February 16, 2019 00:25
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
การมีประสบการณ์ที่ไม่ดีในอดีตนั้นอาจส่งผลให้เกิดความทุกข์และความเศร้าตามมาได้ครับ เพียงแต่ว่าสิ่งที่ดีที่สุดคือไม่ควรที่จะยึดติดกับสิ่งที่ไม่ดีที่เกิดขึ้นมากจนเกินไป จนทำให้เกิดผลเสียต่อตนเอง จนมีปัญหาการนอนหรือความรู้สึกเหนื่อยตามมาครับ
การที่ไม่สามารถสลัดความคิดของตนเองออกจากปัญหาเดิมๆได้นั้น อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การขาดทักษะในการแก้ปัญหา การมีความเครียดความกังวลที่มากเกินไป ไปจนถึงขั้นที่เป็นโรคซึมเศร้าได้ครับ
หมอแนะนำว่าในกรณีนี้คุณควรลองดึงตัวเองออกมาจากประสบการณ์ที่ไม่ดีในอดีตก่อน พยายามใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน และให้หากิจกรรมที่ผ่อนคลายให้ตนเองได้ทำ รวมถึงควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอครับ
แต่ถ้าหากไม่สามารถดึงตัวเองมาจากความคิดเดิมหรืออารมณ์เศร้าเบื่อที่เกิดขึ้นได้จริงๆ หมอก็แนะนำให้ลองไปปรึกษาจิตแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมเพื่อที่จะได้ช่วยให้คำแนะนำหรือการรักษาที่เหมาะสมต่อไปครับ
นอกจากนี้ก็ยังอาจโทรไปที่สายด่วนสุขภาพจิตเบอร์ 1323 เพื่อขอคำปรึกษาในเบื้องต้นได้อีก 1 ช่องทางครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
จากอาการที่หนูเล่ามา หากมีอาการต่อเนื่องนานเกินกว่า 2 สัปดาห์ อาจมีความเสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้าก็เป็นไปได้นะคะ
เบื้องต้นลองเช็คอาการด้วยการทำแบบประเมินซึมเศร้าด้วยตัวเองดูก่อนนะคะ โดยในช่วงระยะเวลา 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้มีอาการเหล่านี้มากน้อยแค่ไหน
ไม่มีเลย 0 คะแนน
มี 1-7 วัน 1 คะแนน
≥7 วัน 2 คะแนน
ทุกวัน 3 คะแนน
1. เบื่อหน่าย ไม่สนใจอยากจะทำอะไร
2. ไม่สบายใจ ซึมเศร้า ท้อแท้
3. หลับยาก หลับๆตื่นๆ หรือหลับมากเกินไป
4. เหนื่อยง่าย ไม่ค่อยมีแรง อ่อนเพลีย
5. เบื่ออาหาร หรือ กินได้มาก กินจุบจิบตลอดเวลา
6. รู้สึกไม่ดีกับตัวเอง คิดว่าล้มเหลว หรือคิดว่าทำให้ตนเองและครอบครัวผิดหวัง
7. ขาดสมาธิ เหม่อลอย ขี้ลืมบ่อย
8. ทำอะไรช้าลง กระสับกระส่าย อยู่นิ่งไม่ได้
9. คิดทำร้ายตัวเอง อยากตาย หรือตายไปจะดีกว่า
จากนั้นรวมคะแนน หากได้มากกว่า 7 คะแนนขึ้นไป อาจมีแนวโน้มที่จะเป็นซึมเศร้าได้ค่ะ แนะนำให้พบจิตแพทย์ ประเมินอาการเพิ่มเติม แล้วรับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม การรักษาที่ถูกต้องตามแนวทางโรคจะช่วยให้อาการดีขึ้น ปรับตัวได้มากขึ้น ใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติอีกครั้งนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ หนูมีอาการมาเกือบ 2 เดือนแล้วค่ะ หนูคิดว่าซักวันมันคงจะหาย แต่ว่าไม่เลยค่ะ ยิ่งนานหนูยิ่งนอนไม่หลับเพิ่มขึ้น ทำให้หนูเหนื่อยตลอดเวลาเลย หนูเลยอยากปรึกษาหมอน่ะค่ะ
