November 07, 2018 11:12
ตอบโดย
พิศุทธิกาญจญ์ รังคกูลนุวัฒน์ (พญ.)
สวัสดีค่ะเบื้องต้น ไม่มีการคุมกำเนิดใดที่ให้ผลร้อยเปอร์เซนต์ค่ะ การรับประทานยาคุมฉุกเฉิน จะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้มาก แต่โอกาสการตั้งครรภ์ยังมีสูงกว่าการคุมกำเนิดที่ถูกต้อง โดยวิธีอื่นๆค่ะ
การหลั่งข้างนอก ( withdrawal ) เป็นวิธีการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพไม่ค่อยดีค่ะ จากสถิติ ถ้าทำได้ถูกต้องเลยโอกาสจะตั้งท้องประมาณ 4% แต่โดยทั่วๆไปหรือตามความจริงแล้ว ขณะที่อวัยวะเพศชายสอดใส่ มักมีสเปิร์มออกมาพร้อมกับร้ำหล่อลื่นบ้างบางส่วนค่ะ ทำให้โอกาสจะตั้งครรภ์ในชีวิตจริงมีสูงถึง 22-27% ค่ะ
>> ดังนั้น การรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินหลังมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้อวกัน หากรับประทานภายใน 24 ชม แรกหลังมีเพศสัมพันธ์ จะเพิ่มประสิทธิภาพการคุมกำเนิดได้ประมาณ 85% -90% (มีโอกาสตั้งครรภ์ประมาณ 10-15%) ดังในกรณีของคนไข้ค่ะ
>> ถ้ากินภายใน 72 ชม ประสิทธิภาพได้ประมาณ 75% ค่ะ และช้าสุดที่ 120 ชม ประสิทธิภาพ ของการป้องกันการตั้งครรภ์ยังพอมีอยู่ แต่ลดลงไปมากค่ะ
>>ถ้าคนไข้ต้องการประสิทธิภาพการคุมกำเนิดมากขึ้น แนะนำให้เปลี่ยนไปคุมกำเนิดโดยใช้ ห่วงอนามัยชนิดเคลือบสารทองแดงก็ได้ค่ะ ประสิทธิภาพจะสูงกว่ายาคุมกำเนิดในช่วง 72-120 ชมค่ะ (สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ตั้งแต่ 0-120 ชมได้ดี และมีประสิทธิภาพประมาณ 99%) ค่ะ
อย่างไรก็ตาม หลังรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน อาจมีผลข้างเคียงค่ะ
ผลข้างเคียงหลังจากรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ได้แก่อาการคลื่นไส้อาเจียน เวียนหัว และหลังจากรับประทานในช่วงสัปดาห์แรก อาจมีเลือดออกกะปริดกะปรอยได้ แต่ไม่ใช่เลือดประจำเดือน แต่เป็นผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉินค่ะ ประจำเดือนของคนไข้ ควรมาตรวรอบตามปกติค่ะ หากพบว่าประจำเดือนไม่มาตามรอบปกติเกิน 1-3 สัปดาห์ให้ทดสอบการตั้งครรภ์ หรือพบแพทย์เพื่อการวินิจฉัยที่ถูกต้องค่ะ
—————————
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
การหลั่งนอก มีโอกาสที่ผู้ปฏิบัติจะควบคุมการหลั่งได้ไม่สมบูรณ์แบบ จึงมีโอกาสผิดพลาดและตั้งครรภ์ได้สูง 22% นะคะ
หากเทียบกับการหลั่งใน ที่มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 85% อาจดูว่าการหลั่งนอกปลอดภัยกว่า แต่ถ้าเทียบกับการใช้ถุงยางที่ถูกต้องและไม่รั่วซึม ที่มีโอกาสตั้งครรภ์เพียง 2% จะเห็นได้ว่าการหลั่งนอกไม่ใช่ทางเลือกที่ดีในการคุมกำเนิดเลยนะคะ
การใช้ยาคุมฉุกเฉิน ไม่ได้มีประสิทธิภาพสูงเหมือนกับวิธีคุมกำเนิดปกติค่ะ ต่อให้รับประทานเร็วและครบขนาด ก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้อย่างน้อย 15%
ดังนั้น แนะนำให้รอดูว่าจะมีประจำเดือนมาตามรอบปกติหรือไม่นะคะ ถ้าไม่มี ควรตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ ในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วัน
และระหว่างที่รอให้ประจำเดือนมา ควรงดมีเพศสัมพันธ์ไปก่อน หรือใช้ถุงยางทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์นะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
สุพิชชา แสงทองพราว (พญ.)
