November 16, 2018 12:14
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
การมีตุ่มบวมแดงและมีอาการคันที่อวัยวะเพศไม่จำเป็นต้องเกิดจากการติดเชื้อราเสมอไปครับ ทั้งนี้อาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆได้ด้วย เช่น การติดเชื้อแบคทีเรียทั่วไป หนองใน แผลริมอ่อน หูดหงอนไก่
ในเบื้องต้นนั้นหมอแนะนำให้งดการมีเพศสัมพันธ์ในช่วงนี้ไปก่อนและให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดครับ เพื่อที่จะได้ให้การรักษาที่เหมาะสมต่อไป
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ตอบโดย
พิศุทธิกาญจญ์ รังคกูลนุวัฒน์ (พญ.)
สวัสดีค่ะ อาการดังกล่าว ยังไม่เฉพาะเจาะจงกับเชื้อรานะคะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากติดกันทั้งคนไข้ และแฟนค่ะ
แผล/ตุ่มที่อวัยวะเพศสามารถเป็นได้หลายอย่างค่ะ ซึ่งอาการ คือ อาจ ทำให้มี
อาการแสบ คัน บางรายมีหนองจากท่อปัสสาวะ หรือตกขาวผิดปกติได้
ตัวอย่างเช่น
-กลุ่มโรคติดค่อทางเพศสัมพันธ์
1.เริมที่อวัยวะเพศ เกิดจากเชือไวรัส herpes ลักษณะจะเป็นตุ่มน้ำใส เมื่อแตกออกตะแสบ และอาจมีการติดเชื้อซ้ำซ้อนได้
2.แผลริมแข็ง มักไม่เจ็บ เกิดจากเชื้อซิฟิลิส ถ้าปล่อยไว้ จะหายเอง แต่เชื้อซิฟิลิส ตะยังควอยู่ รอวันที่จะทำให้เกิดผลแทรกซ้อนต่อระบบอื่นๆที่สำคัญได้ ถ้าไม่รีบรักษาค่ะ
3.แผลริมอ่อน เกิดจาก แบคทีเรีย ชื่อ Haemophilus Ducreyi มักมีอาการแสบ มีหนอง คนไข้จะเจ็บ แสยแผลมากค่ะ
4.หูดหงอนไก่ เป็นการติดเชื้อไวรัส เป็นก้อนหรือติ่งเนื้อ ลักษณะผิวอาจเรียบหรือขรุขระ สีอาจจะสีชมพู
สีน้ำตาล สีเนื้อ พบบริเวณอวัยวะเพศ ทวารหนัก ปาก และช่องคอค่ะ
การรักษาหูดหงอนไก่ มีหลายวิธีค่ะ ทั้งแบบใช้ยา และการผ่าตัด
1.การใช้ยา เช่น TCA , 5% imiquimod เป็นต้น ใช้ทาบริเวณหูด เพื่อให้เนื้อนั้นฝ่อไปค่ะ
2.การจี้เย็น และการผ่าตัด ใช้ในกรณีที่หูดมีขนาดใหญ่มาก หรือใช้ยาแล้วไม่ได้ผลค่ะ
นอกจากนี้ การรักษาโรคหูด ยังต้องรักษาคุ่นอนด้วยค่ะ ไม่เช่นน้้นแล้ว จะทำให้โรคหูด กลับมาเป็นซ้ำๆ ได้ค่ะ
กลุ่มโรคติดค่อทางเพศสัมพันธฺนี้ การรักษาคล้ายกัน คือ การให้ยาฆ่าเชื้อ และการรักษาสุขอนามัยทางเพศ การรักษาความสะอาดอยู่เสมอค่ะ
นอกจากนี้เวลาล้าง ทำความสะอาด ให้ล้างด้วยน้ำสะอาดก็เพียงพอ ไม่จำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์หรือการสวนล้างช่องคลอดใดๆ ไม่แนะนำให้สวนล้างบ่อยๆ เนื่องจากช่องคลอดจะเสียสมดุลแบคทีเรียที่มีอยู่ตามปกติ และจะเป็นเชื้อราได้ง่าย, ทำความสะอาดหลังปัสสาวะและหลังจากมีเพศสัมพันธ์ , เวลาเช็ดอวัยวะเพศหลังขับถ่าย ควรเช็ดจากหน้าไปหลัง ,กางเกงในไม่ควรคับ และแห้งไม่อับชื้น , มีคู่นอนแค่คนเดียว และถ้าหากมีความเสี่ยงเกี่ยวกับการเปลี่ยนคู่นอนบ่อยๆ ควรป้องกันทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ เช่น การใส่ถุงยางอนามัย ค่ะ นอกจากนี้ ต้องรักษาคู่นอนด้วยเสมอค่ะ
-กลุ่มโรคอื่นๆ
1.การติดเชื้อที่ผิวหนัง
2.ผิ่นแพ้ เช่น การแพ้ยา เป็นต้น
3.โรคแพ้ภูมิคุ้มกันตนเอง (autoimmune)
ดังนั้น เมื่อมีตุ่มที่อวัยวะเพศ จะเห็นว่า สามารถเป็นได้หลายอย่าง แนะนำให้คนไข้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายเพิ่ทเติมค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ผมกับแฟนหน้าจะเป็นเชื้อราไหมครับ ผมตรงอวัยวะเพศมีหัวสีแดงละมีจุดๆสีแดง ตรงหนังห่มมันก็ออกบวมๆแดงๆด้วยครับและคันมาก แฟนผมข้างในมันก็เป็นตุ่มๆครับเล็กๆคันเหมือนกันครับและแดงด้วย ผมกับแฟนควรทำอย่างไรดีครับคุณหมอ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)