อยากได้คำตอบด่วนค่ะ ขออธิบายสาเหตุที่มาที่ไปก่อนเข้าคำถามนะคะ ประมาณเดือนก.ค.61 หลังเป็นประจำเดือนมีตกขาวออกมามากจนคันและรู้สึกว่าแสบที่อวัยวะเพศ จึงได้ซื้อยามาสอดเองแต่สอดผิดวิธีค่ะไม่ได้เอายาแช่น้ำ ได้เอายาสอดไปที่ช่องคลอดเลยสอดยาเข้าไปไม่สุด เช้ายาละลายออกมาที่กางเกงและมีเลือดออก เลยมาหาหมอๆบอกว่าที่เลือดออกน่าจะเป็นที่สอดยาผิดวิธีเลยทำให้ยาบาดมดลูกแล้วเลือดออก ครั้งแรกหมอได้ให้แต่ยาที่รักษาอาการติดเชื้อที่ช่องคลอดมารักษา Medtronidazole 400 mg 2 แผง และCistamine 10mg 1 แผง มาทาน นัดตรวจครั้งที่2 หมอแจ้งว่าอาการดีขึ้นตกขาวน้อยลง และให้ยาMedtronidazole 400 mg มาทาน 1 แผง ประมาณ วันที่ 19ส.ค.61 มีอาการเจ็บขาหนีบด้านขาแต่ไม่มากไม่ได้หาหมอจนมีอาการเยอะคือมีไข้เดินแล้วเจ็บขาหนีบด้านขวามากจึงมาหาหมอ 7 ก.ย. หมอให้ยาMedtronidazole 400 mg 1 แผง Ibuprofen 1 แผง และยาRanclave 1g 10 เม็ด และตัดชิ้นเนื้อจรวจแป๊ปเสมียร์ และรอผลและในเดือนก.ย.61 รอบเดือนไม่มา ปกติทานยาคุมทุกเดือนยกเว้นเดือนส.ค.61ที่ไม่ได้ทานและเมื่อ 1 ก.ย.มีเพศสัมพันธ์กะแฟนได้ทานยาคุมฉุกเฉินแทน และมีอีกครั้ง 30 ก.ย. ได้ใส่ถุงยางแทน ปัจจุบันประจำเดือนก็ยังไม่มา และเมื่อ 12ต.ค.61 ที่ผ่านมาทราบผลชิ้นเนื้อที่ตรวจแป๊ปเสมียร์ ผลออกมาปากมดลูกอักเสบมากให้รักษาก่อนและตรวจซ้ำ หมอจึงให้ยา Acyzin 250 mg ทานครั้งเดียว 4 เม็ด คำถาม 1.การที่ประจำเดือนไม่มามีสาเหตุจากปากมดลูกอักเสบรึป่าวคะ สงสัยและกลัวว่าปากมดลูกอักเสบปิดทางเข้าออกประจำเดือนๆอาจจะมาแต่ไม่ไหลออกมาข้างนอกอาจคั่งข้างภายใน จะเป็นไปได้มั๊ยคะ เนื่องจากเมื่อครบกำหนดประจำเดือนมาเมื่อเดือนกันยา61มีอการเตือนเหมือนคนเป็นประจำเดือนแต่ประจำเดือนไม่ออกมาจนเมื่อ13ต.ค.61 ช่วงสายๆมีหยดสีแดงอ่อนเปื้อนที่กางเกงใน แต่หลังจากนั้นก็หายไปไม่มีอะไร และเมื่อเช้าตรู่ลุกมาเข้าห้องน้ำมีเยื่อคล้ายประจำเดือนออกมาแต่นิดเดียว 2. การอักเสบที่เป็นอยู่สามารถกลายเป็นเนื้อร้ายได้มั๊ยคะ เนื่องจากไม่ได้รับการรักษาตั้งแต่แรกปล่อยไว้จน 2 เดือนกว่า