December 15, 2018 20:14
ตอบโดย
พิศุทธิกาญจญ์ รังคกูลนุวัฒน์ (พญ.)
สวัสดีค่ะ โดยปกติ รอบเดือนของเรา จะคลาดเคลื่อนอยู่ระหว่าง 21-35 วัน (บวกลบเจ็ดวันจากรอบก่อนๆ ) อยู่แล้วค่ะ ถ้ายังอยู่ในช่วงนี้ ก็ยังถือว่าปกติค่ะ แต่ถ้ามีความเครียด วิตกกังวล ซึ่งเกิดขึ้นได้ในคนทั่วไป ก็อาจทำให้คลาดเคลื่อนไปได้อีกค่ะ
-ถ้าคนไข้มีความเสี่ยงเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ เช่น การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน การใช้ถุงยางอนามัย หรือการคุมกำเนิดวิธีอื่นๆไม่ถูกต้อง หรือ ผิดพลาด ก็อาจตั้งครรภ์ได้ เบื้องต้นแนะนำว่า ให้ตรวจการตั้งครรภ์ก่อนนะคะ โดยการตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะด้วยตนเอง สามารถตรวจได้ตั้งแต่ 14 วันหลังมีเพศสัมพันธ์ค่ะ
-ถ้าคนไข้ไม่มีความเสี่ยงเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ เลยหรือตรวจการตั้งครรภ์แล้วไม่พบการตั้งครรภ์ปัจจัยที่จะทำให้ประจำเดือนที่เคยมา แล้วไม่มา หรือผิดปกติ มีหลายอย่างค่ะ ตัวอย่าง เช่น
1.ความเครียด การอดอาหารนานๆ และการออกกำลังกายอยางหักโหมมากเกินไป ทำให้ประจำเดือนขาดได้ค่ะ พบได้บ่อยที่สุด
2.การใช้ยาฮอร์โมนต่างๆ เช่น ยาคุมกำเนิด แบบฉีด หรือยาบางอย่าง เช่น ยารักษาโรคทางจิตเวช
3.โรคทางระบบสืบพันธ์บางชนิด เช่น ถุงน้ำรังไข่ ( PCOS) อาจทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติได้ หรือ การ ติดเชื้อ ทางเพศสัมพันธ์ อาจมำให้มีอาการปวดท้อง หรือ ตกขาว ที่ผิดปกติได้ ซึ่ง คใรไปพบแพทยืดพื่อตรวจร่างกาย
4.ฮอร์โมน ไทรอยด์ผิดปกติ ซึ่งจะต้องทีอาการอื่นๆร่วมด้วย เช่น ใจสั่น กินจุ น้ำหนักลด หรือ ฮอร์โมนจากรังไข่ผิดปกติ อาจทำให้ไม่เกิดการตกไข่ ทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ ไม่มา หรือมาแบบกระปริบกระปรอย เป็นต้นค่ะ
5. โรคทางการกินที่ผิดปกติ (anorexia) ซึ่งเป็นโรคทางจิตเวชอย่างหนึ่ง หากอดอาหาร หรือทานอาหารไม่ถูกวิธีนานๆ จะทำให้ขาดประจำเดือนได้ค่ะ
ถ้าคนไข้มีอาการต่างๆที่ผิดปกติดังที่กล่าวไป แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายหรือตรวจภายในเพิ่มเติมนะคะ
หากประจำเดือนมาล่าช้ากว่าปกติ และไม่ได้เป็นมาติดต่อกันนานเกิน 3 ครั้ง ก็ให้รอดูอาการก่อนได้ค่ะ หากเกิน 3 เดือนประจำเดือนไม่มา แนะนำให้ไปตรวจร่างกาย และตรวจภายในเพิ่มเติมนะคะ
อนึ่ง การทำใจให้สบาย พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ระมัดระวังเรื่องการใช้ยาหรืออาหารเสริมที่แพทย์ไม่ได้สั่ง และออกกำลังกาย จะช่วยให้สมดุลฮอร์โมนดีและทำให้ประจำเดือนมาสม่ำเสมอค่ะ
**กรณีทราบว่า ตั้งครรภ์ แต่ยังไม่พร้อม หมอขอแนะนำดังนี้นะคะ
ถ้าจะให้ปลอดภัย การยุติการตั้งครรภ์ควรทำที่โรงพยาบาลค่ะ แต่สิ่งที่คนไข้จะต้องเข้าใจเป็นเบื้องต้น คือ การยุติการตั้งครรภ์ มีผลข้างเคียงนะคะ หากอายุครรภ์มาก ก็เสี่ยงที่จะตกเลือด หรือถ้าอายุครรภ์น้อย คุณแม่ต้องขูดมดลูก มดลูกก้จะบาง เสี่ยงต่อมดลูกแตกในอนาคตหากมีลูกคนถัดไป และเสี่ยงต่อการตกเลือด ติดเชื้อได้ อาจทำให้มีบุตรยากในอนาคต เป็นต้น ที่สำคัญอีกอย่างคือ เรื่องจิตใจของคุณพ่อคุณแม่นะคะ
อนึ่ง ประเทศไทยยังไม่ได้สนับสนุนการยุติการตั้งครรภ์อย่างเต็มรูปแบบ หากไม่ทีข้อบ่งชี้ แต่อยากจะนำเสนอทางเลือกอื่นๆ ที่จะช่วยเป็นทางออกให้กับผู้ที่ตั้งครรภ์ไม่พร้อมค่ะ เช่น คลอดบุตรแล้วยกบุตรให้เป็นบุตรบุญธรรมของครอบครัวอื่น, คลอดบุตรแล้วฝากศูนย์เลี้ยง เมื่อพร้อมก็มารับลูก เป็นต้น หรือระหว่างการตั้งครรภ์ ก็มีหลายหน่วยงานจะช่วยคุณพ่อและคุณแม่ในเรื่องต่างๆมากมาย เช่น บ้านพักฉุกเฉินสำหรับผู้ที่ตั้งครรภ์ไม่พร้อม หรือตามรพ รัฐบาลต่างๆ ก็จะมีศูนย์ให้คำปรึกษาแนะนำ แก่คุณแม่ทากมายค่ะ นอกจากนี้ ศูนย์เหล่านี้ยังดูแลไปจนถึวคลอดบุตร และหลังคลอด รวมไปถึงการคุมกำเนิดฟรีหลังคลอดด้วยนะคะ ซึ่งเราสามารถเข้าถึงหน่วยงานเหล่านี้ได้โดยตรง หรือ โทร 1663 สายด่วนสำหรับผู้ตั้งครรภ์ไม่พร้อมหรือ เข้าไปที่เว็บไซต์
https://www.lovecarestation.com
เป็นเว็บไซต์ให้คำปรึกษาในทุกรูปแบบของวัยรุ่น หรือ ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธฺ หรือ ผู้ที่ต้องการวางแผนครอบครัวค่ะ จัดทำ โดย สสส และ unicef ประเทศไทยค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
คุณหมอค่ะปรำจำเดือนมาครั้งสุดท้ายหมดเมื่อวันที่5ก.ย. ตอนนี้ยังไม่พร้อมจะมีค่ะมีวิธีแบบไหนที่ช่วยบ้างค่ะ แบบไม่ต้องนอนรพ.ค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)