October 01, 2018 00:04
ตอบโดย
พิศุทธิกาญจญ์ รังคกูลนุวัฒน์ (พญ.)
สวัสดีค่ะ กรณีดังกล่าว มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ค่ะ ทั้งสองกรณีเลย
กรณีแรก การทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน แม้ช่วยลดความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ได้ แต่ถ้ากินใน 48 ชม โอกาสการตั้งครรภ์ ประมาณ 15-20%ค่ะ
กรณี2 การทานยาคุมรายเดือน ถ้าจะให้ผลป้องกันการตั้งครรภฺทันที ต้องทานภายในวันที่ 2-5 ของการมีประจำเดือน มิเช่นนั้น จะต้องคุมกำเนิดวิธีอื่น อย่างน้อว 7 วัน เพื่อรอยาออกฤทธ์ค่ะ
โดยปกติ รอบเดือนของเรา จะคลาดเคลื่อนอยู่ระหว่าง 21-35 วัน (บวกลบเจ็ดวันจากรอบก่อนๆ ) อยู่แล้วค่ะ ถ้ายังอยู่ในช่วงนี้ ก็ยังถือว่าปกติค่ะ แต่ถ้ามีความเครียด วิตกกังวล ซึ่งเกิดขึ้นได้ในคนทั่วไป ก็อาจทำให้คลาดเคลื่อนไปได้อีกค่ะ
อย่างไรก็ตาม กรณีคนไข้มีความเสี่ยง อย่างที่กล่าวไป จึง ควรตรวจการตั้งครรภ์ค่ะ
เบื้องต้นแนะนำว่า ให้ตรวจการตั้งครรภ์ก่อนนะคะ โดยการตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะด้วยตนเอง สามารถตรวจได้ตั้งแต่ 14 วันหลังมีเพศสัมพันธ์ค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
1. มีโอกาสตั้งครรภ์ค่ะ เพราะยาคุมฉุกเฉินประสิทธิภาพไม่สูงมาก และไม่มีผลคุมกำเนิดหลังรับประทาน ส่วนยาคุมรายเดือน ก็ไม่มีผลคุมกำเนิดฉุกเฉิน และถ้าใช้แผงแรกไม่ทัน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน จะต้องใช้ยาคุมชนิดฮอร์โมนรวมติดต่อกันให้ครบ 7 วันก่อนจึงจะมีผลคุมกำเนิดได้
ดังนั้น การมีเพศสัมพันธ์สัมพันธ์หลังรับประทานยาคุมฉุกเฉิน ในช่วงก่อนที่จะใช้ยาคุมรายเดือนครบ 7 วัน ถือเป็นช่วงที่เสี่ยงต่อการตั้งครรภ์มากค่ะ เพราะไม่มีผลคุมกำเนิดจากทั้งยาคุมฉุกเฉินและยาคุมรายเดือนเลย
อย่างไรก็ตาม ที่ผู้ถามให้ข้อมูลว่า "ประจำเดือนเคลื่อนมา 3 วันแล้ว" ไม่แน่ใจว่าเพราะใกล้ช่วงที่คาดว่าจะมีประจำเดือนมาตามรอบปกติอยู่แล้ว หรือเพราะเข้าใจผิดว่าจะต้องมีประจำเดือนมาภายใน 7 วันหลังรับประทานยาคุมฉุกเฉินกันแน่
ในกรณีที่ใกล้ช่วงที่จะมีประจำเดือนมาตามปกติ ความเสี่ยงอาจลดลงหากอยู่ในช่วง "หน้า 7 - หลัง 7" ถ้าที่ผ่านมาผู้ถามมีประจำเดือนมาตรงเวลาสม่ำเสมอ อย่างไรก็ตาม ก็ยังถือว่าเสี่ยงมากกว่าการคุมกำเนิดด้วยวิธีมาตรฐานหลายเท่านะคะ
แต่ถ้าคิดว่าจะต้องมีประจำเดือนมาภายใน 7 วันหลังรับประทานยาคุมฉุกเฉิน นั่นเป็นความเข้าใจที่ผิดค่ะ
2. ในช่วงที่รับประทานเม็ดยาฮอร์โมนของยาคุมรายเดือน จะไม่มีประจำเดือนมาอยู่แล้วนะคะ นั่นคือ ถ้าไม่ตั้งครรภ์ ประจำเดือนจะมาในช่วงที่รับประทานเม็ดแป้งของแผง โดยมักจะมาหลังใช้เม็ดยาฮอร์โมนหมดไปแล้ว 2 - 3 วัน หรือคลาดเคลื่อนเล็กน้อย
ดังนั้น หากตอนนี้ผู้ถามยังรับประทานเม็ดยาฮอร์โมนไม่หมด ก็จะยังไม่มีประจำเดือนค่ะ แต่ก็รับประกันไม่ได้ว่าจะไม่ตั้งครรภ์ เพราะมีความเสี่ยงมากตามที่กล่าวไปแล้วในข้อ 1
แนะนำให้รอดูว่าจะมีประจำเดือนเมื่อรับประทานช่วงเม็ดแป้งหรือไม่นะคะ ถ้าใช้ไปจนหมดแผงแล้วยังไม่มีประจำเดือนมา ก็สงสัยว่าอาจตั้งครรภ์ค่ะ จึงต้องตรวจการตั้งครรภ์ด้วยชุดทดสอบทางปัสสาวะ ในตอนเช้าหลังตื่นนอนของวันที่ต้องต่อยาคุมแผงใหม่ด้วยนะคะ
ถ้าผลตรวจออกมาเป็น 1 ขีด คือไม่ตั้งครรภ์ จึงจะต่อยาคุมแผงใหม่ตามกำหนดเพื่อให้มีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องได้ค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
แต่มีหมาดขาวไหลออกเยอะเลยนะคะ
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
พิศุทธิกาญจญ์ รังคกูลนุวัฒน์ (พญ.)
ผู้หญิงโดยปกติ ก็สามารถมีตกขาวได้ค่ะ ตกขาวมีสองแบบค่ะ คือ ตกขาวที่ปกติ กับตกขาวที่ไม่ปกติ
1.ตกขาวที่ปกติ เป็นอิทธิพลจากฮอร์โมนเอสโตรเจนในผู้หญิงค่ะ ลักษณะตกขาว จะเป็นสีขาวคล้ายมูก บางครั้งเหลืองปริมาณไม่มาก ลักษณะจะไม่เหมือนหนองนะคะ เป็นการหลุดลอกของบริเวณผิวเยื่อบุช่องคลอดค่ะ
2.ตกขาวที่ผิดปกติ คือตกขาวที่มีปริมาณมาก ลักษณะสีขาว/เหลืองเหมือนนมบูด อาจพบร่วมกับอาการคันช่องคลอดได้ หรือตกขาวมีสีต่างๆ เช่น เป็นน้ำสีเหลือง สีเขียว มีกลิ่นเหม็นหรือไม่มีกลิ่น แสบหรือเจ็บช่องคลอด บางคนอาจปวดท้องมีไข้ได้
>>>ซึ่งถ้าตกขาวของคนไข้ ไม่ได้คัน ไม่เจ็บ ไม่ทากจนต้องใช้ผ้านามัย ก็อาจเป็นตกขาวที่ปกติค่ะ
>>>หากมีอาการผิดปกติดังทีหมอกล่าวไป แนำนำให้ไปตรวจร่างกายกับแพทย์เพิ่มเติมค่ะ
>>>อนึ่ง สิ่งที่แนะนำเป็นพื้นฐานเสมอ คือ การรักษาสุขอนามัยทางเพศค่ะ
-สำหรับการดูแลสุขอนามัยที่ดีของบริเวณอวัยวะเพศ คือ การรักษาความสะอาดอยู่เสมอค่ะ
-เวลาล้าง ล้างด้วยน้ำสะอาดก็เพียงพอ ไม่จำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์หรือการสวนล้างช่องคลอดใดๆ หรือใช้สบู่อ่อนๆล้างรอบนอกอวัยวะเพศก็เพียงพอ
-ไม่แนะนำให้สวนล้างบ่อยๆ เนื่องจากช่องคลอดจะเสียสมดุลแบคทีเรียที่มีอยู่ตามปกติ และจะเป็นเชื้อราได้ง่าย
- ทำความสะอาดหลังปัสสาวะและหลังจากมีเพศสัมพันธ์
-เวลาเช็ดอวัยวะเพศหลังขับถ่าย ควรเช็ดจากหน้าไปหลัง
-กางเกงในไม่ควรคับ และแห้งไม่อับชื้น
- มีคู่นอนแค่คนเดียว และถ้าหากมีความเสี่ยงเกี่ยวกับการเปลี่ยนคู่นอนบ่อยๆ ควรป้องกันทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ เช่น การใส่ถุงยางอนามัย ค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
เรามีเพศสัมพันธ์กับแฟนวันอังคาร ไม่ใส่ถุงหลั่งในตลอดจนถึงวันพฤหัส วันพฤหัสได้ซื้อยาคุมฉุกเฉินมากิน พอกินครบสองเม็ด วันศุกร์ก็ได้กินยาคุมแบบปกติ28เม็ด แล้วก็ได้มีเพศสัมพันธ์อีกหลั่งในตลอดจนถึงวันอาทิตย์(แต่กินยาคุมแบบปกติอย่างต่อเนื่องนะคะ) และหลังจากนั้นก็รอประจำเดือนมา ก็ยังไม่มา ประจำเดือนเคลื่อนมา3วันแล้ว มีโอกาสตั้งครรภ์ไหมคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)