June 13, 2019 07:55
ตอบโดย
สารินทร์ สีหมากสุก (นพ.)
การใช้แอพคำนวณวันที่ประจำเดือนจะมา เป็นแค่การคาดคะเนครับ อาจจะไม่ได้ตรงกันมากซะทีเดียว ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ประจำเดือนสามารถคลาดเคลื่อนจากเดิมได้ ส่วนมากประมาณ 7 วัน อาจมาเร็วหรือช้ากว่ากำหนด โดยสาเหตุที่ทำให้ประจำเดือนเลื่อนอาจเกิดจาก เครียด อ้วน การอดอาหาร การออกกำลังกายอย่างหนัก ผลข้างเคียงจากยาคุมกำเนิด การติดเชื้อของระบบสืบพันฑุ์ และอื่นๆ เป็นต้น ในเบื้องต้นแนะนำให้รอก่อนครับ อย่าพึ่งวิตกกังวลไปครับ ส่วนการใช้ถุงยางอนามัย ก็มีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้ประมาณ 2-6% โดยประมาณ (ไม่ได้ป้องกัน 100% อย่างที่คิด) หากกังวลเกี่ยวกับเรื่องการตั้งครรภ์ ก็ควรรอ 14 วันอย่างน้อยหลังจากที่มีเพศสัมพันธ์ไปล่าสุด ค่อยตรวจการตั้งครรภ์ครับ จะบอกได้ดีที่สุดว่ามีการตั้งครรภ์หรือไม่ หรือถ้าประจำเดือนมาแล้วก็ไม่จำเป็นต้องตรวจครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
นิธิวัฒน์ ตั้งชมพู (นพ.)
สวัสดีครับ
สำหรับการใช้ถุงยางอนามัย มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ครับ หากใช้ไม่ถูกวิธี การใช้ถุงยางอนามัยมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 2-18% ครับ ขึ้นกับการใช้ถุงยางอนามัยที่ถูกต้องหรือไม่ กล่าวคือ ไม่ควรนำอวัยวะเพศชายสอดใส่ในอวัยวะเพศหญิงก่อนสวมถุงยางครับเนื่องจากในน้ำหล่อลื่นเพศชาย อาจมีตัวอสุจิปนเปื้อนอยู่ครับ และถุงยางอนามัย ต้องไม่รั่ว ไม่ฉีกขาดครับ
ถ้าใช้อย่างถูกต้องโอกาสการตั้งครรภ์เหลือเพียงประมาณ2%ครับ
ดังนั้น ถ้าคนไข้ใช้อย่างถุกต้อง ถุงยางไม่รั่ว ไม่ขาด โอกาสการตั้งครรภฺ จึงน้อยมากๆ คนไข้สบายใจได้ครับ
โดยปกติ รอบเดือนของเรา จะคลาดเคลื่อนอยู่ระหว่าง 21-35 วัน (บวกลบเจ็ดวันจากรอบก่อนๆ ) อยู่แล้วครับ ถ้ายังอยู่ในช่วงนี้ ก็ยังถือว่าปกติครับ แต่ถ้ามีความเครียด วิตกกังวล ซึ่งเกิดขึ้นได้ในคนทั่วไป ก็อาจทำให้คลาดเคลื่อนไปได้อีกครับ
ในกรณีประจำเดือนไม่มาตามปกติ หรือ ประจำเดือนขาดไป
-ถ้าคนไข้มีความเสี่ยงเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ เช่น การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน การใช้ถุงยางอนามัย หรือการคุมกำเนิดวิธีอื่นๆไม่ถูกต้อง หรือ ผิดพลาด เล่น ถุงยางอนามัยรั่วซึม ก็อาจตั้งครรภ์ได้ เบื้องต้นแนะนำว่า ให้ตรวจการตั้งครรภ์ก่อนนะครับ โดยการตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะด้วยตนเอง สามารถตรวจได้ตั้งแต่ 14 วันหลังมีเพศสัมพันธ์ครับ
(การตรวจนั้น ต้องตรวจถุกต้องตามคำแนะนำและระยะเวลาที่เหมาะสมด้วยนะครับจึงจะเชื่อถือได้ครับ)
-ถ้าคนไข้ไม่มีความเสี่ยงเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ เลยหรือตรวจการตั้งครรภ์แล้วไม่พบการตั้งครรภ์. ปัจจัยที่จะทำให้ประจำเดือนที่เคยมา แล้วไม่มา หรือผิดปกติ มีหลายอย่างครับ ตัวอย่าง เช่น
1.ความเครียด การอดอาหารนานๆ และการออกกำลังกายอยางหักโหมมากเกินไป ทำให้ประจำเดือนขาดได้ครับ พบได้บ่อยที่สุด
