ตอนนี้ผมอยู่ ม.2 อายุ14 อยากถามว่า ผมเป็นอะไรครับ มันเจ็บจี๊ดที่หัวใจนานๆเวลาเจอเรื่องที่เจ็บที่เศร้าที่เสียใจ อารมณ์แปรปรวนตลอดเวลา เคยทะเลาะกับเเม่จนจะเอามีดเเทงตัวเอง ทรทานที่หัวใจ อยากเอามีดไปเเทงคนที่เกลียด เคยคิดอยากเอามีดไปเเทงครูที่สั่งเเต่คนอื่นโดยไม่ดูตัวเอง ใจชอบสั่น เหงาจนบางทีคุยคนเดียว เคยคิดอยากตาย ร้องไห้จนไม่มีน้ำตาจนไม่เหลือความรู้สึกเสียใจ เคยคิดว่าตัวเองไม่น่าเกิดมา ตัวเองไม่มีค่า หัวอื้อ เกลียดตัวเองที่ทำดีเท่าคนอื่นไม่ได้ ทำให้เเม่ภูมิใจไม่ได้ เสียใจที่เกิดมาเเล้วทำให้พ่อเเม่เลิกกัน บางทีก็คิดว่าเราจะเกิดมาทำไม มันเจ็บเเละทรมานครับ

สวัสดีครับ
การที่มีอารมณ์เศร้าเสียใจติดต่อกันเป็นเวลานาน ร่วมกับการมีความรู้สึกผิด คิดโทษตัวเองอยู่บ่อยๆ มีความรู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่า และมีความรู้สึกอยากทำร้ายตัวเองหรือผู้อื่นนั้นอาจเป็นอาการของโรคซึมเศร้าได้ครับ

อาการของโรคซึมเศร้านั้นจะประกอบด้วยการมีอารมณ์เศร้าหดหู่หรือเบื่อหน่ายไม่อยากทำอะไรต่อเนื่องกันอย่างน้อย 2 สัปดาห์ร่วมกับมีอาการ
- นอนไม่หลับหรืออยากนอนมากขึ้น
- เบื่ออาหารหรืออยากอาหารมากขึ้น
- อ่อนเพลียไม่มีแรง
- ไม่มีสมาธิ ความคิด ความจำแย่ลง
- คิดช้าทำช้าลงหรือกระสับกระส่ายมากขึ้น
- มีความคิดในแง่ลบ คิดโทษตัวเองบ่อยๆ หรือเห็นคุณค่าในตนเองลดลง
- เคยคิดหรือลงมือทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตาย
ถ้าหากมีอาการในลักษณะนี้หลายๆข้อ ร่วมกับอาการที่เป็นส่งผลรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน การเรียน การทำงาน หรือความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ก็จะมีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้นครับ

ในเบื้องต้นนั้นอาจลองทำแบบทดสอบตามลิงค์นี้เพื่อประเมินความเสี่ยงในการเป็นโรคซึมเศร้าด้วยตนเองก่อนได้ครับ

http://www.prdmh.com/แบบประเมินโรคซึมเศร้า-9-คำถาม-9q.html

ถ้าหากทำได้ตั้งแต่ 7 คะแนนขึ้นไปก็มีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้น

เนื่องจากเท่าที่อ่านดูนั้นหมอรู้สึกว่าคุณมีความทุกข์ทรมานกับอาการเหล่านี้อยู่ค่อนข้างมาก และอาการเหล่านี้คงส่งผลต่อการใช้ชีวิตของคุณเป็นอย่างมาก หมอจึงอยากให้คุณได้ไปพบจิตแพทย์เพื่อประเมินอาการเพิ่มเติมก่อน เพื่อที่จะทราบสาเหตุที่แน่ชัด และให้การรักษาที่เหมาะสมต่อไปครับ

อาการดังกล่าวอาจเป็นอาการของโรคซึมเศร้า หรือ เป็นความผิดปกติของบุคลิกภาพและการปรับตัวก็เป็นไปได้ค่ะ

ในกรณีที่มีอาการผิดปกติ จัดการกับอารมณ์ไม่ได้ นานต่อเนื่องเกินกว่า 2 สัปดาห์ ควรเข้าพบจิตแพทย์นะคะ ให้คุณหมอประเมินอาการเพิ่มเติม วินิจฉัยโรคให้แน่ชัดแล้วรับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม จะช่วยให้อาการดีขึ้น ปรับตัวใช้ชีวิตได้เหมาะสมมากขึ้นนะคะ