คือหนูมีเพศสัมพันธ์กับแฟนหลังมีประจำเดือนประมานหนึ่งอาทิตย์ครั้งแรกไม่ใส่ถุงยางไม่เสร็จ ครั้งที่สองไม่ได้ใส่ถุงยางเสร็จแต่หลั่งนอก พอสองสามวันมาหนูมีอาการตกขาวผิดปกติ มีกลิ่น เปรี้ยวๆ คาวแต่ไม่มากตอนนี้ผ่านมาเกือบสามอาทิตย์แล้วจากเดือนกันยายนที่หนูได้มีเพศสัมพันหลังเป็นปจด จนมาเดือนตุลาคม ปจด ยังไม่มาปกติ ปจดจะมา ทุกเดือน ประมาณวันที่3,4 ไม่ก็สิ้นเดือนตอนนี้ประจำเดือนไม่มาและ หนูรู้สึกปวดฉี่บ่อย และเจ็บหน้าอกคล้ายๆเมนไกล้มา เจ็บมาเกือบหนึ่งอาทิตย์แล้วแต่ปจดก็ยังไม่มาตอนนี้เครียดมากคะควรทำไงดี

เบื้องต้น แนะนำให้ไปซื้อชุดทดสอบการตั้งครรภ์จากปัสสาวะมาตรวจดูก่อนค่ะ ว่ามีการตั้งครรภ์หรือไม่ แนะนำให้ตรวจปัสสาวะหลังตื่นนอนตอนเช้า จะให้ผลที่แม่นยำที่สุด
หากผลตรวจพบว่าไม่มีการตั้งครรภ์. ภาวะประจำเดือนขาด เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น
- ความผิดปกติของการตกไข่ การตกไข่ไม่สม่ำเสมอ หรือไม่ตกในเดือนนั้น ทำให้ประจำเดือนคลาดเคลื่อนหรือมาผิดปกติได้
-โรคถุงน้ำรังไข่ ทำให้ไม่มีการตกไข่ และขาดประจำเดือนได้
- ความแปรปรวนของฮอร์โมนในร่างกาย ที่มีผลต่อการตกไข่
- การออกกำลังกายหนักจนเกินไป
- ความเครียด
- การที่น้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หรือลดลงอย่างรวดเร็ว
- โรคความผิดปกติของฮอร์โมนไทรอยด์ เช่น ไทรอยด์เป็นพิษ มักพบอาการร่วมด้วยเช่น เหนื่อยง่าย ใจสั่น น้ำหนักลง หรือไทรอยด์ต่ำ อาการร่วมที่พบได้คือ อ่อนเพลีย น้ำหนักขึ้น ท้องผูก เป็นต้น

แนะนำว่า ถ้าไม่ตั้งครรภ์ ให้รอดูก่อนได้ ประจำเดือนอาจจะเลื่อน เนื่องจากเป็นช่วงไข่ไม่ตก หรือมีความเครียด หากเกิน 2 สัปดาห์แล้วประจำเดือนไม่มา โดยที่ไม่มีการตั้งครรภ์ แนะนำให้ไปพบแพทย์ค่ะ

นอกจากนี้ หากมีเพศสัมพันธ์สม่ำเสมอ และยังไม่ต้องการมีบุตร ควรมีการคุมกำเนิดร่วมด้วย
การหลั่งนอก ไม่ใช่การคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพค่ะ โอกาสตั้งครรภ์ได้สูง
แนะนำว่าหากต้องการมีเพศสัมพันธ์ ควรใช้วิธีการคุมกำเนิดแบบอื่นที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า เช่น
- การฝังยาคุมกำเนิด เป็นที่นิยม เนื่องจากมีประสิทธิภาพสูงถึง 99.97%
- การรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิด ช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 99.7% ยังมีโอกาสผิดพลาดเช่น การลืมทานยา เป็นต้น
- การฉีดยาคุมกำเนิด มีประสิทธิภาพประมาณ 99.7%
- การใช้ถุงยางอนามัย มีประสิทธิภาพป้องกันการตั้งครรภ์ 99.5% ยังมีโอกาสที่ถุงยางรั่ว ถุงยางหลุด แตก ก็มีความเสี่ยงให้เกิดการตั้งครรภ์ได้ แต่ถุงยางอนามัยสามารถช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้
- การใส่ห่วงอนามัยในฝ่ายหญิงก็ป้องกันการตั้งครร์ได้สูงประมาณ 99.5%

สวัสดีครับ
การมีเพศสัมพันธ์โดยที่มีการสอดใส่แต่ไม่ได้มีการป้องกันด้วยวิธีอื่นมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้ประมาณ 4-27% ครับ เนื่องจากในขณะที่มีการสอดใส่นั้นอาจมีอสุจิที่ปนอยู่ในน้ำหล่อลื่นของผู้ชายหลุดลอดเข้าไปผสมกับไข่ได้
ดังนั้นการมีเพศสัมพันธ์ทุกครจึงควรมีการใช้การคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพร่วมด้วย เช่น ถุงยางอนามัย ยาคุมกำเนิด

ดังนั้นถ้าหากมีอาการขาดประจำเดือนไปหลังมีเพศสัมพันธ์จึงควรลองตรวจการตั้งครรภ์ดูก่อนครับ โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ

ถ้าหากตรวจแล้วไม่มีการตั้งครรภ์ก็อาจรอประจำเดือนต่อไปก่อนได้ครับ สาเหตุที่ทำให้ประจำเดือนมาช้าอาจเกิดได้จากสาเหตุอื่น เช่น
- ไม่มีการตกไข่ในรอบเดือนที่ผ่านมา
- ระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ
- ผลข้างเคียงของยาบางชนิด
- ความเครียด
- การออกกำลังกายอย่างหักโหม
- น้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยเกินไป
เป็นต้น

แต่ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปนานเกิน 3 เดือนก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุครับ