June 12, 2019 01:27
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
การที่มีอารมณ์เศร้า คิดมาก เก็บเรื่องต่างๆมาคิดตลอดเวลา ความจำแย่ลงติดต่อกันเป็นเวลานานอาจเป็นอาการที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้าได้ครับ
อาการของโรคซึมเศร้านั้นจะประกอบด้วยการมีอารมณ์เศร้าหดหู่หรือเบื่อหน่ายไม่อยากทำอะไรต่อเนื่องกันอย่างน้อย 2 สัปดาห์ร่วมกับมีอาการ
- นอนไม่หลับหรืออยากนอนมากขึ้น
- เบื่ออาหารหรืออยากอาหารมากขึ้น
- อ่อนเพลียไม่มีแรง
- ไม่มีสมาธิ ความคิด ความจำแย่ลง
- คิดช้าทำช้าลงหรือกระสับกระส่ายมากขึ้น
- มีความคิดในแง่ลบ คิดโทษตัวเองบ่อยๆ หรือเห็นคุณค่าในตนเองลดลง
- เคยคิดหรือลงมือทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตาย
ถ้าหากมีอาการในลักษณะนี้หลายๆข้อ ร่วมกับอาการที่เป็นส่งผลรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน การเรียน การทำงาน หรือความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ก็จะมีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้นครับ
ในเบื้องต้นนั้นอาจลองทำแบบทดสอบตามลิงค์นี้เพื่อประเมินความเสี่ยงในการเป็นโรคซึมเศร้าด้วยตนเองก่อนได้ครับ
http://www.prdmh.com/แบบประเมินโรคซึมเศร้า-9-คำถาม-9q.html
ถ้าหากทำได้ตั้งแต่ 7 คะแนนขึ้นไปก็มีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้น
ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรไปพบจิตแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดก่อน เพื่อที่จะได้ให้การรักษาที่เหมาะสมต่อไปครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
อาการดังกล่าวอาจเป็นความผิดปกติของลักษณะบุคลิกภาพและการปรับตัว หรืออาจเป็นอาการของโรคซึมเศร้า ก็เป็นไปได้ค่ะ
ในวัยรุ่นตอนปลายที่จะเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ เป็นวัยที่ต้องปรับตัวในหลายๆด้าน หากปรับตัวได้ไม่เหมาะสมก็อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพจิตได้ค่ะ
จากอาการที่หนูเล่ามา อยากให้ลองประเมินอาการซึมเศร้าดูก่อนนะคะ
ให้สำรวจดูว่า ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมานี้มีอาการเหล่านี้หรือไม่
1.เบื่อหน่าย ไม่มีความสุข
2.ท้อแท้ เศร้า
3.อ่อนเพลีย ไม่มีแรง
4.เบื่ออาหาร/ทานได้เยอะกว่าปกติ
5.นอนไม่หลับ/หลับมากเกินปกติ
6.ขาดสมาธิ เหม่อลอย ขี้ลืม
7.หงุดหงิด กระสับกระส่าย
8.ขี้น้อยใจ รู้สึกไร้ค่า
9.อยากตาย/อยากทำร้ายตัวเอง
หากมีอาการเกิน 7 ข้อ และเป็นต่อเนื่องเกือบทุกวัน นานเกิน 2 สัปดาห์ขึ้นไป แบบนี้มีแนวโน้มที่จะเป็นซึมเศร้าได้ค่ะ
การรักษาซึมเศร้าจำเป็นต้องรักษาด้วยยาร่วมกับการทำจิตบำบัด ยาจะช่วยปรับสมดุลสารเคมีในสมอง ทำให้เราควบคุมความคิด การรับรู้ การแสดงออกทางอารมณ์และพฤติกรรมได้เหมาะสมตามเหตุผลที่เป็นจริง ส่วนการทำจิตบำบัดจะช่วยให้เราปรับตัวต่อถานการณ์ต่างๆได้ดีขึ้นค่ะ
นอกจากนั้นการดูแลตัวเองในระหว่างทำการรักษาก็เป็นเรื่องสำคัญที่จะช่วยให้การรักษาได้ผลดียิ่งขึ้น ซึ่งผู้ป่วยจะต้องทานยาสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ หมั่นออกกำลังกาย ฝึกคิดแง่บวก ลดความคาดหวังจะทำให้เราไม่ต้องผิดหวัง งดเว้นจากสารเสพติดทุกชนิด และไปพบแพทย์ตามนัดทุกครั้งค่ะ จะช่วยให้อาการค่อยๆดีขึ้น และมีโอกาสหายได้เร็วค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
Shintai Thavonlun (นพ.)