สวัสดีค่ะ ยังไม่มีวิธีการคุมกำเนิดแบบใดที่ป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100เปอเซนต์ค่ะ
การหลั่งนอกไม่ใช่การคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพ ดังนั้น การใช้ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน จะช่วยลดความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ลงได้ ประสิทธิภาพของยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน จะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ประมาณ 85-90% เมื่อรับประทานหลังจากมีเพศสัมพันธ์ภายใน 24 ชั่วโมง ดังนั้น ก็ยังมีโอกาสในการตั้งครรภ์ได้อยู่ค่ะ
ทั้งนี้ การตั้งครรภ์ก็ขึ้นกับปัจจัยอื่นๆอีก เช่น วันตกไข่ วันที่มีเพศสัมพันธ์ของรอบเดือน กรณีที่เป็นคนมีรอบเดือนมาสม่ำเสมอ หากมีเพศสัมพันธ์ช่วงก่อนมีประจำเดือน7 วัน หรือหลังจากประจำเดือนมาวันแรก 7 วัน โอกาสในการตั้งครรภ์ก็จะน้อยลง ปริมาณน้ำอสุจิที่เข้าไปในช่องคลอด เป็นต้นค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
การมีเพศสัมพันธ์โดยการหลั่งนอกนั้นมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้ประมาณ 4-27% ครับ เนื่องจากในขณะที่มีการสอดใส่นั้นอาจมีอสุจิที่ปนอยู่ในน้ำหล่อลื่นของผู้ชายหลุดลอดเข้าไปผสมกับไข่ได้
ในขณะที่การรับประทานยาคุมฉุกเฉินหลังการมีเพศสัมพันธ์ภายใน 120 ชั่วโมง จะช่วยลดโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ลงได้ 75-85%
จะเห็นว่าการป้องกันการตั้งครรภ์ทั่ง 2 วิธีไม่ใช่วิธีการที่มีประสิทธิภาพดีมากนัก เพราะยังมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้มากอยู่ครับ
ในตอนนี้หมอแนะนำให้รอสังเกตประจำเดือนของรอบเดือนนี้ต่อไปก่อน ถ้าหากประจำเดือนมีการขาดหายไปก็ควรลองตรวจการตั้งครรภ์ดู โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ
ในระหว่างที่รอประจำเดือนนี้หมอแนะนำให้งดการมีเพศสัมพันธ์ไปก่อน หรือถ้าจะมีเพศสัมพันธ์อีกก็ควรมีการใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยทุกครั้ง และถ้าหากประจำเดือนมาแล้วก็อาจเริ่มใช้ยาคุมกำเนิดไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบรับประทาน ฉีด แผ่นแปะ หรือฝังได้ภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน ก็จะช่วยให้การมีเพศสัมพันธ์มีความปลอดภัยมากขึ้นครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ขอบคุณค่ะ
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
อยากถามอีกค่ะรบกวนหน่อยนะคะ
สวัสดีค่ะหมอ เมนส์มาวันที่15ตุลา หมดวันที่22ตุลา คือหนูกินยาคุมฉุกเฉินวันที่5พ.ย. เลือดจากยาคุมมาวันที่11 พ.ย. จริงๆเมนส์หนูจะมาช่วงปลายเดือนช่วงวันที่20ขึ้นไปอะค่ะแต่มันไม่สม่ำเสมอค่ะ. จนตอนนี้สิ้นเดือนเเล้วก็ยังไม่มาเเล้วหนูมีเพศสัมพันธ์กับเเฟนวันที่25พ.ย. หลั่งนอกและหลั่งใน. 26ก็มีอีก. 27ก็มีอีก แต่หลั่งนอกนะคะ แล้วก็กินยาคุมฉุกเฉินไปในวันที่26พ.ย. จนตอนนี้เลือดจากยาคุมก็ยังไม่เห็นมี แต่คือไปซื้อที่ตรวจครรภ์ขึ้นขีดเดียวค่ะ. ต้องรอเวลาเเล้วตรวจอีกรอบมั้ยคะ
และ อยากทราบว่า มันอยู่ในช่วงตกไข่มั้ยคะ และอยากทราบด้วยค่ะว่า มีโอกาสท้องมั้ยคะ ยังไม่พร้อมค่ะ ต้องรอเมนส์มาในช่วงไหนคะ
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
การรับประทานยาคุมฉุกเฉินในช่วงใกล้ประจำเดือนมาอาจส่งผลให้ประจำเดือนมีการเลื่อนออกไปได้ครับ
