนอาหารกลืนน้ำลำบาก ซึ่งเป็นสัญญาณเริ่มต้นของการมีความผิดปกติ หรือเมีก้อนเนื้อขึ้นผิดปกติของหลอดอาหาร หากมีอาการเช่นนี้แนะนำให้ไปพบแพทย์ค่ะ อาจจะต้องตรวจดูความผิดปกติของหลอดอาหาร และบริเวณคอหอยร่วมด้วยค่ะ แต่โดยทางสถิติแล้ว โรคมะเร็งหลอดอาหารพบได้น้อยมากในคนอายุน้อยค่ะ ปัจจัยเสี่ยงที่มักพบร่วมมด้วย เช่นการสูบบุรี่ ผู้สูงอายุ เป็นต้น