January 20, 2020 20:03
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
เพื่อให้หมอสามารถให้ข้อมูลได้อย่างถูกต้อง หมอต้องขอทราบข้อมูลตามนี้ก่อนครับ
1. ฉีดยาคุมชนิด 1 เดือนหรือ 3 เดือน
2. ฉีดยาคุมเข็มสุดท้ายวันที่เท่าไหร่
3. มีเพศสัมพันธ์ไปในวันที่เท่าไหร่
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ถ้ายาคุมที่ผู้ถามใช้คือยาคุมชนิดที่ฉีดทุก 3 เดือน ในกรณีที่ไม่ได้ฉีดยาตามนัด หากยังไม่เกิน 15 หรือ 16 สัปดาห์นับจากวันที่ฉีดเข็มก่อน (ระยะเวลาที่แน่นอน ขึ้นกับว่าอ้างอิงจากแนวทางใด) ก็ถือว่ายังมีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องจากยาคุมที่เคยฉีด โอกาสตั้งครรภ์ก็จะเป็น 0.2 - 6% ค่ะ
แต่ถ้าเทียบกับผู้ที่ฉีดยาคุมตรงตามนัดสม่ำเสมอ ผู้ถามอาจมีความเสี่ยงสูงกว่านะคะ ดังนั้น หากต้องการให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการป้องกันการตั้งครรภ์ ต่อไปก็ควรจะฉีดยาคุมตรงตามนัดสม่ำเสมอค่ะ
อย่างไรก็ตาม หากต้องการทราบแน่ชัดว่ามีการตั้งครรภ์หรือไม่ แนะนำให้งดมีเพศสัมพันธ์ไปก่อน แล้วรอตรวจการตั้งครรภ์ด้วยชุดทดสอบทางปัสสาวะ ในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันนะคะ
..
..
..
หรือถ้าผู้ถามต้องการคำแนะนำโดยละเอียด ต้องขอทราบข้อมูลเพิ่มเติมดังนี้ค่ะ
1. ฉีดยาคุมเข็มก่อน ในวันที่เท่าไหร่คะ
2. คุณหมอที่ฉีดยาคุมให้ในวันที่ 11 มกราคม แนะนำว่าจะมีผลคุมกำเนิดได้เลย หรือต้องรอกี่วันหลังฉีดคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ฉีดแบบ3เดือนค่ะ เข็มสุดท้ายเดือน22-26ธันวา ไม่ได้ไปฉีดค่ะ มีเพศสัมพันธ์วันที่8-9มกราคม คุณหมอบอกรออีก7วันค่ะ
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ขอทราบวันที่ฉีดยาคุมเข็มก่อน (ที่ได้ฉีดจริง ก่อนถึงวันนัด 22 - 26 ธันวาคม) ด้วยค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
18-23ก.ย62
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
หมอรบกวนขอทราบวันที่ไปฉีดยาคุมเข็มสุดท้ายก่อนหน้านี้มาก่อนเพื่อให้สามารถให้ข้อมูลได้อย่างถูกต้องครับ
ส่วนวันที่ 22-26 ธันวาคมเข้าใจว่าน่าจะเป็นกำหนดฉีกยาคุมเข็มนี้นะครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
18-23กย.62ค่ะ
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
ถ้าฉีดยาคุมเข็มสุดท้ายไปช่วงวันที่ 18 กันยายน การฉีดยาคุมในวันที่ 11 มกราคมก็จะไม่มีผลป้องกันการตั้งครรภ์ที่ต่อเนื่องแล้วเนื่องจากเกินจาก 16 สัปดาห์หลังฉีดยาคุมไปแล้วครับ และการมีเพศสัมพันธ์ในวันที่ 8-9 มกราคมที่ผ่านมาก็อาจเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ได้ครับ