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
ในบางครั้งการมีอารมณ์และความคิดที่ผิดปกติเข้ามารบกวนการใช้ชีวิตเป็นเวลานานนั้นก็อาจเกิดจากการทำงานของสารเคมีในสมองที่ผิดปกติไปได้ ทำให้อาการไม่หายไปเองและอาจต้องใช้ยาช่วยในการรักษาครับ
ถ้าหากอาการเหล่านี้เป็นติดต่อกันมานาน 2 เดือนแล้ว หมอก็แนะนำให้ไปพบจิตแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมก่อน เพื่อที่จะได้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดและให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ขอบคุณมากๆเลยนะคะคุณหมอ🙏🏻
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
อาการเหล่านี้เป็นผลมาจากการหลั่งสารเคมีในสมองผิดปกติ การรักษาจำเป็นต้องใช้ยาเพื่อช่วยปรัสมดุลของสารเคมีในสมองให้เป็นปกติ จะทำให้ความคิด อารมณ์ และการแสดงพฤติกรรมต่างๆเป็นปกติ สามารถควบคุมยับยั้งได้อย่างเหมาะสม ปรับตัวต่อปัญหาต่างๆได้ง่ายขึ้นนะคะ โรคเหล่านี้โอกาสที่จะหายได้เองนั้นค่อนข้างยากนะคะ ในกรณีที่รักษาทานยาสม่ำเสมอ เมื่อต้องเจอกับปัญหารุนแรงก็อาจกระตุ้นให้อาการกำเริบซ้ำได้ง่าย ดังนั้นเมื่อหนูมีความผิดปกติควรเข้ารับการรักษาและปฎิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ อาการของหนูจะค่อยๆดีขึ้นนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ขอบคุสำหรับคำแนะนำนะคะ หนูจะหาเวลาไปพบคุณหมอเร็วๆนี้เลยค่ะ🙏🏻
ตอบโดย
ฉัตรดนัย
ศรชัย
(นักจิตวิทยาการปรึกษา)
Rehabilitation in Mental Health & Addiction
สวัสดีครับ
ขอเพิ่มเติมในส่วนของเรื่องที่บอกว่ามีเรื่องที่ทำให้เสียใจมากๆและอาการเสียใจเหล่านี้คงอยู่มานานมากกว่า 2 เดือนแล้ว ซึ่งตรงจุดนี้ก็เป็นสัญญาณบ่งบอกนะครับว่าคุณควรได้รับการช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ ไม่ว่าจะเป็นจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยา โดยผมขอเพิ่มเติมว่านอกจากการรับการรักษาด้วยการทานยาแล้ว การเข้าพูดคุยรับคำปรึกษาจากนักจิตวิทยาก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งให้คุณสามารถเรียนรู้ในเรื่องของการรับมือกับความเครียด การปรับเปลี่ยนอารมณ์ และเทคนิคต่างๆในการจัดการกับความคิดและสภาพจิตใจของตนเองนะครับ
ในส่วนของเรื่องนอนไม่หลับขอเพิ่มเติมอีกว่า ควรจะจัดสภาพแวดล้อมในห้องนอนไม่ให้มีแสงสว่างเข้า ไม่มีเสียงรบกวน และนอนในที่นอนที่เรารู้สึกสบายและผ่อนคลายครับ ลองพยายามกำหนดเวลานอนที่คุณจะนอนและพยายามปิดไฟนอนในช่วงเวลานั้นของทุกวันเพื่อให้ร่างกายเกิดความเคยชินครับ