อย่างไรก็ตามการป้องกันการตั้งครรภ์ด้วยยาคุมฉุกเฉินไม่ใช่วิธีป้องกันการตั้งครรภ์ที่มีประสิทธิภาพสูง หลังรับประทานยาคุมฉุกเฉินไปแล้วยังมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้ 15-25% เมื่อมีการขาดประจำเดือนไปจึงต้องสงสัยว่าอาจเกิดจากการตั้งครรภ์ด้วย
การตรวจการตั้งครรภ์ที่จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้นั้นจะต้องเป็นการตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ถ้าตรวจตามนี้จึงจะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99%
ดังนั้นถ้าหากมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายไปเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน ก็จะสามารถตรวจการตั้งครรภ์ได้เร็วที่สุดในตอนเช้าของวันที่ 11 ธันวาคมครับ
นอกจากนี้การรับประทานยาคุมฉุกเฉินจะสามารถป้องกันการตั้งครรภ์จากการมีเพศสัมพันธ์ก่อนรับประทานยา 120 ชั่วโมงเท่านั้น การับประทานยาคุมฉุกเฉินในวันที่ 26 พฤศจิกายนจึงไม่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์จากการมีเพศสัมพันธ์ในวันที่ 27 พฤศจิกายนได้ครับ ถ้าหากยังไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ครั้งดังกล่าวก็ควรรีบรับประทานยาคุมฉุกเฉินให้เร็วที่สุด แต่ถ้าหากเลยช่วงเวลาดังกล่าวไปแล้วก็จะไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ขอบคุณค่ะ ขอรบกวนอีกนิดให้หายข้อสงสัยนะคะคุณหมอ กินยาคุมฉุกเฉินวันแรก 4พ.ย.ค่ะมีเลือดออกแล้ว และกินครั้งที่สอง 26พ.ย. มาวันนี้มีเลือดออกทางช่องคลอดค่ะ ไม่แน่ใจว่าเป็นเมนส์หรือว่าเป็นผลจากการทานยาคุมฉุกเฉิน เพราะทานถึง2ครั้งใน1เดือน อยากทราบรายละเอียดค่ะ
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
เนื่องจากได้รับประทานยาคุมฉุกเฉินไป 2 เม็ดใน 1 เดือน จึงอาจบอกได้ยากครับว่าประจำเดือนควรจะมาเมื่อไหร่ แต่อาจมีวิธีแยกเลือดจากประจำเดือนและเลือดจากยาคุมฉุกเฉินออกจากกันอย่างคร่าวๆ คือ
- ถ้าเป็นประจำเดือน เลือดควรจะมีลักษณะเหมือนประจำเดือนตามปกติ ออกติดต่อกันนาน 3-7 วัน และใช้ผ้าอนามัยวันละประมาณ 2-3 แผ่น
- ถ้าหากเป็นเลือดจากยาคุมฉุกเฉิน เลือดมักออกในลักษณะเลือดกระปริดกระปรอย
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมอคะ อยากทราบค่ะว่า กินยาคุมฉุกเฉินไปแล้ว วันที่6ของการกินยาคุม มีเลือดออกมานะคะ เเต่ก่อนจะมีเลือดออก ดิฉันปวดเอวก่อนค่ะ แล้ววันนี้ก็มีอาการปวดท้องน้อยด้วย เป็นเพราะอะไรคะคุณหมอ
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
การรับประทานยาคุมฉุกเฉินนั้นสามารถมีผลข้างเคียงทำให้มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ปวดศีรษะ คัดตึงเต้านม เลือดออกกระปนิดหระปรอยระหว่างรอบเดือนได้ครับ
อาการปวดท้องและเลือดที่ออกมาจึงอาจเป็นผลข้างเคียงจากยาคุมกำเนิดฉุกเฉินได้ ซึ่งเลือดที่ออกมานั้นจะออกมาในปริมาณเพียงเล็กน้อยและออกติดต่อกันได้ไม่เกิน 7 วัน
ถ้าหากเลือดที่ออกมานั้นออกมาในปริมาณมาก ออกติดต่อกันนานเกิน 7 วัน หรือมีอาการปวดท้องรุนแรงก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจแยกจากสาเหตุอื่นๆก่อนครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ในขณะที่เลือดจากการกินยาคุมฉุกเฉินออกมา ช่วงนี้เราจะท้องได้รึป่าวคะ หรือว่าต้องรอให้เลือดนี้หมดก่อนเเล้วสังเกตอาการต่อไปคะคุณหมอ
ตอบโดย
พิศุทธิกาญจญ์ รังคกูลนุวัฒน์ (พญ.)
หลังรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน อาจมีผลข้างเคียงค่ะ
ผลข้างเคียงหลังจากรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ได้แก่อาการคลื่นไส้อาเจียน เวียนหัว และหลังจากรับประทานในช่วงสัปดาห์แรก อาจมีเลือดออกกะปริดกะปรอยได้ แต่ไม่ใช่เลือดประจำเดือน แต่เป็นผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉินค่ะ ประจำเดือนของคนไข้ ควรมาตรวรอบตามปกติค่ะ หากพบว่าประจำเดือนไม่มาตามรอบปกติเกิน 1-3 สัปดาห์ให้ทดสอบการตั้งครรภ์ หรือพบแพทย์เพื่อการวินิจฉัยที่ถูกต้องค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ถ้ากดบริเวณท้องน้อยเเล้วเเข็งเเละเจ็บ แสดงว่าตั้งครรภ์มั้ยคะ😖
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
การกดที่บริเวณท้องน้อยแล้วแข็งและเจ็บไม่ได้เป็นการบอกว่าจะมีการตั้งครรภ์หรือไม่ครับ แต่สิ่งที่จะสามารถสังเกตเห็นได้เป็นอันดับแรกถ้ามีการตั้งครรภ์คือการขาดประจำเดือน
ถ้าหากที่ผ่านมามีการขาดประจำเดือนไปหมอก็แนะนำให้ลองตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันดูครับ โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมอคะ เลือดจากยาคุมหมดเเล้ว หลังจากนั้นตกขาวเป็นสีเหลืองเป็นเพราะอะไรหรอคะ
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
ตกขาวที่เป็นปกตินั้นควรจะมีลักษณะเป็นมูกใสๆหรือมีสีขาวขุ่นได้เล็กน้อย รวมถึงจะต้องไม่ทำให้เกิดอาการคันหรือมีกลิ่นเหม็นผิดปกติครับ
ถ้าหากตกขาวมีการเปลี่ยนไปเป็นสีเหลืองก็ต้องตั้งข้อสงสัยเอาไว้ก่อนว่าอาจเป็นตกขาวที่ผิดปกติได้ ซึ่งอาจเกิดได้จากการติดเชื้อบางอย่างภายในช่องคลอดได้ครับ
หมอแนะนำว่าในกรณีนี้ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจดูลักษณะตกขาวให้ชัดเจนก่อน ถ้าหากพบว่ามีความผิดปกติก็จะได้รับการรักษาที่เหมาะสมครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
เป็นผลมาจากการกินยาคุมหรือการมีเพศสัมพันธ์ด้วยมั้ยคะ
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
การรับประทานยาคุมนั้นจะไม่มีผลทำให้ตกขาวเปลี่ยนสีครับ แต่การมีเพศสัมพันธ์นั้นอาจส่งผลให้มีการติดเชื้อบางอย่างภายในช่องคลอดและทำให้ตกขาวเปลี่ยนสีได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมอคะคือหนูกินยาคุมแผงเเรก เหลือเม็ดแป้ง3เม็ดกินถึงวันทีื31 แล้ใประจำเดือนมาวันที่1กุมภ หนูเลยเริ่มแผงใหม่ยี่ห้อแอนนี่ลินน์กินไป2เม็ดแล้วปวดหัวมาก เลยเปลี่ยนยี่ห้อใหม่เปนพรีม21เม็ดกินต่อเลย คือวันที่3 กินมาเรื่ิอยๆจนตอนนี้ประจำเดือนยังไม่หยุดเลยค่ะ เเล้รุ้สึกปวดท้องน้อยหน่วงๆตั้งแต่วัที่14กุมภาเเล้วจนมาถึงวันที่17กุมภา เปนเพราะอะไรคะ ต้องทำยังใงขอคำปรึกษาหน่อยค่ะคุณหมอ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)