จิตแพทย์กับจิตวิทยาต่างกันยังไง แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าเราจะต้องไปรักษาหรือปรึกษาใครกับอันไหนหรือไปได้ทั้ง2

จิตแพทย์คือ คุณหมอที่ผู้รักษาโรคทางจิตคะ ซึ่งคุณหมอจะต้องเรียนจบ6ปี และต้องเรียนต่อเฉพาะทางด้านจิตเวชคะ เพราะฉะนั้นคุณหมอจะมีความเชี่ยวชาญในด้านนี้มากๆ คุณหมอจะสามารถวินิจฉัยอาการ และสามารถจ่ายยาให้แก่คนไข้ ให้คำปรึกษาและบำบัดอาการได้ ส่วน จิตวิทยา อาจจะหมายถึง นักจิตวิทยาใช่มั้ยคะ ถ้าใช่ นักจิตวิทยาคือ สาขาที่ศึกษาเกี่ยวกับจิตใจ กระบวนการคิดต่างๆพฤติกรรม ของมนุษย์คะ มีหน้าที่บำบัดรักษาพฤติกรรมของมนุษย์ คอยให้คำแนะนำต่างๆ และคอยทำแบบทดสอบทางด้านจิตวิทยาต่างๆเพื่อให้คุณหมอได้ข้อมูลเพิ่มเติม ในการวินิจฉัยโรค ได้คะ ทั้งสองอาชีพนี้ทำงานร่วมกันคะ สามารถปรึกษาได้ทั้ง 2 คนเลยคะ

จิตแพทย์ หรือ psychiatrist คือ ผู้ที่จบหลักสูตรแพทยศาสตร์บัณฑิต 6 ปีมาค่ะ และหลังจากนั้นจึงเลือกศึกษาเฉพาะทางด้านจิตเวช โดยถ้าเป็นหลักสูตรจิตแพทย์ทั่วไป จะรักษาในผู้ใหญ่ใช้เวลาเรียนประมาณ 3 ปีค่ะ ส่วนถ้าเป็นจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่นใช้เวลาเรียน 4 ปีค่ะ

ส่วนนักจิตวิทยา หรือ psychologist คือ ผู้ที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรี -โท -เอก ทางด้านจิตวิทยา โดยจิตวิทยาในปัจจุบันสามารถแบ่งได้เป็น 4 แขนง ดังนี้ค่ะ
1.จิตวิทยาการปรึกษา
2. จิตวิทยาสังคม
3. จิตวิทยาพัฒนาการ
4.จิตวิทยาอุตสาหกรรมและองค์การ

สำหรับการรับการปรึกษา สามารถปรึกษาได้ทั้ง 2 ท่านค่ะ แต่ถ้าเป็นการรักษาโรค การจ่ายยาทางด้านจิตเวชแนะนำให้ปรึกษาจิตแพทย์ค่ะ หรือถ้ามีอาการที่สงสัยว่ามีอาการทางจิตเวชรึป่าว แนะนำให้ปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิต 1323 เพื่อรับคำแนะนำและการคัดกรองขั้นตั้นค่ะ

อ้างอิงข้อมูลหลักสูตรจาก คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ขอให้ข้อมูลเพิ่มเติมนะคะ
1.จิตแพทย์ ตือแพทย์เฉพาะทางสาขาจิตเวชศาสตร์ ทำการตรวจ วินิจฉัยโรค ให้การบำบัดรักษา แก่ผู้ป่วยโรคทางจิตเวช ซึ่งการรักษามีทั้งการใช้ยา และการบำบัด ค่ะ การที่จะเป็นจิตแพทย์ได้ต้องจบแพทย์ทั่วไป 6 ปี แล้วเรียนต่อสาขาเฉพาะทางจิตเวชอีก 2 ปีค่ะ จิตแพทย์จะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ จิตแพทย์ทั่วไป และจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่นค่ะ
2.จิตวิทยา คือ สาขาที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์ซึ่งเน้นศึกษาด้านกระบวนการทำงานของจิตใจ ความคิด อารมณ์ ความรู้สึก และพฤติกรรมการแสดงออกค่ะ จิตวิทยามีหลายสาขา ได้แก่
-จิตวิทยาคลินิก ทำหน้าที่ตรวจวินิจฉัยทางจิตวิทยาโดยใช้เครื่องมือเฉพาะทางด้านจิตวิทยาคลินิก(ตรวจเชาวน์ปัญญา ตรวจบุคลิก ตรวจประสาทจิตวิทยา ตรวจพัฒนาการเด็ก แล้ววิเคราะห์ผล นำผลทั้งหมดรายงานจิตแพทย์เพื่อนำไปประกอบการวินิจฉัยโรคค่ะ ,บำบัดฟื้นฟูผู้ป่วยจิตเวช ผู้ป่วยใช้สารเสพติด รวมถึงผู้ป่วยที่มีปัญหาทางด้านอารมณ์ ปัญหาครอบครัว ปัญหาการปรับตัว ,ทำงานด้านให้คำปรึกษาด้านสุขภาพทั่วไป สุขภาพจิต ,ส่งเสริมให้ความรู้ด้านจิตเวช เป็นต้น นักจิตวิทยาคลินิกจะทำงานใน รพ. ทำงานร่วมกับจิตแพทย์ค่ะ
-จิตวิทยาให้คำปรึกษา สาขานี้จะทำงานในโรงเรียน คอยให้คำปรึกษาแนะแนวทางให้กับนักเรียนตามสภาพปัญหา
-จิตวิทยาอุตสาหกรรมและองค์กร จะทำงานในบริษัท โรงงาน ดูแลเรื่องการสริมศักยภาพของคนทำงาน พัฒนาคน
-จิตวิทยาสังคม สาขานี้ในปัจจุบันไม่ค่อยมีเปิดสอนแล้วนะคะ เนื่องจากจบมาแล้วมักจะหางานทำลำบากค่ะ
-จิตวิทยาพัฒนาการ จะเน้นเรื่องพัฒนาการและการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย ซึ่งจะดูทั้งพัฒนาการที่ผิดปกติ กระตุ้นพัฒนาการให้สมวัย

เบื้องต้นหากมีปัญหาสามารถปรึกษากับนักจิตวิทยาฯได้ก่อนนะคะ หากนักจิตสำรวจปัญหาและประเมินปัญหาแล้วพบว่าเป็นปัญหาที่จำเป็นต้องให้การรักษาจากจิตแพทย์ก็จะส่งต่อให้จิตแพทย์ตามลำดับค่ะ

ส่วนใหญ่ รพ.รัฐ จะมีให้บริการในวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30-16.30 นะคะ บางแห่งก็ให้บริการไม่ครบ 5 วัน ต้องสอบถามจากที่ที่คุณจะไปรับบริการโดยตรงจะชัวร์กว่านะคะ หรือหากสะดวกเสาร์ อาทิตย์แนะนำ รพ.เอกชน
ไม่ทราบว่าอยู่ในเขตจังหวัดไหนคะ จะได้แนะนำให้ถูกค่ะ

เอาแบบที่คุณสะดวกนะคะ ยึดเอาความสะดวกในการเดินทาง เวลารับบริการ และค่าใช้จ่ายที่รับได้นะคะ สำหรับ รพ.ที่มีบริการด้านจิตเวช ในเขตคันนายาวก็ รพ.นพรัตน์ น่ะค่ะ

รพ.นพรัตน์ เป็น รพ.สังกัดกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (รพ.รัฐบาล) มีให้บริการด้านจิตเวชเฉพาะในวันและเวลาราชการนะคะ หรือโทรสอบถามรายละเอียด จากเบอร์ 02-5174270-9 ดูอีกครั้งนะคะ

จริงๆแล้วปัญหาดังกล่าวนั้นอาจเกิดได้จากหลายปัจจัย ทั้งเรื่องของลักษณะบุคลิกภาพ ลักษณะการปรับตัว-การเรียนรู้ ปัจจัยทางด้านร่างกาย ปัจจัยทางการเลี้ยงดู เป็นต้น
การที่จะแก้ไขปัญหาเบื้องต้น อาจเริ่มจากการทำความรู้จักตัวเอง ชอบหรือไม่ชอบอะไร มีการตั้งเป้าหมายในชีวิตไว้อย่างไร สำรวจปัญหามีข้อด้อยหรือข้อที่ควรปรับปรุงให้ดีขึ้น ลิสต์ออกมาเป็นข้อๆ
อย่างตอนนี้คุณรู้ตัวว่ามีปัญหาเรื่องอารมณ์ ลองลิสต์อารมณ์ทางลบที่เป็นปัญหาตามระดับความรุนแรงซึ่งจำเป็นต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วนไล่มาตามลำดับ แล้วหาวิธีการจัดการอารมณ์นั้นมาหลายๆวิธี แล้วตัดสินใจเลือกวิธีที่เหมาะสม แล้วฝึกวิธีนั้นให้เป็นนิสัย ค่อยๆ แก้ไปทีละปัญหา การลำดับปัญหา อาจเริ่มจากปัญหายากๆก่อนหรือเริ่มจากปัญหาง่ายๆก่อนก้ได้ ซึ่งข้อดีข้อเสียแตกต่างกันคือ หากเริ่มจากปัญหายากๆจะเป็นสิ่งท้าทายต้องการเอาชนะ จนสามารถจัดการมันได้ แต่บางคนบอกว่าเลือกปัญหาที่ง่ายๆก่อนเนื่องจากจัดการได้ง่ายและมีโอกาสสำเร็จหรือเห้ผลเร็ว ส่งผลให้เกิดกำลังใจหรือแรงจูงใจที่จะจัดการปัญหาลำดับต่อไปค่ะ
ลองทำดูอย่างที่แนะนำก่อนนะคะ แล้วเรามาคุยกันต่อในอาทิตย์ถัดไปนะคะ