ในกรณีนี้หมอแนะนำให้งดการมีเพศสัมพันธ์ในช่วงนี้ไปก่อนและให้รอตรวจการตั้งครรภ์ดูเมื่อห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ถ้าหากตรวจแล้วไม่พบการตั้งครรภ์ก็สามารถมีเพศสัมพันธ์ต่อไปตามปกติได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ขอบคุณสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมค่ะ
คาดว่าผู้ถามน่าจะจำวันที่ฉีดยาไม่ได้ และทำบัตรนัดเดิมหายไปแล้วใช่มั้ยคะ จึงให้คำตอบมาเป็น "ช่วงเวลาที่คาดว่าจะฉีดยาคุมเข็มก่อน" แทนที่จะระบุ "วันที่ฉีดยา" จริงมาเลย
ตามข้อมูลที่ให้มา เป็นไปได้ว่าแพทย์ผู้ที่ฉีดยาคุมให้ผู้ถามจะยึดตามแนวทางของ US CDC 2016 ที่ระบุให้ฉีดยาคุมซ้ำทุก 13 สัปดาห์ หรือฉีดช้ากว่ากำหนดไม่เกิน 2 สัปดาห์ (แต่รวมแล้วต้องไม่เกิน 15 สัปดาห์นับจากวันที่ฉีดยาคุมเข็มล่าสุด) ซึ่งในกรณีของผู้ถามเกินกำหนดไปนานแล้ว
หรือต่อให้อ้างอิงตามแนวทางของ WHO 2016 ที่ระบุให้ฉีดยาคุมซ้ำทุก 12 สัปดาห์ หรือฉีดช้ากว่ากำหนดได้ไม่เกิน 4 สัปดาห์ (แต่รวมแล้วต้องไม่เกิน 16 สัปดาห์นับจากวันที่ฉีดยาคุมเข็มล่าสุด) ผู้ถามก็น่าจะฉีดยาคุมไม่ทันกรอบเวลายืดหยุ่นดังกล่าวอยู่ดีนะคะ (เมื่อผู้ถามจำข้อมูลที่แน่ชัดไม่ได้ จึงต้องยึดตามข้อมูลที่มีความเสี่ยงมากกว่า)
แม้ว่ายาคุมชนิดที่ฉีดทุก 3 เดือน อาจต้องใช้เวลานานกว่าที่จะมีไข่ตกและพร้อมตั้งครรภ์ได้หลังหยุดใช้ แต่เมื่อเกินกรอบเวลายืดหยุ่นไปแล้ว ก็ไม่อาจรับรองได้ว่าจะยังมีผลป้องกันจากยาคุมที่เคยฉีดค่ะ ดังนั้น การมีเพศสัมพันธ์ในวันที่ 8 หรือ 9 มกราคม และ 11 มกราคม (ถ้ายึดตามข้อมูลที่ให้ไว้ในหัวข้อกระทู้ที่ว่าฉีดยาคุมแล้วก็มีเพศสัมพันธ์หลั่งในอีก) ก็ต้องถือว่ามีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ได้มากกว่าที่ควรจะเป็นนะคะ
แต่เนื่องจากยาคุมชนิดนี้อาจทำให้ผู้ใช้มีประจำเดือนมาไม่ปกติหรือไม่มีประจำเดือน ดังนั้น การที่ไม่มีประจำเดือนมาจึงระบุแน่ชัดได้ยากว่าเป็นผลข้างเคียงจากยาคุมเอง หรือเป็นเพราะมีการตั้งครรภ์ไปแล้ว
ดังนั้น แนะนำให้งดมีเพศสัมพันธ์ไปก่อน แล้วรอตรวจการตั้งครรภ์ด้วยชุดทดสอบทางปัสสาวะ ในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันนะคะ
ซึ่งถ้าผลตรวจออกมาเป็นไม่ตั้งครรภ์ ก็สามารถมีเพศสัมพันธ์หลั่งในได้ตามปกติค่ะ
แต่ถ้ายังต้องการคุมกำเนิดด้วยวิธีนี้ต่อไป ก็ควรไปฉีดยาคุมตรงตามวันนัดสม่ำเสมอ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการป้องกันการตั้งครรภ์นะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
สวัสดีค่ะคุณหมอ ดิฉันฉีดยาคุมมาแล้ว5ปีฉีดแบบต่อเนื่องเลยไม่ได้หยุด แต่ครบกำหนดฉีดยาวันที่22-26ธันวาคมที่ผ่านมาแต่ไม่ได้ฉีด แต่มีเลือดออกกระปิดกระปอยพอวันที่8-9มีเพศสัมพันธ์แบบหลั่งในประมาณ1ครั้ง แล้วหนูได้ไปฉีดยาคุมในวันที่11ม.ค หลั่งในอีก1ครั้ง เรามีโอกาสท้องไหมค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)