October 06, 2018 05:05
ตอบโดย
วชิรวิทย์ สุทธิศักดิ์ (แพทย์ทั่วไป) (นพ.)
อาการปวดประจำเดือนมักเกิดจากเลือดประจำเดือนไหลออกมาไม่ทัน หรือออกมาไม่สะดวกจึงทำให้เกิดเลือดคั่งในโพรงมดลูก
กล้ามเนื้อมดลูกจึงพยายามบีบรัดตัวเพื่อเป็นการขับเลือดออกมา ทำให้เกิดอาการเจ็บปวด วิธีการรักษาเบื้องต้นคือ นอนพัก รับประทานยาเเก้ปวด วางกระเป๋าน้ำร้อนที่หน้าท้องช่วยคลายกล้ามเนื้อมดลูก หรือออกไปเดินเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด จะพอช่วยได้ครับ
แต่หากอาการปวดเป็นมากจนทำงานไม่ไหว ร่วมกับมีอาการอื่น เช่น ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ เจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ อาจคิดถึงภาวะปวดประจำเดือนที่มีสาเหตุจำเพาะ(Secondary dysmenorrhea) เช่น เนื้องอกมดลูก เยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่ เป็นต้นครับ ซึ่งควรไปพบสูตินรีเเพทย์ เพื่อตรวจภายใน หรือ อัลตร้าซาวด์ กรณีคนไข้ถ้าตรวจเเล้วปกติ สาเหตุอื่นๆเช่นมีน้ำหนักมาก ทำให้มีฮอร์โมนเพศหญิงมากก็เป็นไปได้ครับ
อีกอย่างที่จะเเนะนำคือ กถ้าจะกินยาเเก้ปวด ให้กินก่อนประจำเดือนมาเเละมีอาการปวดครับ (เช่นกะว่าประจำเดือนมาพรุ่งนี้ วันนี้กินไปก่อนเลย จะช่วยลดปวดได้ดีกว่าครับ เพราะยาเเก้ปวดท้องเมนส์ เป็นกลุ่มNSAID จะยับยั้งการสร้างสารที่ทำให้ปวด)
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
คือเวลามีประจำเดือนจะมีอาการปวดท้องมากปวดทุกวันจนกว่าจะหมดประจำเดือนและเวลามีประจำเดือนจะมีก้อนเลือดหมูลุดออกมาค่ะแต่เวลาที่ก้อนเลืิอดหลุดออกมาแล้วอาการปวดทเองก็จะเบาลงสักพักก็เริ่มปวดต่อเป็นแบบนี้มา6เดือนแล้วค่ะไม่ทราบหนูน่าจะเป็นอะไรค่ะ..เคยตรวจภ่ยในกับอันตราซาวด์ที่..ร.พ.รัฐแล้วผลก็ปกติค่ะให้ยาคุมมากิน3เดือนแต่ก็ไม่หายค่ะแบบนี้น่าจะยังไงดีค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)