December 06, 2018 21:28
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
อารมณ์เศร้านั้นเป็นอารมณ์ที่เกิดขึ้นได้กับคนทุกคน แต่อารมณ์เศร้าที่เป็นปกตินั้นมักจะไม่เป็นอยู่นานและไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตในด้านต่างๆครับ
ในกรณีที่อารมณ์เศร้าที่เกิดขึ้นเป็นอยู่นาน จนทำให้เริ่มอยากแยกตัวจากสังคม และส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของตนเอง ก็มีโอกาสที่จะเป็นอาการของโรคซึมเศร้าได้ครับ
อาการของโรคซึมเศร้านั้นจะประกอบด้วยการมีอารมณ์เศร้าหดหู่หรือเบื่อหน่ายไม่อยากทำอะไรต่อเนื่องกันอย่างน้อย 2 สัปดาห์ร่วมกับมีอาการ
- นอนไม่หลับหรืออยากนอนมากขึ้น
- เบื่ออาหารหรืออยากอาหารมากขึ้น
- อ่อนเพลียไม่มีแรง
- ไม่มีสมาธิ ความคิด ความจำแย่ลง
- คิดช้าทำช้าลงหรือกระสับกระส่ายมากขึ้น
- มีความคิดในแง่ลบ คิดโทษตัวเองบ่อยๆ หรือเห็นคุณค่าในตนเองลดลง
- เคยคิดหรือลงมือทำร้ายตัวเองหรือค่าตัวตาย
ถ้าหากมีอาการในลักษณะนี้หลายๆข้อ ร่วมกับอาการที่เป็นส่งผลรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน การเรียน การทำงาน หรือความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ก็จะมีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้นครับ
ในเบื้องต้นนั้นอาจลองทำแบบทดสอบตามลิงค์นี้เพื่อประเมินความเสี่ยงในการเป็นโรคซึมเศร้าด้วตนเองก่อนได้ครับ
http://www.prdmh.com/แบบประเมินโรคซึมเศร้า-9-คำถาม-9q.html
ถ้าหากทำได้ตั้งแต่ 7 คะแนนขึ้นไปก็มีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้น
ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรไปพบจิตแพทย์เพื่อประเมินอาการเพิ่มเติมให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดก่อน เพื่อที่จะได้ให้การรักษาและคำแนะนำต่างๆได้อย่างเหมาะสมครับ
ในระหว่างนี้หมอแนะนำให้พยายามหากิจกรรมที่ตนเองชอบทำ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อย่าปล่อยให้ตัวเองอยู่เฉยมากจนเกินไปเพราะจะทำให้อารมณ์เศร้าเป็นมากขึ้นได้ นอกจากนี้ก็อาจหาคนที่ไว้ใจได้สักคนเพื่อบอกเล่าความในใจหรือระบายความรู้สึกที่เกิดขึ้นออกมาบ้างก็จะเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยลดอารมณ์เศร้าที่เกิดขึ้นในเบื้องต้นได้ครับ
และถ้าหากต้องการขอคำปรึกษาเพิ่มเติมในเบื้องต้นก่อนไปพบแพทย์ก็สามารถโทรไปที่สายด่วนสุภาพจิตเบอร์ 1323 ได้อีก 1 ช่องทางครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
ฉัตรดนัย
ศรชัย
(นักจิตวิทยาการปรึกษา)
Rehabilitation in Mental Health & Addiction
สวัสดีครับ
ในเบื้องต้นอาการเหล่านี้ก็จะเป็นอาการที่ค่อนข้างจะเข้าข่ายในเรื่องความเสี่ยงของการมีภาวะโรคซึมเศร้านะครับ โดยข้อมูลต่างๆก็ตามที่คุณหมอได้แจ้งไว้ด้านบนเลยครับ ซึ่งในตัวสาเหตุของอาการก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้จากหลากหลายปัจจัยครับ ไม่ว่าจะเป็นสารเคมีในสมอง ความเครียดความกดดันจากการทำงาน ครอบครัว หรือแม้กระทั่งความรัก ซึ่งการมีอาการเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนที่มีเรื่องอะไรเข้ามากระทบจิตใจหรืออยู่ในภาวะเครียดมานานหรือเจอความเครียดที่รุนแรงอย่างฉับพลันนะครับ