ต้องระวังอาการของภาวะซึมเศร้าครับ
เบื้องต้นแนะนำให้ หาเวลาออกกำลังกาย เช่น วิ่ง เต้นแอโรบิค, ดูภาพยนตร์ตลกหรืออ่านหนังสือการ์ตูนตลก, ระบายผ่อนคลายความเครียดบ้าง เช่น ร้องไห้ ตะโกน เขียนระบายความรู้สึก, พูดคุยกับคนที่ไว้ใจ จะทำให้ลดความเครียด ความกังวลได้ครับ และสุดท้ายคือ มองโลกในแง่ดี คิดว่าทุกปัญหามีทางแก้ครับ ส่วนโทรปรึกษาจะมีสายด่วนสุขภาพจิต โทร. 1323 ได้ครับ
โดยแบบประเมินโรคซึมเศร้ามีดังนี้ครับ
จะมีอาการดังต่อไปนี้ 5 อาการขึ้นไป โดยอาการมีดังนี้
1. อารมณ์ซึมเศร้า (เด็กและวัยรุ่นอาจจะเป็นอารมณ์หงุดหงิดแทนได้ครับ)
2. มีความสนใจในกิจกรรมต่างๆ แทบทั้งหมดลดลงมาก
3. นํ้าหนักลดลงหรือเพิ่มขึ้นมาก (โดยเปลี่ยนแปลงมากกว่าร้อยละ 5 ต่อเดือน) หรือเบื่ออาหารหรือเจริญอาหารมากขึ้น
4. กระวนกระวาย หรือดูเชื่องช้าลง
5.นอนไม่หลับ/หลับมากไป
6. อ่อนเพลีย ไม่มีแรงแรง
7. มีสมาธิลดลง ใจลอย หรือลังเลใจ
8.รู้สึกว่าตนเองไร้ค่า
9. มีความคิดเรื่องการตาย คิดอยากตาย
จะต้องมีอาการในข้อ 1 หรือ 2 อย่างน้อย 1 ข้อ และมีอาการเป็นอยู่นาน 2 สัปดาห์ขึ้นไป และควรมีอาการเหล่านี้แทบจะตลอดเวลาครับ
ดีที่สุดน่าจะไปพบแพทย์เฉพาะทาง ทางด้านจิตใจ(จิตแพทย์)โดยเฉพาะครับ เพราะจะได้วินิจฉัยแยกโรคอื่นๆที่มีอาการคล้ายกัน เช่น ภาวะเศร้าการปรับตัวไม่ได้จากปัญหาที่มากระทบจิตใจ หรือ ภาวะวิตกกังวลครับ และคุณหมอจิตแพทย์จะชำนาญในการรักษาและให้ยา อีกทั้งจะได้ให้คำแนะนำและติดตามอาการครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ยาที่ใช้รักษาชื่อว่าอะไรคค่ะ
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
ยาที่ใช้ในการรักษาโรคซึมเศร้าในปัจจุบันมีให้เลือกใช้อยู่หลายสิบชนิดครับ ซึ่งการเลือกชนิดและขนาดยาที่เหมาะสมสำหรับการรักษาก็จะต้องมีการเลือกให้เหมาะสมกับอาการผู้ป่วยเป็นรายๆไป และในระหว่างรักษาก็ต้องมีการตรวจติดตามอาการเป็นระยะเพื่อปรับขนาดยาให้เหมาะสมครับ
ดังนั้นในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรไปพบจิตแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการก่อน ยังไม่ควรซื้อยาใดๆมารับประทานเองครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
อยากปรึกษาหมอว่าอาการคิดมาก ปวดหัวเศร้าตลอดเวลารู้สึกง่วงทั้งวัน น้อยใจเสียใจอะไรที่ไม่ได้อย่างที่ต้องการก็จะเศร้าเก็บมาคิดมาเป็นความเคียด สมองเหมือนไม่อยากจะจำอะไร จำได้แค่ประโยคสั้นๆรึคำที่มันบั่นทอนจิตใจไว้ในหัวอยู่ตลอดอยากรู้ว่าที่เป็นเเบบนี้เป็นโรคอะไรรึลักษณะป่วยไหมรึแบบไหน หนูต้องการการสนใจใส่ใจตลอดเวลาตอนนี้หนูอายุ18ปี
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)