นอกจากนั้นแล้วควรงด ชา กาแฟ หรือน้ำอัดลมที่มีส่วนผสมของคาเฟอีกก่อนช่วงเวลานอนครับ การอาบน้ำอุ่น ทานนมอุ่นๆหรือกล้วย การออกกำลังกายในช่วงเย็น ก็จะสามารถช่วยให้ร่างกายมีอาการง่วงมากขึ้นได้ครับ แต่พยายามอย่าออกกำลังกายหักโหมก่อนเวลานอนนะครับเพราะการออกกำลังกายหนักๆจะเป็นการกระตุ้นให้ร่างกายทำงานและอาจจะทำให้หลับได้ยากขึ้น ด้านล่างนี้ผมได้แนบบทความเกี่ยวกับการนอนไม่หลับไว้นะครับหากต้องการข้อมูลก็สามารถเข้าไปศึกษาได้ครับ
https://www.honestdocs.co/insomnia-psychiatric-disorders-sleep-deprivation
สุดท้ายนี้หากมีคำถามอื่นๆก็สามารถสอบถามเข้ามาได้นะครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ ตั้งแต่หนูเจอเรื่องเสียใจนั้น หนูเคยพยายามพูดคุยกับเพื่อนเกี่ยวกับเรื่องของหนู หนูคิดว่าบางทีอาจจะต้องการระบายแค่นั้น แต่พอได้พูดคุย ได้เล่าเรื่องแล้วก็ไม่ได้ทำให้หนูสบายใจขึ้นมาเลย แต่ยิ่งทำให้หนูนอนไม่หลับเพิ่มขึ้น
บทความของคุณหมอหนูเคยเข้ามาศึกษาก่อนหน้าที่หนูพึ่งเริ่มมีอาการแล้วค่ะ หนูคิดว่าหนูคงกังวลมากไป เดี๋ยวมันก็คงหาย เลยคิดว่ามันอาจจะไม่มีผลกระทบมากนัก แต่หนูรู้สึกมันไม่ดีขึ้นเลยค่ะ เลยคิดว่าถามคุณหมอเองน่าจะเป็นอีกทางออกนึง แต่คำแนะนำคุณหมอที่บอกให้ลองจัดสภาพแวดล้อมห้องนอนใหม่นั้นหนูจะลองทำนะคะ
ตอบโดย
ฉัตรดนัย
ศรชัย
(นักจิตวิทยาการปรึกษา)
Rehabilitation in Mental Health & Addiction
ครับผม
จากที่ตอบมาก็จะเห็นได้ว่ามีความรู้สึกเสียใจมานานแล้ว และคุณเองก็ได้พยายามหาวิธีการที่จะทำให้ความเศร้าเหล่านี้ หรืออาการนอนไม่หลับหายไปนะครับ ซึ่งตรงนี้ถือว่าเป็นจุดแข็งของคุณเลยนะครับที่ต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงตนเอง ผมคิดว่าหากการพูดคุยกับเพื่อนไม่ได้ผลดี ตรงนี้ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องกลับไปลองเล่าให้เพื่อนๆคนอื่นๆฟัง ผมคิดว่าสิ่งสำคัญตอนนี้ที่คุณควรจะทำต่อไปก็คือการเข้ารับการช่วยเหลือจากจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาเพื่อที่จะจัดการกับสิ่งที่เกิดขึ้นในจิตใจครับ
การเข้าพบจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาสามารถไปหาได้ตามโรงพยาบาลที่มีแผนกจิตเวชนะครับ ขอแนะนำว่าให้เดินทางสะดวกเพราะว่าการบำบัดรักษาเรื่องทางจิตใจอาจจะต้องอาศัยความต่อเนื่องในการเข้าพบกับผู้เชี่ยวชาญนะครับ ตรงนี้ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ ถ้าหากมีคำถามอื่นๆก็สามารถสอบถามเข้ามาได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หนูมีช่วงที่ทำให้หนูเสียใจมากๆยึดติดอยู่แต่กับสิ่งนั้น เวลาทำอะไรจะชอบคิดถึงมันแล้วก็คิดถึงภาพเก่าๆตลอด และมันทำให้เวลานอนหนูนอนไม่หลับ เวลานอนจะหลับๆตื่นๆ มันอยากนอนมากๆค่ะ แต่มันนอนไม่ได้เลย วันนึงหนูนอนไม่ถึง 5 ชม. ด้วยซ้ำค่ะ หนูรู้สึกเหนื่อยมากๆเลย หนูควรทำยังไงดีคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)