May 01, 2019 11:58

เพศชาย อายุ 28 ปี สูง 170 ซม. น้ำหนัก 57 กก. อาการแรกเริ่มสุดคือ คอแห้ง เจ็บคอ แล้วก็ปวดท้องมากแต่ต่อมาก็หายไปเอง แล้วต่อมาประมาณ 1 เดือนกว่าก็มีอาการปวดหัว ซึ่งปวดทางซ้ายบ้าง ขวาบ้าง โดยมีอาการปวดหัวร่วมกับมึนหัวมากขึ้นเรื่อยๆ และบ่อยขึ้นในแต่ละวัน แรกๆมีอาการประมาณ 4-5 นาที หลังๆเป็นสิบนาที แล้วผ่านไปซักพักก็เริ่มมีอาการซ่าที่ฝ่าเท้า มีอะไรอุงอุง นูนๆที่ฝ่าเท้า โดยเฉพาะเวลายืนเฉยๆ แล้วต่อมาก็เริ่มมีอาการ ปวดเข่าบ้างหลังเข่าบ้าง แล้วมักจะตื่นนอนมาตอนกลางดึกแล้วมีอาการคันตรงฝ่าเท้า หรือทีเข่าแต่ไม่มีอาการนูนที่เท้า หรือปวดที่เข่าหรือหลังเข่า โดยอาการ ณ วันนี้มีทั้งหมดดังนี้ รู้สึกมีอะไรอยู่ที่ฝาเท้า มีอาการซ่าๆ มีอะไรนูนๆอยู่ที่ฝ่าเท้า บางครั้งมีอาการคันตรงที่ซ่าๆด้วย และมีอาการปวดด้านหน้าเข่าหรือหลังเข่าร่วมด้วยบางครั้งก็รู้สึกมีอะไรมาอุดที่หลังเข่า โดยเวลายืนอยู่เฉยๆจะรู้สึกอุงที่ฝ่าเท้ามากกว่าตอนเดิน และถ้าตอนยืนอ่านหนังสือหรือดูทีวีด้วยจะมีอาการมากขึ้นและจะเริ่มปวดเข่าแล้วก็หลังเข่าด้วย เวลานอนหงายจะรู้สึกมีอะไรอยู่ที่นิ้วมือและมีอาการซ่าๆ แต่ตอนยืนไม่มีอาการซ่าที่นิ้วมือ บางครั้งก็รู้สึกมีอาการปวดข้อศอก บางวันก็คันตำแหน่งที่ปวดตรงข้อศอก มีอาการคอแห้งและเวลากิน ของร้อนหรือของเผ็ดจะมีอาการคันทั้งหน้าและมีเสมหะออกมาเยอะ มีอาการมึนหัวหรือปวดหัวในบางช่วงของแต่ละวัน กินยาเกี่ยวกับวิตามินรวม และยารักษาปลายประสาทมาแล้วแต่ก็ยังเหมือนเดิมครับ ทั้งนี้ได้ถ่ายรูปยาที่กินมาด้วย โดยทั้งนี้ถ้านับจากอาการคอแห้งเป็นมา 2 ปี ส่วนอาการ ณ วันนี้เป็นมา1 ปีกว่าแล้ว ครับ

ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)

ดูคำถามและคำตอบอื่นที่คล้ายกัน
เป็นตะคริวกลางดึกบ่อยครั้ง มีอาการชาบริเวณเท้าถึงสะโพกมักมีอาการปวดร่วมด้วยจากคร้้งละ 5-10 นาที จนปัจจุบันเป็นครั้งล่ะ 40-80 นาที
คำถามนี้ได้การตอบจากแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา)