February 12, 2019 22:52
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
การคุมกำเนิดด้วยยาคุมแบบรายเดือนนั้นจะหมดประสิทธิภาพการคุมกำเนิดทันทีถ้าหากเริ่มรับประทานยาแผงใหม่ช้ากว่ากำหนดเกิน 1 วันครับ ในกรณีนี้จึงถือว่ามีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้อยู่พอสมควร
ส่วนการรับประทานยาคุมรายเดือนที่ล่าช้าก็จะต้องรับประทานยาติดต่อกันเป็นเวลาอย่างน้อย 7 วันก่อน ยาคุมจึงจะเริ่มกลับมาป้องกันการตั้งครรภ์ได้อีกครั้งหนึ่ง
ถ้าหากคุณกลับมาเริ่มรับประทานยาคุมในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ก็จะเริ่มมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัยได้ในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ครับ ส่วนการมีเพศสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นจะถือว่ามีความเสี่ยงตั้งครรภ์ได้สูงทั้งหมด
จากเหตุผลข้างต้นการรับประทานยาคุมกำเนิดต่อไปก็อาจจะไม่ได้มีประโยชน์ในกรณีนี้ครับ เพราะยาคุมจะยังไม่มีผลป้องกันการตั้งครรภ์ใดๆจึงอาจเลือกทำได้ 2 ทาง คือ
1. หยุดรับประทานยาคุมไปก่อน แล้วรอให้ประจำเดือนมาแล้วจึงกลับมารับประทานยาคุมอีกครั้งภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน เพื่อให้ยาคุมมีผลป้องกันการตั้งครรภ์ได้ตั้งแต่วันแรก
2. รับประทานยาคุมต่อไปก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้ระดับฮอร์โมนแปรปรวนและมีประจำเดือนมาผิดปกติ ถ้าหากเลือกวิธีนี้ก็จะต้องงดการมีเพศสัมพันธ์ไปก่อนจนกว่าจะถึงวันพรุ่งนี้ที่ยาจะเริ่มป้องกันการตั้งครรภ์ได้ ทั้งนี้ถ้าหากรับประทานยาคุมไปจนหมดแผงแล้วประจำเดือนยังไม่มา ก็จะต้องตรวจการตั้งครรภ์ดูในตอนเช้าของวันที่จะเริ่มรับประทานยาแผงใหม่ด้วย ถ้าหากตรวจแล้วไม่มีการตั้งครรภ์จึงให้รับประทานยาคุมแผงต่อไปได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
พิศุทธิกาญจญ์ รังคกูลนุวัฒน์ (พญ.)
สวัสดีค่ะ การหลั่งข้างนอก ( withdrawal ) เป็นวิธีการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพไม่ค่อยดีค่ะ จากสถิติ ถ้าทำได้ถูกต้องเลยโอกาสจะตั้งท้องประมาณ 4% แต่โดยทั่วๆไปหรือตามความจริงแล้ว ขณะที่อวัยวะเพศชายสอดใส่ มักมีสเปิร์มออกมาพร้อมกับร้ำหล่อลื่นบ้างบางส่วนค่ะ ทำให้โอกาสจะตั้งครรภ์ในชีวิตจริงมีสูงถึง 22-27% ค่ะ
ดังนั้น หากไม่แน่ใจ และไม่ได้คุมกำเนิดโดยวิธีอื่นๆ ช่วย อาจจะต้องรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน โดยหากรับประทานภายใน 24 ชม แรกหลังมีเพศสัมพันธ์ จะเพิ่มประสิทธิภาพการคุมกำเนิดได้ประมาณ 85% -90% แต่ถ้ากินภายใน 72 ชม ประสิทธิภาพได้ประมาณ 75% ค่ะ และช้าสุดที่ 120 ชม ประสิทธิภาพ ของการป้องกันการตั้งครรภ์ยังพอมีอยู่ แต่ลดลงไปมากค่ะ
หรือถ้าต้องการประสิทธิภาพการคุมกำเนิดมากขึ้น จะเปลี่ยนไปคุมกำเนิดโดยใช้ ห่วงอนามัยชนิดเคลือบสารทองแดงก็ได้ค่ะ ประสิทธิภาพจะสูงกว่ายาคุมกำเนิดในช่วง 72-120 ชมค่ะ (สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ตั้งแต่ 0-120 ชมได้ดี และมีประสิทธิภาพประมาณ 99%) ค่ะ
อย่างไรก็ตาม หลังรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน อาจมีผลข้างเคียงค่ะ
ผลข้างเคียงหลังจากรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ได้แก่อาการคลื่นไส้อาเจียน เวียนหัว และหลังจากรับประทานในช่วงสัปดาห์แรก อาจมีเลือดออกกะปริดกะปรอยได้ แต่ไม่ใช่เลือดประจำเดือน แต่เป็นผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉินค่ะ ประจำเดือนของคนไข้ ควรมาตรวรอบตามปกติค่ะ หากพบว่าประจำเดือนไม่มาตามรอบปกติเกิน 1-3 สัปดาห์ให้ทดสอบการตั้งครรภ์ หรือพบแพทย์เพื่อการวินิจฉัยที่ถูกต้องค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ขอถามหน่อยค่ะสงสัยค่ะ พอดีรอบเดือนมา 2 ก.พ.62 หมด 7 ก.พ.62 แล้ววันที่ 8 ก.พ. 62 มีอะไรกับแฟนค่ะหลังจากนั้นเราทานยาคุมฉุกเฉินแล้ววันที่ 13 ก.พ.62 มีเลือดไหลมาค่ะเหมือนประจำเดือนจะมาอีก แบบนี้ผิดปกติไหมค่ะ รบกวนหน่อยนะคะ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
หลังรับประทานยาคุมฉุกเฉินอาจมีผลข้างเคียงทำให้มีเลือดออกกระปริดกระปรอยระหง่างรอบเดือนได้ครับ โดยเลือดนี้จะออกมาในปริมาณเพียงเล็กน้อย ออกมาติดต่อกันได้ประมาณ 3-7 วันครับ
แต่ถ้าหากเลือดออกมาในปริมาณมาก หยุดยาก ต้องเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยๆ หรือออกมาติดต่อกันมากกว่า 7 วัน ก็อาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆได้อีก เช่น การมีฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ มีการอักเสบติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดปกติ ซึ่งในกรณีนี้ก็ควรไปพบแพทย์นรีเวชเพื่อตรวจหาสาเหตุเพิ่มเติมครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ประจำเดือนมาวันที่25ม.ค.62-29ม.ค62พอประจำเดือนหายมีอะไรกับสามีปล่อยในตลอดแล้วยาคุมยังไม่ได้กินเพิ่งมากินวันที่6ก.พ62อยากจะทราบว่าโอกาสตั้งครรภ์มีไหมค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)