February 11, 2018 10:59
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ถ้าไม่กินยาคุมแล้วหลั่งนอก มีโอกาสตั้งครรภ์ 4 - 22% ค่ะ
แต่โดยทั่วไป คนที่ทำมักจะไม่ได้มีความเชี่ยวชาญมากพอ จึงอาจมีการหลั่งในไปบ้าง
ทำให้โอกาสเสี่ยงจะค่อนไปทางตัวเลขสูง (คือ 22%) มากกว่าตัวเลขต่ำค่ะ
ถ้ากินยาคุมแล้วหลั่งใน มีโอกาสตั้งครรภ์ 0.3 - 9%
ตัวเลขจะสูงในกรณีที่
- กินยาไม่ถูกต้อง
- กินยาไม่ค่อยตรงเวลา หรือลืมกินยาบ่อย ๆ
- ประสิทธิภาพของยาลดลงจากการอาเจียนหรือถ่ายเหลวหรือการใช้ยาบางอย่างร่วมด้วย
แต่ถ้าไม่มีปัญหาเหล่านี้ โอกาสตั้งครรภ์ถือว่าน้อยมากนะคะ (คือ 0.3%)
สรุปก็คือการใช้ยาคุมแล้วหลั่งใน มีโอกาสเสี่ยงน้อยกว่า การไม่ใช้ยาคุมแล้วหลั่งนอกค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
นิชดา พงษ์ธัญญกรณ์ (แพทย์ทั่วไป) (พญ.)
เพิ่มเติมจากคำถามสุดท้ายนะคะว่าถ้ากินยาคุมแล้วหลั่งในหรือหลั่งนอกเสี่ยงเท่ากันหรือเปล่า จากที่อธิบายไปแล้วข้างต้นถ้ากินยาคุมแล้วหลั่งนอกร่วมด้วยเสี่ยงน้อยกว่าค่ะ แต่ถ้ากินยาคุมถูกวิธีอยู่แล้วความเสี่ยงก็น้อยอยู่แล้วค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
การไม่ทานยาคุมแล้วหลั่งนอกเป็นวิธีการป้องกันการตั้งครรภืที่มีประสิทธิภาพต่ำมากๆค่ะ โอกาสในการตั้งครรภ์มีสูงมากเนื่องจากระหว่างที่มีเพสสัมพันธ์อสุจิสามารถปนออกมากับน้ำหล่อลื่นได้ค่ะ ส่วนการทานยาคุมแล้วหลั่งในยาคุมมีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ได้สูงหากทานอย่างถูกวิธี ไม่ลืมทานยา แต่ยาคุมอาจไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพสสัมพันธ์ได้ค่ะ ดังนั้นหากไม่พร้อมตั้งครรภ์อาจคุมกำเนิดด้วยการทานยาคุม ฉีดยาคุม หรือฝังยาคุมก็ได้ค่ะ และควรมีคู่นอนเพียงคนเดียวเพื่อป้องกันโรคทางเพสสัมพันธ์ด้วยค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ในกรณีที่ต้องการใช้ถุงยางร่วมกับการใช้ยาคุมกำเนิด หรือเปลี่ยนไปใช้ถุงยาง อาจแก้ปัญหาการใช้ถุงยางแล้วแสบ ได้ดังนี้
1. ใช้ถุงยางที่เพิ่มการเคลือบสารหล่อลื่นมากกว่าสูตรปกติ เช่น ดูเร็กซ์ แอรี่, ดูเร็กซ์ เอ็ม-11, โอกาโมโต้ 003 อะโล, โอกาโมโต้ เจลพลัส เป็นต้น
2. ใช้ถุงยางปกติ ร่วมกับเจลหล่อลื่นที่เป็นสูตรน้ำ (หากใช้สารหล่อลื่นที่เป็นน้ำมันจะทำให้ถุงยางอนามัยที่ทำจากยางลาเท็กซ์แตกง่าย) เช่น เควายเจล, คิวซีเจล, ดูมองต์เจล, ดูเร็กซ์เพลย์ เป็นต้น
หากใช้วิธีที่ 1 หรือ 2 อย่างใดอย่างหนึ่งแล้วไม่ดีขึ้น...
3. ให้ใช้ถุงยางสำหรับผู้ที่แพ้ยางลาเท็กซ์ เช่น ไลฟ์สไตล์ สกินน์, ดูเร็กซ์ สมูท, ซากามิ ออริจินอล, โอกาโมโต้ 001 เป็นต้น
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
พอดีผมมีอะไรกับแฟนแบบไม่ใส่ถุงยางบ่อยๆ เพราะว่าแฟนผมบอกว่าเวลาผมใช้ถุงยางแล้วจะแสบ จึงไม่ให้ผมใช้ เลยมีอะไรกันแบบไม่ใส่ถุงยางมาสักพัก ผมเลยให้แฟนไปกินยาคุม แฟนกินแบบ28เม็ดครับ เริ่มกินแผงที่2แล้วครับ แล้วแฟนบอกอยากให้หลั่งใน แต่ผมกังวลครับ เลยอยากถามว่า ระหว่าง ไม่กินยาคุมแล้วหลั่งนอก กับกินยาคุมแล้วหลั่งใน แบบไหนเสี่ยงกว่าหรอครับ และถ้ากินยาคุม แล้วหลั่งในกับหลั่งนอก จะเสี่ยงเท่ากันรึป่าวครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)