October 03, 2018 22:30
ตอบโดย
พิพัฒน์ คงวชิรไพฑูรย์ (นพ.)
โดยปกติไม่มีการคุมกำเนิดใดที่ได้ผล 100% ครับ แต่การใช้ถุงยางอนามัยอย่างถูกวิธี และไม่มีถุงยางที่ฉีกหรือแตก ก็มักได้ผลมากกว่า 99% ครับ
โดยปกติ ไม่จำเป็นต้องกินยาคุมฉุกเฉินร่วมด้วยครับ ดว้นแต่ว่าพบว่ามีถุงยางมีปัญหาครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
จิตตรีพร
อริปริยะกุล
(พยาบาลวิชาชีพ)
eye
การใส่ถุงยางอนามัยช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้มากถึง99% ทั้งนี้ต้องไม่มีการรั่ว ปริแตก
ส่วนยาคุมฉุกเฉิน ควรทานในกรณีฉุกเฉินเท่านั้นค่ะ เช่นถุงยางอนามัยหลุด แตก รั่ว หรือไม่ได้สวมถุงยางอนามัย หลั่งใน ถูกข่มขืน ลืมยาทานยาคุมรายเดือนตั้งแต่2เม็ดขึ้นไป ซึ่งยาคุมฉุกเฉินหากทานบ่อยจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์นอกมดลูก
หากต้องการคุมกำเนิดระยะยาว แนะนำให้ใช้ถุงยางอนามัยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ร่วมกับใช้เป็นยาคุมกำเนิดชนิดอื่นๆไม่ว่าจะเป็นยาคุมแบบทานรายเดือน ยาคุมแบบฉีด แบบฝัง แบบแปะ ห่วงคุมกำเนิด แนะนำว่าควรปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกวิธีที่เหมาะสมกับตัวเรามากที่สุดค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
สุพิชชา แสงทองพราว (พญ.)
สวัสดีค่ะ ปัจจุบันยังไม่มีวิธีการคุมกำเนิดใด ที่ให้ประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดได้100%
การใช้ถุงยางอนามัย มีประสิทธิภาพป้องกันการตั้งครรภ์ 99.5% ยังมีโอกาสที่ถุงยางรั่ว ถุงยางหลุด แตก ก็มีความเสี่ยงให้เกิดการตั้งครรภ์ได้
ยาคุมฉุกเฉิน ควรทานเมื่อมีภาวะฉุกเฉินจำเป็นจริงๆเท่านั้น เช่น ถุงยางขาด หรือแตกรั่ว เนื่องจากยาคุมฉุกเฉินมีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ต่ำกว่าวิธีอื่น จึงไม่ควรใช้เป็นประจำ
การใช้ถุงยางอนามัยด้วยวิธีที่ถูกต้องเพียงอย่างเดียว ก็สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้สูงค่ะ ดังนั้น ถ้ามั่นใจว่าถุงยางไม่แตกไม่รั่ว ก็ไม่จำเป็นต้องทานยาคุมฉุกเฉินเพิ่ม
หากมีเพศสัมพันธ์สม่ำเสมอ และยังไม่พร้อมมีบุตร แนะนำให้คุมกำเนิดทางฝ่ายหญิงด้วย เช่น
- การฝังยาคุมกำเนิด เป็นที่นิยม เนื่องจากมีประสิทธิภาพสูงถึง 99.97%
- การรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิด ช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 99.7% แต่อาจยังมีโอกาสผิดพลาดเช่น การลืมทานยา เป็นต้น
- การฉีดยาคุมกำเนิด มีประสิทธิภาพประมาณ 99.7%
- การใส่ห่วงอนามัยในฝ่ายหญิงก็ป้องกันการตั้งครร์ได้สูงประมาณ 99.5%
- การทำหมันหญิง เป็นการทำหมันถาวร ป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 99.9% เนื่องจากก็ยังมีโอกาสที่หมันหลุด หมันต่อเองได้ค่ะ ซึ่งก็เคยพบมาก่อน
สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการคุมกำเนิดมากขึ้น โดยคุมทั้งหญิงและชาย โดยการใช้ยาในฝ่ายหญิง และถุงยางอนามัยในฝ่ายชาย นอกจากจะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์แล้วยังสามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ด้วยค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ไปฝังยาคุมกำเนิด หลังแท้งได้16วันค่ะ
อยากทราบว่ายาออกฤทธิ์ทันทีไหมค่ะ
ไปฝังยาคุมกำเนิด หลังแท้งได้16วันค่ะ
อยากทราบว่ายาออกฤทธิ์ทันทีไหมค่ะ
ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่วันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 386 บาท ลดสูงสุด 61%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
สวัสดีครับ ผมเพิ่งมีเพศสัมพันธ์กับแฟนโดยสวมใส่ถุงยางอนามัยเมื่อ 2 ที่แล้ว และแฟนได้กินยาคุมฉุกเฉินด้วย และเพิ่งมีเพศสัมพันธ์อีกในวันนี้โดยใส่ถุงยางอนามัย จะมีโอกาสท้องไหมครับ แล้วถ้าจะมีเพศสัมพันธ์กันอีกควรกินยาคุมควบคู่ไปด้วยไหมครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)