2.การใช้ยาฮอร์โมนต่างๆ เช่น ยาคุมกำเนิด แบบฉีด หรือยาบางอย่าง เช่น ยารักษาโรคทางจิตเวช
3.โรคทางระบบสืบพันธ์บางชนิด เช่น ถุงน้ำรังไข่ ( PCOS) อาจทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติได้ หรือ การ ติดเชื้อ ทางเพศสัมพันธ์ อาจมำให้มีอาการปวดท้อง หรือ ตกขาว ที่ผิดปกติได้ ซึ่ง ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกาย
4.ฮอร์โมน ไทรอยด์ผิดปกติ ซึ่งจะต้องทีอาการอื่นๆร่วมด้วย เช่น ใจสั่น กินจุ น้ำหนักลด หรือ ฮอร์โมนจากรังไข่ผิดปกติ อาจทำให้ไม่เกิดการตกไข่ ทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ ไม่มา หรือมาแบบกระปริบกระปรอย เป็นต้นครับ
5. โรคทางการกินที่ผิดปกติ (anorexia) ซึ่งเป็นโรคทางจิตเวชอย่างหนึ่ง หากอดอาหาร หรือทานอาหารไม่ถูกวิธีนานๆ จะทำให้ขาดประจำเดือนได้ครับ
ถ้าคนไข้มีอาการต่างๆที่ผิดปกติดังที่กล่าวไป แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายหรือตรวจภายในเพิ่มเติมนะครับ
หากประจำเดือนมาล่าช้ากว่าปกติ และไม่ได้เป็นมาติดต่อกันนานเกิน 3 ครั้ง ก็ให้รอดูอาการก่อนได้ครับ หากเกิน 3 เดือนประจำเดือนไม่มา แนะนำให้ไปตรวจร่างกาย และตรวจภายในเพิ่มเติมนะครับ
อนึ่ง การทำใจให้สบาย พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ระมัดระวังเรื่องการใช้ยาหรืออาหารเสริมที่แพทย์ไม่ได้สั่ง และออกกำลังกาย จะช่วยให้สมดุลฮอร์โมนดีและทำให้ประจำเดือนมาสม่ำเสมอครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
นิชดา พงษ์ธัญญกรณ์ (แพทย์ทั่วไป) (พญ.)
สวัสดีค่ะ การใช้แอพคำนวณไม่สามารถบอกได้แน่นอนว่าประจำเดือนจะมาวันไหนค่ะ แอพมีไว้ใช้เตือนประจำเดือนคร่าวๆ โดยปกติแล้วประจำเดือนของผู้หญิงจะมาทุก 21-35 วัน (ประมาณทุก 28 วันแต่บวกลบ 7 วัน) ดังนั้นอาจรอดูประจำเดือนมาก่อน แต่จากประวัติมีเพศสัมพันธ์โดยใช้ถุงยางอนามัย ซึ่งถุงยางอนามัยมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ประมาณ 2-18% จากประวัติอาจใช้ผิดวิธีเพราะไม่ได้ใส่ตลอดเวลา ถึงแม้ว่าไม่มีการหลั่งในก็ตามอาจพลาดการตั้งครรภ์ได้ เนื่องจากอาจมีอสุจิปนมากับน้ำหล่อลื่นได้ ดังนั้นถ้าผ่านการมีเพศสัมพันธ์มาแล้ว 14 วันหมอแนะนำให้ลองตรวจการตั้งครรภ์จากปัสสาวะดูค่ะ โดยตรวจได้ในตอนเช้าหรือปัสสาวะแรกของวันจะได้ผลที่น่าเชื่อถือมากที่สุด และถ้าผลออกมาไม่ตั้งครรภ์ก็ให้รอดูประจำเดือนไปก่อน เพราะความเครียด ฮอร์โมนไม่สมดุล หรือรอยโรคภายในอื่นๆอาจทำให้ประจำเดือนเลื่อนได้ และถ้าประจำเดือนขาดนานติดต่อกัน 3 เดือนโดยที่ตรวจการตั้งครรภ์แล้วไม่พบว่าตั้งครรภ์ควรไปพบสูตินารีแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
มีเมนวันสุดท้ายคือวันที่ 8 แล้วเดือนนี้เมนยังไม่มาเลยค่ะ มีอะไรกับแฟนค่ะแต่ใส่ถุงยางตลอด หนูใช้แอพนับรอบเดือนมันจะต้องมาวันที่ 12 แต่มันยังไม่มาเกิดจากอะไรหรอคะ มีเอามาใส่แล้วไม่ใส่ถุงยางค่ะแต่ไม่แตก จะท้องมั้ยคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)