November 05, 2018 08:41
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
ถ้าอ่านจากอาการข้างต้นหมอคิดว่าอาจมีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากกว่าโรคไบโพลาร์ครับ เนื่องจากดูมีอาการเด่นเป็นการมีอารมณ์เศร้าโดยที่ไม่มีช่วงที่มีอารมณ์ร่าเริงมากผิดปกติอย่างชัดเจนครับ
อาการของโรคซึมเศร้านั้นจะประกอบด้วยการมีอารมณ์เศร้าหดหู่หรือเบื่อหน่ายไม่อยากทำอะไรต่อเนื่องอย่างน้อย 2 สัปดาห์ร่วมกับมีอาการ
- นอนไม่หลับหรืออยากนอนมากขึ้น
- เบื่ออาหารหรืออยากอาหารมากขึ้น
- อ่อนเพลียไม่มีแรง
- ไม่มีสมาธิ ความคิด ความจำแย่ลง
- คิดช้าทำช้าลงหรือกระสับกระส่ายมากขึ้น
- มีความคิดในแง่ลบ คิดโทษตัวเองบ่อยๆ หรือเห็นคุณค่าในตนเองลดลง
- เคยคิดหรือลงมือทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตาย
ถ้าหากมีอาการในลักษณะนี้หลายๆข้อและอาการที่เป็นส่งผลรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน การเรียน การทำงาน หรือความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ก็จะมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้นครับ
ในเบื้องต้นนั้นอาจลองประเมินความเสี่ยงในการเป็นโรคซึมเศร้าด้วยตัวเองดูก่อน โดยการทำแบบทดสอบ 9Q ตามลิงค์นี้ครับ
https://www.dmh.go.th/test/download/files/2Q%209Q%208Q%20(1).pdf
ถ้าหากทำได้ตั้งแต่ 7 คะแนนขึ้นไปก็มีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้น
ถ้าหากอาการดังกล่าวเป็นติดต่อกันมาเป็นเวลานานแล้ว หมอก็แนะนำให้ไปพบจิตแพทย์เพื่อประเมินอาการเพิ่มเติมดูครับ เพื่อที่จะได้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดและให้การรักษาได้อย่างเหมาะสม
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
ฉัตรดนัย
ศรชัย
(นักจิตวิทยาการปรึกษา)
Rehabilitation in Mental Health & Addiction
สวัสดีครับ
ในเบื้องต้นเห็นด้วยกับคุณหมอครับว่าอาการที่เล่ามาจะมีแนวโน้มไปทางด้านโรคซึมเศร้ามากกว่าไบโพล่าร์ครับ หากมีอาการเพียงแค่ที่เล่ามานะครับ อย่างไรก็ตาม ผมได้ลองแนบลิ้งค์ที่มีข้อมูลของโรคไบโพล่าร์มาให้ศึกษานะครับว่ามันคืออะไรและมีอาการอย่างไรบ้าง
https://www.honestdocs.co/understanding-bipolar
ในส่วนของบทความอาจจะมีความยาวซักเล็กน้อยนะครับ หากไม่รู้สึกสนใจก็สามารถข้ามไปได้ครับ
สำหรับอาการที่น้องเล่ามา ผมคาดว่าตอนนี้สภาพบ้านและสิ่งแวดล้อมที่โรงเรียนน่าจะทำเรื่องไม่ดีกับเราทำให้เรารู้สึกว่าไม่ต้องการไปโรงเรียนและก็ไม่อยากอยู่บ้าน ความรักที่ไม่สมหวัง ความเครียดจากการเรียน และสภาพบ้านที่เรารู้สึกว่าไม่อบอุ่น สิ่งเหล่านี้ทำให้น้องรู้สึกว่าตนเองไม่มีที่ที่ควรอยู่ทำให้เกิดความคิดว่าอยากที่จะตาย ใช่หรือเปล่าครับ ในส่วนที่ผมเป็นห่วงที่สุดอาจจะเป็นเรื่องของความคิดฆ่าตัวตายที่เกิดขึ้นเหล่านี้ เพราะเป็นเรื่องที่อันตรายครับ ในเบื้องต้นอยากให้ลองเปิดใจเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้กับบุคคลที่เราไว้ใจนะครับ หากไม่มีคนที่น้องไว้ใจได้ ลองโทรปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิต 1323 หรือสมาคมสะมาริตันส์ ซึ่งเป็นบริการสายด่วนให้คำปรึกษาที่ไม่มีค่าใช้จ่ายนะครับ
นอกจากนั้นอยากให้ลองหันกลับมาดูแลสุขภาพจิตตนเองนะครับ พยายามทำกิจกรรมที่เราเคยชอบทำ ดูหนัง ฟังเพลง หรือหากิจกรรมอื่นๆที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลายทำนะครับ หากการทำสิ่งเหล่านี้ไม่ช่วยอะไรเท่าไหร่นัก ก็อยากจะแนะนำให้ลองเข้าพบกับจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาครับ ซึ่งในโรงเรียนของน้องอาจจะมีคุณครูบางท่านที่เป็นคุณครูแนะแนวที่น้องจะสามารถเข้าไปพุดคุยเพื่อบอกปัญหาที่เกิดขึ้นกับเขาได้ครับ ตรงนี้ขอเป็นกำลังใจให้ตัวน้อง และหากมีคำถามอื่นๆก็สามารถถามเข้ามาได้เลยนะครับ แพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญทุกๆท่านในที่นี้ยินดีตอบคำถามเหล่านั้นครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
อารมณ์เศร้า อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ได้แก่ ภาวะเครียด กดดันทางจิตใจ การเลี้ยงดูที่ทำให้สภาพจิตใจและบุคลิกภาพผิดปกติ ทนต่อความเครียดได้น้อย จากความผิดปกติของสารเคมีในสมอง(อาจเป็นได้หลายโรค เช่น ซึมเศร้า ไบโพลาร์ในขั้วซึมเศร้า การปรับตัวและบุคลิกภาพผิดปกติ เป็นต้น)
ดังนั้นหากมีอาการต่อเนื่องนานกว่า 2 สัปดาห์ ควรพบจิตแพทย์นะคะ หรือ
จะลองทำแบบประเมินซึมเศร้าด้วยตัวเองดูก่อนนะคะ โดยในช่วงระยะเวลา 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้มีอาการเหล่านี้มากน้อยแค่ไหน
ไม่มีเลย 0 คะแนน
มี 1-7 วัน 1 คะแนน
≥7 วัน 2 คะแนน
ทุกวัน 3 คะแนน
1. เบื่อหน่าย ไม่สนใจอยากจะทำอะไร
2. ไม่สบายใจ ซึมเศร้า ท้อแท้
3. หลับยาก หลับๆตื่นๆ หรือหลับมากเกินไป
4. หลับยาก หลับๆตื่นๆ หรือหลับมากเกินไป
5. เหนื่อยง่าย ไม่ค่อยมีแรง อ่อนเพลีย
6. เบื่ออาหาร หรือ กินได้มาก กินจุบจิบตลอดเวลา
7. รู้สึกไม่ดีกับตัวเอง คิดว่าล้มเหลว หรือคิดว่าทำให้ตนเองและครอบครัวผิดหวัง
8. ขาดสมาธิ เหม่อลอย ขี้ลืมบ่อย
9. ทำอะไรช้าลง กระสับกระส่าย อยู่นิ่งไม่ได้
10. คิดทำร้ายตัวเอง อยากตาย หรือตายไปจะดีกว่า
จากนั้นรวมคะแนน หากได้มากกว่า 7 คะแนนขึ้นไป แนะนำให้พบจิตแพทย์ ประเมินอาการเพิ่มเติม แล้วรับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม การรักษาที่ถูกต้องตามแนวทางโรคจะช่วยให้อาการดีขึ้น ปรับตัวได้มากขึ้น ใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติอีกครั้งนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
สหวัสดีค่ะ หนูอย่ากรู้ว่าหนูเป็นโรคไบโพล่าร์ จรีงไหม่ เพาะบาวที่หนูก็คิดว่าหนูเป็น บางที่ก็ไม่ได้เป็น แต่หนูเคยคิดว่าอย่ากตาย ไม่อย่าอยู่ เพาะมีหลายๆเรึ่องเข้ามาในชิวิต ทั้งเรึ่องเรียน เรึ่องคอบคว เรึ่องความรัก มันเข้ามาบ่อยๆๆแล้วทำให้หนู เศร้า หนูอย่ากอยู่คนเดีวย และก็เบึ่อกลับสิ่งเดึมๆที่เป็นอยู่เชั่นไปโรงเรียนก็ไปอย่ากไปและอย่ากหนีจากตรงนี้อย่ากไปอยู่ที่อึ่น หนุแค่15ปีเอง 😭😭
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)