ดังนั้นนอกจากการรับประทานยาจากจิตแพทย์แล้ว อีกหนึ่งวิธีที่สามารถทำใด้คือการลองพิจารณาถึงปัญหาที่เกิดขึ้นของตนเองครับว่าอะไรเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เรามีอาการเหล่านี้ พยายามหาปัจจัยที่ทำให้เกิดความเครียดขึ้นจากนั้นลองหาทางหลีกเลี่ยงหรือรับมือกับปัญหาเหล่านั้นครับ การพูดคุยกับนักจิตวิทยาเพื่อช่วยให้เราได้เรียนรู้ในการรับมือกับอารมณ์และความคิดที่เกิดขึ้นก็จะเป็นอีก 1 ทางเลือกที่คุณสามารถลองเข้ามารับบริการได้ครับ
หากิจกรรมที่ตนเองชอบทำและหมั่นให้เวลากับตนเองที่จะได้ผ่อนคลายหรือหาเวลาให้ตนเองได้ตัดตัวเองออกจากความเครียดแวดล้อมซัก 1 ชั่วโมงต่อวันหรืออย่างน้อยๆ ในหนึ่งอาทิตย์นะครับ ผมคิดว่าการดูแลตนเองที่ดีก็จะสามารถมาช่วยบรรเทาอาการที่เกิดขึ้นเหล่านี้ได้ครับ หากมีคำถามอื่นๆก็สามารถสอบถามเข้ามาได้นะครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
อาการดังกล่าวอาจเป้นอาการของโรคซึมเศร้าก็เป็นไปได้ค่ะ
เบื้องต้นทำแบบประเมินภาวะซึมเศร้าด้วยตัวเอง ดูก่อนก็ได้ค่ะ โดยให้สำรวจอาการภายในระยะ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมารวมวันนี้มีอาการเหล่านี้มากน้อยเพียงใด โดยให้คะแนนแต่ละอาการดังนี้
ไม่มีเลย 0 คะแนน
มี 1-7วัน 1 คะแนน
มากกว่า 7 วัน 2 คะแนน
ทุกวัน 3 คะแนน
ลักษณะอาการในช่วง 2 สัปดาห์
1. เบื่อหน่าย ไม่สนใจอยากจะทำอะไร
2. ไม่สบายใจ ซึมเศร้า ท้อแท้
3. หลับยาก หลับๆตื่นๆ หรือหลับมากเกินไป
4. เหนื่อยง่าย ไม่ค่อยมีแรง อ่อนเพลีย
5. เบื่ออาหาร หรือ กินได้มาก กินจุบจิบตลอดเวลา
6. รู้สึกไม่ดีกับตัวเอง คิดว่าล้มเหลว หรือคิดว่าทำให้ตนเองและครอบครัวต้องผิดหวัง
7. ขาดสมาธิ เหม่อลอย ขี้ลืมบ่อย
8. ทำอะไรช้าลง กระสับกระส่าย อยู่นิ่งไม่ได้
9. คิดทำร้ายตัวเอง อยากตาย หรือตายไปจะดีกว่า
รวมคะแนน หากคะแนนรวมมากกว่า 7 คะแนนขึ้นไป แนะนำพบจิตแพทย์ ประเมินอาการ วินิจฉัยโรคให้แน่ชัดอีกครั้งแล้วรับการรักษา ซึ่งหากวินิจฉัยเป็นซึมเศร้าจริงก็จำเป็นต้องรักษาด้วยยาร่วมกับการทำจิตบำบัด และไม่ควรปล่อยให้มีอาการเรื้อรัง เพราะโรคอาจพัฒนารุนแรงมากขึ้นจนยากแก่การรักษานะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
รู้สึกว่าชีวิตไม่มีความสุขแบบจริงๆเลย เหมือนทุกอย่างที่ทำอยู่ตอนนี้ทำไปเพราะหน้าที่ความเคยชิน ไม่ได้มีความสุขกับมัน จนมันมีผลกระทบกับตัวเอง ตอนแรกเรารู้สึกว่าเราเครียดมากๆ ต่อมาก็เริ่มแยกตัวเริ่มชอบอยู่คนเดียว ไม่อยากอยู่รวมๆกับคนที่บ้าน จากนั้นเราก็เริ่มหงุดหงิดง่ายไปกับทุกเรื่องที่มันเป็นปัญหา บางทีเรื่องเล็กๆน้อยๆก็หงุดหงิด จนถึงบางครั้งต้องทุบกำแพงเพื่อระบายความหงุดหงิดความโกรธ แต่ความรู้สึกเครียด หงุดหงิด โกรธ มันจะมีความเศร้าอยู่ด้วยตลอด เราร้องไห้ง่ายมาก เวลาดาวน์มากๆ อาการเศร้าจะมาตลอด เรากำลังเป็นอะไรอยู่
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)